"อสส." เผยรับ 2 สำนวนคดี "กำนันนก" จากกองปราบฯแล้ว พร้อมตั้งคณะทำงานเร่งรัดพิจารณา มีผู้ต้องหารวม 28 ราย ในจำนวนนี้มีตำรวจร่วมด้วย 21 นาย เจอข้อหาตามม.157 คาด 30 พ.ย.นัดฟังสั่งคดี ยืนยันดำเนินการทันฝากขังสุดท้ายแน่นอน

 
ที่สำนักงานอัยการสูงสุด (อสส.) ถนนรัชดาภิเษก เมื่อวันที่ 16 พ.ย.66  นายประยุทธ เพชรคุณ โฆษกสำนักงาน อสส. แถลงข่าวการรับสำนวนคดีที่เกี่ยวข้องกับการเสียชีวิตของ พ.ต.ต.ศิวกร สายบัว สารวัตรสถานีตำรวจทางหลวง 1 กองกำกับการ 2 กองบังคับการตำรวจทางหลวง จากคณะพนักงานสอบสวนกองบังคับการปราบปราม นำโดย พ.ต.อ.เอนก เตาสุภาพ รองผู้บังคับการปราบปราม จำนวน 2 สำนวน
 
สำนวนแรกคดีแรกคือ คดีที่ นายธนัญชัย หมั่นมาก หรือหน่อง ท่าผา ใช้อาวุธปืนยิง พ.ต.ต.ศิวกร เสียชีวิต ในงานเลี้ยงที่บ้านกำนันนก จ.นครปฐม แจ้งข้อกล่าวหานายธนัญชัย ในความผิดฐานข้อหาฆ่าผู้อื่น , พยายามฆ่าผู้อื่นโดยพลาด, และความผิด พ.ร.บ.อาวุธปืนอีก 3 ฐานความผิด แต่เนื่องจากผู้ต้องหาเสียชีวิตแล้ว จึงได้สั่งยุติการดำเนินคดี และนายประวีณ จันทร์คล้าย (กำนันนก) ในฐานความผิดเป็นผู้ใช้ให้ผู้อื่นกระทําความผิดฐานฆ่าผู้อื่นและพยายามฆ่าผู้อื่น โดยในชั้นสอบสวน กำนันนกให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา
 
สำนวนที่สอง เป็นคดีที่มีผู้ต้องหารวม 28 ราย คือ เจ้าหน้าที่ตำรวจที่อยู่ในงานเลี้ยง 21 นาย และพลเรือน 7 ราย รวมกำนันนก ในข้อหาเกี่ยวกับ ละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบและสนับสนุนให้เจ้าพนักงานละเว้นการปฎิบัติหน้าที่ โดยสำนวนนี้จะส่งไปที่สำนักงานคดีปราบปรามการทุจริต ศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบ เป็นผู้รับผิดชอบ ซึ่งนอกจากกำนันนกแล้วผู้ต้องหาที่เหลือได้รับการปล่อยตัวชั่วคราวในชั้นสอบสวน โดยจะนัดทั้งหมดมาฟังคำสั่งคดีในวันที่ 30 พ.ย.นี้ เวลา 09:00 น.
 
ทั้งนี้กำนันนกตกเป็นผู้ต้องหาในทั้ง 2 คดี ซึ่งจะมีกำหนดครบฝากขังครั้งสุดท้าย วันที่ 1 ธ.ค.นี้ ซึ่งทางคณะพนักงานอัยการยืนยันว่าการพิจารณาสำนวนคดีจะเสร็จสิ้นก่อนการฝากขังผัดครั้งสุดท้ายอย่างแน่นอน เนื่องจาก แต่ละสำนวนได้มีการจัดตั้งคณะพนักงานอัยการขึ้นมาเพื่อพิจารณาสำนวนอย่างรอบคอบและรวดเร็ว และเป็นธรรมแม้ว่าจะมีการต้องสอบสวนบางประเด็นเพิ่มเติมก็ต้องจะทันระยะเวลาที่กำหนดแน่นอน ส่วนการพิจารณาคดีจะมีการนับโทษต่อกันทั้ง 2 ศาล ขึ้นอยู่กับว่าศาลใดพิพากษาคดีก่อน
 
ด้าน นายปรีชา สุขสงวน อธิบดีอัยการ สำนักงานคดีอาญา กล่าวว่า ในส่วนของสำนักงานคดีอาญาจะรับผิดชอบในสำนวนที่ 4/2566 โดยมีผู้ต้องหา ทำการฝากขังครั้งที่ 6 ซึ่งจะครบกำหนดฝากขังอีก 2 วัน แต่ยังสามารถขยายเวลาอีก 1 ผลัด ดังนั้นสำนักงานคดีอาญา เหลือเวลาอีก 12 วัน
 
อย่างไรก็ตาม รายละเอียดคดีเราเพิ่งรับสำนวนมาขอใช้เวลาศึกษาดูสำนวนระยะหนึ่ง แต่คิดว่าเสร็จทันเวลาฝากขังครั้งสุดท้ายแน่นอน คดีนี้ถือเป็นคดีสำคัญเป็นที่สนใจของประชาชน ตนจะตั้งคณะทำงานจะให้รองอธิบดีสำนักงานคดีอาญา เป็นหัวหน้าคณะทำงานพร้อมคณะเป็นคณะทำงาน จะมีการประชุมกันในคณะทำงานและจะมีความเห็นหรือมีคำสั่งมาเสนอตนอีกทีนึงเพื่อให้ตนพิจารณาตามระเบียบ แล้วนำส่งนายอำนาจ เจตน์เจริญรักษ์ อัยการสูงสุดทราบ
 
ขณะที่ นายสุรพันธ์ กิจพ่อค้า อธิบดีอัยการสำนักงานคดีปราบปรามการทุจริต กล่าวว่า ในส่วนของตนผู้ต้องหาจะมีจำนวนมากรวมทั้งหมด 28 คน มีทั้งตำรวจ และพลเรือน รวมถึงกำนันนก แต่ละข้อหาจะแบ่งเป็นกลุ่มๆ ซึ่งสำนวนนี้ก็จะมอบให้สำนักอัยการแผนกปราบปรามการทุจริตเป็นผู้รับผิดชอบและจัดตั้งคณะทำงานขึ้นมาเนื่องจากเป็นคดีสำคัญ ใกล้ครบกำหนดฝากขังผัดสุดท้าย ส่วนผู้ต้องหาที่ไม่ได้ฝากขังนั้นทางอัยการสำนักงานปราบปรามทุจริตจะนัด มาวันที่ 30 พฤศจิกายน เวลา 9.00 น. คงดำเนินการให้แล้วเสร็จภายในกำหนด