คุยเฟื่องเรื่องต่างประเทศ/ดร.วิวัฒน์  เศรษฐช่วย

ในช่วงกลางสมัยเลือกตั้งของสหรัฐฯเมื่อปีค.ศ. 2022 จะเห็นได้ว่าครั้งครานั้นบรรดานักการเมืองอนุรักษนิยมหัวรุนแรงขวาจัดตกขอบเริ่มออกโรงมาต่อต้านฝ่ายประชาธิปไตยกันมากพอสมควร

และครั้งนั้นเนื่องจากพรรครีพับลิกันเป็นฝ่ายชนะได้รับเสียงข้างมากเหนือพรรคเดโมแครต จึงมีความจำเป็นที่จะต้องเปลี่ยนขั้วในตำแหน่งประธานสภาผู้แทนราษฎรเข้าไปนั่งแทนที่ “ประธานสภาฯแนนซี เพโลซี” คนเก่าที่สังกัดค่ายพรรคเดโมแครต โดยครั้งนั้นมี “เควิน แม็คคาร์ธี” ได้รับเลือกเข้าไปรับตำแหน่งประธานสภาผู้แทนฯ แต่ทว่าประธานสภาฯแม็คคาร์ธี กลับอยู่ในตำแหน่งได้แค่เพียง 9 เดือน เพราะถูกโค่นอำนาจสั่งปลดออกกลางอากาศ เนื่องจากการไม่ปลื้มของบรรดากลุ่มฝ่ายขวาตกขอบของพรรครีพับลิกัน

จากนั้นมีผลทำให้สภาผู้แทนฯของสหรัฐอเมริกากลายเป็นอัมพาตนอนติดเตียงเดินเหินไม่ได้กิจการต่างๆต้องหยุดชะงักเหมือนติดไฟแดงที่สี่แยกรถราคับคั่ง เพราะไม่มีประธานสภาฯควบคุม และกว่าจะได้ประธานสภาผู้แทนฯคนใหม่ สหรัฐฯต้องเสียเวลาไปเปล่าๆถึงสามสัปดาห์ โดยผู้ที่ได้รับเลือกสามคนแรกทั้งๆที่เป็นฝ่ายอนุรักษ์นิยมด้วยกันก็ตาม แต่กลับไม่เป็นที่พอใจของนักการเมืองขวาตกขอบของพรรคริพับลิกัน และ “อดีตประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์” ทั้งสามคนนั้นจึงต้องยกมือบ๊ายบายถอยออกไปหมดโอกาสรับตำแหน่ง

ในที่สุดเมื่อวันที่ 25 ตุลาคม 2023 ที่เพิ่งผ่านมาไม่นานนี้  “ส.ส.ไมค์ จอห์นสัน” นักการเมืองที่ชาวอเมริกันรู้จักแค่เพียง 1% เท่านั้น เป็นผู้ได้รับการรับรองให้เข้าดำรงตำแหน่งประธานสภาฯคนล่าสุด โดยได้รับความเห็นชอบจากอดีตประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์! เท่ากับว่าขณะนี้อดีตประธานาธิบดีทรัมป์ เป็นหัวหน้าพรรครีพับลิกันไปแล้วโดยปริยาย ที่นักการเมืองของพรรครีพับลิกันส่วนใหญ่ต่างให้ความเกรงอกเกรงใจ เนื่องจากกลัวบารมีของเขานั่นเอง

คราวนี้ผมขอวกกลับมาวิเคราะห์ถึงบทบาทของประธานสภาผู้แทนฯไมค์ จอห์นสัน ที่เพิ่งรับตำแหน่งหมาดๆใหม่เอี่ยมถอดด้ามกันดูบ้าง เนื่องจากขณะนี้เขากำลังถูกทดสอบจากนักการเมืองกลุ่มขวาจัดสังกัดอยู่ในค่ายพรรครีพับลิกันเดียวกัน ที่นักการเมืองกลุ่มนี้ได้เลือกเขาเข้าเป็นประธานสภาฯเมื่อวันที่ 25 ตุลาคม 2023

