วันที่ 17 พ.ย.66 ที่ศูนย์รับแจ้งความกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง ทนายรณณรงค์ แก้วเพ็ชร์ ประธานเครือข่ายรณรงค์ทวงคืนความยุติธรรมในสังคม พร้อมพ่อ-แม่ และน้องผู้เสียหายอายุ 30 ปี ที่ไปรักษาอาการกับอาจารย์เอกฝ่ามือพลังจิต แล้วเสียเงินไป 5,000 บาท แต่ปรากฎว่าอาการกับไม่ดีขึ้น เหมือนถูกหลอกลวง อวดอ้างเกินความเป็นจริง เข้าร้องทุกข์กับผู้บังคับการกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับการคุ้มครองผู้บริโภคประสาน 

พ่อของผู้เสียหาย เล่าว่า ช่วงเดือนธันวาคม ลูกชายมีอาการเดินไม่ค่อยตรง เมื่อเห็นคลิปในติ๊กต๊อก ก็ติดต่อไปที่ไลน์ของสำนัก อ.เอก  ฝ่ามือพลังจิต ส่งคลิปอาการลูกชายไปให้ดู สอบถามว่ารักษาได้ไหม เขาตอบแชทกลับมาว่าสามารถรักษาได้ครับ ทำให้เราตื่นเต้นมั่นใจเขาจะรักษาลูกเราหายได้ จึงนัดวันจะเข้าไปรักษา ต้องจ่ายค่าจองคิว 1 พันบาท แต่ต้องลุ้นว่าจะได้คิวรักษาเมื่อไหร่อาจต้องรอนาน ต้องรอจับฉลากเสี่ยงดวงเอา

จากนั้นเขาจึงเสนอว่า ถ้าอยากลัดคิวพิเศษ เป็นเคสกระซิบเคสด่วน ต้องเสียเงิน 5 พันบาท จะได้คิวเข้ารักษาด่วนทันที จึงโอนจ่ายเงินไป 5 พันบาท แล้วก็ได้คิวนัดวันที่ 28 ธันวาคม ที่ผ่านมา เมื่อถึงวันนัดได้ไปรักษา อ.เอก มีการพ่นยา จับหน้าผาก ขา เมื่อถาม อ.เอก ถามลูกชายว่าดีขึ้นไหม ลูกชายบอกไม่ดีขึ้น แล้ว อ.เอกก็ถามอีก จนลูกบอกดีขึ้นนิดนึง พูดเพราะเกรงใจเขา ลูกชายจึงขอเงินคืนเนื่องจากมีการเคลมว่าถ้าไม่ได้ผลยินดีคืนเงิน แต่บอกว่าต้องรักษาต่อเนื่อง เอายาไปพ่นไปทา ขวดละ 650 บาท  2 ขวด 1,300  แต่ใจก็คิดว่า ไม่ไปรักษากับอ.เอกอีกแล้ว เพราะกลัวตั้งเสียเงินอีก 5 พันบาท จึงซื้อยามา 2 ขวด มาใช้ที่บ้านเอง รู้สึกผิดหวังมาก หวังว่าจะมีปาฏิหาริย์ แต่เมื่อไปรักษา มองว่าไม่ช่วยให้ลูกชายหายดี เนื่องจากการวิธีการรักษาไม่ใช่ อาการไม่ทุเลาขึ้นเลย ประกอบกับมีดาราอ้างไปรักษาแล้วดีขึ้น จึงไม่อยากให้มีคนโดนหลอกเหมือนตนเองอีก 

ด้านลูกชาย ผู้เสียหาย เล่าว่า มีอาการกล้ามเนื้ออ่อนแรงจากสมอง ฟังครั้งแรกที่พ่อบอกก็ไม่เขื่อ แต่เมื่อเสียเงินไปแล้วจึงไปรักษากับพ่อ เมื่อไปถึง อ.เอก เอามือมาลูบหน้าผากตนประมาณ 5 นาที แล้วถามว่าอาการดีขึ้นไหม เราก็ตอบว่าไม่ดี อ.เอก ลูบขา บอกลองเดินดูซิดีขึ้นไหม ก็ตอบว่าไม่ดีขึ้น /อ.เอก ก็ถามอีกครั้งจึงเกรงใจเขาบอกดีขึ้นนิดหน่อย แต่อาการก็ไม่หายยังเเอนไม่ได้ จึงขอเงินคืน แต่ อ.เอก บ่ายเบี่ยงไม่คืนเงินกลับบอกให้เอายาไปกินแล้วจะหาย ประกอบกับมีลูกศิษย์พูดรับรองเคยใช้ยาแล้วหายกลับมาเดินได้ปกติ จึงซื้อกลับมาทดลอง 2 ขวด โดยหยดใส่ลิ้น ใช้เครื่องพ่นใส่ใบหน้า ทำไป ประมาณ 1 เดือน ก็ไม่หาย จึงเลิกใช้ยา ยืนยันตอนรักษากับ อ.เอก ตนเองได้ลบอคติทั้งหมด ลองรักษาแต่ก็ไม่ได้ผลไม่หายจริง 

ขณะที่ ทนายรณณรงค์ ระบุว่า ค่าลัดคิว 5 พันบาท ที่จ่ายไปใครทำผิดต้องรับผิดชอบ พร้อมตั้งคำถามกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ส.บ.ส. ว่า ทำไมยังมีการเปิดสำนักรักษาคนป่วยได้ เมื่อมีคนร้องเรียน แถมยังมีดารามาเป็นพรีเซ็นเตอร์อีก ส่วนถั่วแระ ตลกขื่อดัง ที่มีความเชื่อและบอกไปเรียนมา หากมารักษาคนอื่นแล้วเก็บเงินผู้ป่วย ตนเองจะตรียมฟ้องร้องเอาผิดทันที