โดยนักการเมืองขวาตกขอบหัวรุนแรงกลุ่มนี้ มีเพียง 20 คน และประธานสภาฯไมค์ จอห์นสัน ก็เป็นหนึ่งในกลุ่มนักการเมืองค่ายอนุรักษ์นิยมหัวรุนแรงด้วยเช่นกัน สมญานามของกลุ่มพวกเขาชื่อว่า “Freedom Caucus”  ที่ได้รับการสนับสนุนและได้รับการครอบงำจาก อดีตประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ซึ่งมีเป้าหมายที่จะเข้าไปกำหนดนโยบายหลักของพรรครีพับลิกันและของประเทศชาติ

ทั้งนี้พรรรครีพับลิกันมีเสียงข้างมากเหนือกว่าพรรคเดโมแครตในสภาผู้แทนฯอยู่ 9 เสียง นั่นก็คือ 221 ต่อ 212 เสียง เพราะฉะนั้นร่างกฎหมายต่างๆจะต้องผ่านการรับรองจากพรรครีพับลิกันให้ได้เสียก่อน และรวมถึงจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องได้รับความเห็นชอบไม่คัดค้านจากกลุ่มขวาตกขอบทั้ง 20 คนที่รวมอยู่ใน 221 เสียง จึงจะผ่านเป็นกฎหมาย

ที่ผ่านๆมาปรากฏว่า นักการเมืองตัวตึงขวาตกขอบกลุ่มนี้พยายามทำลายขนบธรรมเนียมประเพณีที่สืบทอดกันมานานหลายศตวรรษ และยังมิเกรงกลัวแถมยังกล้าท้าทายนักการเมืองในค่ายพรรคของตนอย่างเปิดเผยอีกด้วย ทั้งนี้อดีตประธานสภาฯหลายๆคนต่างก็เคยตกเป็นเหยื่อทางการเมืองของกลุ่มขวาตกขอบหัวรุนแรงมาแล้วอาทิเช่น “อดีตประธานสภาฯพอล ไรอัน” และ “อดีตประธานสภาฯจอห์น โบเนอร์” ต่างก็ถูกสั่งปลดออกจากตำแหน่งประธานสภาฯ นอกเหนือจากที่อดีตประธานสภาฯคาวิน แม็คคาร์ธี ถูกกดดันจากกลุ่มขวาตกขอบให้ออกจากตำแหน่งด้วยเช่นกันครั้งล่าสุดนี้ เมื่อวันที่ 3 ตุลาคม 2023

ดูเหมือนว่าขณะนี้สหรัฐฯกำลังเผชิญกับประเด็นร้อนๆหลักๆในเรื่องที่ว่า รัฐบาลกลางอาจจะถูกสั่งปิด “Government Shutdown” โดยมีเส้นตายวันที่ 17 พฤศจิกายน 2023 นี้ ซึ่งเป็นช่วงที่งบประมาณจะสิ้นสุดลง

ทั้งนี้ที่ผ่านมานักการเมืองขวาจัดกลุ่มนี้วิพากษ์วิจารณ์นโยบายของประธานาธิบดีโจ ไบเดน มาอย่างต่อเนื่องไม่ว่าจะเป็นเรื่องประธานาธิบดีโจ ไบเดน ทุ่มเทงบประมาณพัฒนาประเทศไปอย่างมาก จนทำให้เกิดปัญหาเงินเฟ้อ และยังมีเรื่องที่นักการเมืองกลุ่มนี้ออกมาคัดค้านต่อต้านเงินสนับสนุนที่ช่วยเหลือในสงครามยูเครนอีกด้วย

จากการที่รัฐบาลอาจจะต้องปิดตัวลงหลังวันที่ 17 พฤศจิกายน 2023 นี้ อาจจะมาจากการบงการของนักการเมืองกลุ่มขวาตกขอบนี้ด้วยเช่นกัน โดย “ศาสตราจารย์รัฐศาสตร์ รอส เบเกอร์” แห่งมหาวิทยาลัยรัตเกอร์ ได้กล่าวเอาไว้เมื่อปลายเดือนกันยายน 2023 ว่า “นักการเมืองขวาตกขอบของค่ายพรรครีพับลิกันกลุ่มนี้ ปฏิบัติตนแบบไร้ขอบเขต ค่อนข้างน่ากลัวที่พวกเขาพากันละเลยและเหยียบย่ำขนบธรรมเนียมประเพณีที่มีมาตั้งแต่อดีต”

โดยขณะนี้ยังดูเหมือนว่าประธานสภาฯไมค์ จอห์นสัน ก็กำลังประสบชะตากรรมเผชิญกับภาวะวิกฤตที่มาจากนักการเมืองกลุ่มขวาตกขอบสุดโต่งเพื่อนร่วมก๊วน อย่างที่เขาก็คาดการณ์ไม่ถึงด้วยเช่นกัน!

เมื่อวันเสาร์ที่ 11 พฤศจิกายน 2023 สัปดาห์ที่แล้ว ประธานสภาฯจอห์สัน ได้เสนอให้ทุนรัฐบาลเป็นการชั่วคราว เพื่อป้องกันมิให้รัฐบาลต้องปิดทำการหรือถูกชัตดาวน์ลงในวันที่ 17 พฤศจิกายน 2023 ที่กำลังจะถึงในอีกไม่กี่วันนี้

โดยประธานสภาฯไมค์ จอห์นสัน ได้เสนองบระยะสั้นให้แก่รัฐบาลบางหน่วยงาน และให้แก่โครงการต่างๆ เพื่อมีโอกาสทำงานได้อย่างไม่ต้องหยุดชะงัก จนถึงวันที่ 19 มกราคม 2024และยังเสนอที่จะต่อทุนให้แก่หน่วยงานอื่นๆไปอีกจนถึงวันที่ 2 กุมภาพันธ์ 2024

โดยร่างกฎหมายดังกล่าวยังไม่รวมเงินที่ประธานาธิบดีโจ ไบเดน เสนอเกี่ยวกับความช่วยเหลือยูเครนและอิสราเอล โดยที่ผ่านมากลุ่มอนุรักษ์นิยมหัวรุนแรงคัดค้านแบบหัวชนฝา ไม่ยอมสนับสนุนมาตรการใช้จ่ายชั่วคราวไม่ว่าจะเป็นแบบใดๆก็ตาม

ทั้งนี้หน่วยงานรัฐบาลกลางได้เริ่มวางแผนรองรับสถานการณ์การปิดหน่วยบริหารของรัฐ และระงับการจ่ายเงินเดือนให้แก่คนงานของรัฐบาลกลางและกองทัพหลายล้านคน  โดยหน่วยงานของรัฐบาลกลางที่จะได้รับความกระทบกระเทือน ได้แก่ กระทรวงการคลัง กระทรวงเกษตร กระทรวงมหาดไทย กระทรวงพาณิชย์ การขนส่ง และองค์การนาซา ตามติดมาด้วย เจ้าหน้าที่หน่วยสืบราชการลับ เจ้าหน้าที่กรมศุลกากรและป้องกันชายแดนที่พวกเขาจำเป็นที่จะต้องออกมาปฏิบัติงาน แต่จะไม่ได้รับค่าจ้างระหว่างที่รัฐบาลปิดทำการ แน่นอนว่าพวกเขาจะต้องได้รับผลกระทบที่ส่งตรงต่อไปยังครอบครัวของเขาอีกด้วย

อย่างไรก็ตามสถานการณ์ดังกล่าวเคยเกิดขึ้นแล้วในสมัยของอดีตประธานาธิบดีทรัมป์ เป็นเวลา 35 วัน ระหว่างวันที่ 22 ธันวาคม 2018 จนถึงวันที่ 25 มกราคม 2019 ที่พนักงานของรัฐบาลกลางประมาณ 800,000 คนทำงานแต่ไม่ได้รับค่าจ้างใดๆในช่วงรัฐบาลปิดทำการ ซึ่งถือเป็นการปิดทำการของรัฐบาลที่มีระยะยาวนานที่สุดในประวัติศาสตร์การเมืองของสหรัฐฯ โดยขณะนั้นที่ขยะกองพะเนินเทินทึกทั่วกรุงวอชิงตัน (ข้อมูลจากสำนักข่าว “Politico” เมื่อวันที่  25 มกราคม 2019)

ทั้งนี้ประธานสภาฯไมค์ จอห์นสัน ได้ออกมากล่าวเมื่อวันเสาร์ที่แล้วว่า “เรากำลังทำงานแข่งกับเวลา ให้ทันในวันที่ 17 พฤศจิกายน 2023นี้ ที่จะเป็นวันที่เงินทุนของรัฐบาลหมดอายุลง” หากว่ารัฐบาลของสหรัฐฯต้องถูกปิดตัวลงหลังในวันที่ 17 พฤศจิกายน 2023นี้ จะมีกรมอุทยานแห่งชาติ ประมาณ 425 แห่งทั่วประเทศ รวมถึงสวนสาธารณะต่างๆทั่วสหรัฐจะปิดตัวลงอีกด้วย! การชัตดาวน์หรือการที่รัฐบาลปิดทำการย่อมเป็นปัญหาอย่างร้ายแรงที่จะเกิดขึ้นกับบรรดานักท่องเที่ยว และจะส่งผลกระทบต่อพนักงานรัฐบาลกลาง 4 ล้านคน ที่พวกเขาจะต้องไปทำงานโดยไม่ได้รับค่าจ้าง รวมทั้งเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย ณ สนามบินต่างๆอีกราวๆ 500,000 คน ที่พวกเขาต้องไปทำงานเพราะถือว่าเป็นส่วนสำคัญต่อความมั่นคงของประเทศ การดำเนินคดีอาญาในศาลก็จะดำเนินต่อไป โดยอาศัยพนักงานรัฐบาลกลางที่เต็มใจไปทำงานโดยไม่รับค่าจ้าง (ข้อมูลจากสถานีโทรทัศน์ ABC News วันที่ 13   ตุลาคม 2023)

อนึ่งเมื่อ 30 กันยายนที่เพิ่งมานี้ รัฐบาลกลางก็เกือบจะเกิดภาวะปิดทำการมาแล้วครั้งหนึ่ง แต่ทว่าโชคดีที่วุฒิสมาชิกต่างร่วมมือร่วมใจกันลงมติ ก่อนถึงเส้นตายเพียงแค่สามชั่วโมงเท่านั้นโดยประธานาธิบดีโจ ไบเดน ลงนามในมาตรการดังกล่าวในช่วงดึก จนมีผลให้ผ่านร่างกฎหมายอนุญาตให้รัฐบาลอยู่ต่อได้อีก 45   วัน จนถึงวันที่ 17 พฤศจิกายน 2023 นี้เอง

อย่างไรก็ตามถือเป็นผลงานที่ดีอีกชิ้นหนึ่งของประธานาธิบดีโจ ไบเดน ที่เขาออกมาหลีกเลี่ยงมิให้รัฐบาลกลางจะต้องปิดตัวลงเมื่อวันที่ 30 กันยายน 2023 ที่ครั้งนั้นมีอดีตประธานสภาฯเควิน แม็คคาร์ธี ร่วมมือช่วยเหลือ จนเป็นเหตุทำให้นักการเมืองกลุ่มขวาจัดไม่พอใจสั่งปลดกลางอากาศ เมื่อวันที่ 3 ตุลาคม 2023ที่ผ่านมา

กล่าวโดยสรุปทั้งนี้และทั้งนั้นวิกฤติที่กำลังเกิดขึ้นในสหรัฐอเมริกาขณะนี้ นับได้ว่า “ประธานสภาฯไมค์ จอห์นสัน” กำลังถูกทดสอบและหากว่าเขาไม่สามารถได้รับเสียงสนับสนุนจากนักการเมืองหัวรุนแรงกลุ่มขวาตกขอบของค่ายพรรครีพับลิกันเช่นเดียวกับเขา ก็เป็นที่แน่นอนแล้วว่า “ประธานาธิบดีโจ ไบเดน”และ “วุฒิสมาชิกชัค ชูเมอร์” ผู้นำเสียงเสียงข้างมากในวุฒิสภา ที่ทั้งคู่ต่างก็สังกัดอยู่ในค่ายพรรคเดโมแครตคงจะต้องยื่นมือเข้ามาร่วมมือกอบกู้สถานการณ์บ้านเมือง แม้จะอยู่กันคนละค่ายพรรคกับประธานสภาฯไมค์ จอห์นสัน เพื่อป้องกันไม่ให้สหรัฐฯต้องเสี่ยงกับความเสียหายอย่างมากมายมหาศาลที่อาจจะเกิดขึ้นได้ละครับ