ไลฟ์สไตล์คลายเหนื่อย..สัมผัสชีวิตเด็กหนุ่มปากเพรียวแห่งเมืองสระบุรี ลูกชายพ่อพิมพ์-แม่พิมพ์ของชาติ ตั้งใจศึกษาเล่าเรียนยึดหลักการทำงานของอาทั้งสองที่เป็นตำรวจเป็นไอดอลตัวอย่างที่ดี จึงขอเป็นตำรวจทำหน้าที่ผู้พิทักษ์สันติราษฎร์เพื่อรับใช้ประชาชน
พ.ต.ท. วรภัทร (แมน) สุขไทย
รองผู้กำกับการป้องกันปราบปราม
สถานีตำรวจนครบาลบางซื่อ
ผมเกิดที่อำเภอเมืองสระบุรี จังหวัดสระบุรี เป็นบุตรของคุณพ่อสหัสส์-คุณแม่ณัฏฐา สุขไทย อาชีพ รับราชการครู ทั้ง 2 ท่าน (ปัจจุบันเกษียณแล้ว) มีพี่น้อง 2 คน 1 นางวรลักษณ์ ทิพยกุล พี่สาว รองผู้อำนวยการฝ่ายธุรกิจประกัน ธนาคารกสิกรไทย
2.พ.ต.ท. วรภัทร สุขไทย รองผู้กำกับการป้องกันปราบปราม สถานีตำรวจนครบาลบางซื่อ
เขารับการศึกษาระดับชั้นประถมศึกษา ปีที่ 1ถึงปีที่ 6 โรงเรียนอนุบาลสระบุรี และศึกษาระดับมัธยมศึกษาปีที่ 1-4 ที่ โรงเรียนสระบุรีวิทยาคม
และศึกษาต่อระดับมัธยมศึกษาปีที่ 5-6โรงเรียนเตรียมทหาร (นตท.43) และศึกษาระดับปริญญาตรี โรงเรียนนายร้อยตำรวจ (นรต.59) และศึกษาต่อระดับปริญญาโท สถาบันบัณฑิ พัฒนบริหารศาสตร์ (นิด้า)
เมื่อจบจากโรงเรียนนายร้อยตำรวจออกมาดำรงตำแหน่ง รองสารวัตร ประจำ รร.นรต.-พนักงานสอบสวน (สบ 1) สภ.หนองแค ภ.จว.สระบุรี
- รองสารวัตรสืบสวน สภ.หนองแค ภ.จว.สระบุรี
- รองสารวัตรสืบสวน กองกำกับการสืบสวน ภ.จว.พระนครศรีอยุธยา-รองสารวัตรป้องกันปราบปราม สน.บางยี่ขัน -รองสารวัตรกองกำกับการ 2 กองบังคับการปราบปราม-สารวัตรฝ่ายอำนวยการ กองวิจัย สำนักงานยุทธศาสตร์ตำรวจ-สารวัตรป้องกันปราบปราม สน.บางซื่อ - รองผู้กำกับการ (สอบสวน) สน.บางซื่อ ปัจจุบัน รองผู้กำกับการป้องกันปราบปราม สน.บางซื่อ
ปัจจุบัน
ปัจจุบันสมรส กับ ร้อยโทหญิง สิริภรณ์ แข็งแรง มีบุตรชายด้วยกัน 1 คนชื่อน้องมาร์วิน
สำหรับการให้เวลาว่างกับครอบครัวทุกวัน หลังจากเลิกงาน กลับบ้านไปดูแลครอบครัวทันที เนื่องจากบุตรชายอายุเพียง 4 เดือน จึงต้องดูแลอย่างใกล้ชิด เพราะวัยเด็กแรกเกิดเป็นช่วงเวลาสำคัญที่สุดในการเติบโต พัฒนาการ และเรียนรู้สิ่งต่างๆ เมื่อมีเวลาว่าง ผมกับภรรยา จะพาบุตรชายไปทำบุญตามวัดต่างๆ และเดินออกกำลังกายตามสวนสาธารณะที่บรรยากาศร่มรื่น เพื่อผ่อนคลายให้กัลร่างกาย และให้บุตรชายได้เรียนรู้ธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมภายนอก
ผมเป็นชาวพุทธสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่คุ้มครองและห้อยคอยอยู่เป็นพระประจำตัวคือเหรีญพญาครุฑ ของพระอาจารย์วราห์ วัดโพธิ์ทอง (รุ่นล้างอาถรรพ์ 2)
ซึ่งก่อนหน้านี้ได้ห้อยพญาครุฑ ที่คุณแม่ของภรรยามอบให้ เป็นองค์เล็ก โดยแม่ยายได้อวยพรขอให้มีความเจริญก้าวหน้าในด้านหน้าที่การงาน ตามประวัติพญาครุฑ เสริมอำนาจ วาสนาบารมีหรืออีกชื่อหนึ่งเรียกว่า “สุบรรณ” หมายถึง ขนวิเศษ แต่เดิมครุฑมีนามว่า “เวนไตย” เกิดจากนางวินตา ครุฑแต่กำเนิดเกิดมามีกำลังมหาศาล มีรัศมีสีทองสว่างไสวกว่าพระอาทิตย์นับร้อยเท่า มีศรีษะ จะงอยปาก และปีกเหมือนนกอินทรี แต่แขนขา เหมือนมนุษย์เมื่อครั้นพญาเวนไตยเติบใหญ่ ทราบว่ามารดาของตนนั้นตกเป็นทาสของกัทรุ เพราะแพ้อุบายเมื่อครั้งทายสีม้าเทียมรถทรงของพระอาทิตย์ในอดีต โดยนางกัทรุใช้อุบายให้นาคผู้เป็นลูกไปพ่นพิษรถม้า เพื่อให้สีขาวของรถม้ากลายเป็นสีดำ พญาเวนไตยจึงขอไถ่ตัวมารดาของตนจากเหล่านาค แต่มีข้อแม้ว่า ต้องไปเอาน้ำอมฤตที่พระอินทร์เก็บรักษาไว้บนสวรรค์มาให้พวกนาค ด้วยความที่พญาเวนไตยอยากจะช่วยมารดา จึงได้ตกลงเดินทางไปเอาน้ำอมฤตที่พระอินทร์ ระหว่างเดินทางหิวก็ได้จับคนป่าเถื่อนกินเป็นอาหาร และได้พบกับเต่าและช้างตัวใหญ่ขนาดมหึมา พญาเวนไตยคาบทั้งคู่บินไปเกาะกิ่งไทรที่มีความยาวหนึ่งร้อยโยชน์ แต่กิ่งไกรรับน้ำหนักไม่ไหว ก่อนที่กิ่งไทรจะหักลงมา เหลือบไปเห็นพวก พาลขิยะ “ฤาษีแคระ” ขนาดเท่านิ้วมือจึงเอาเท้าจับกิ่งไทรบินพาไปวางไว้ที่เขาเหมกูฏ บรรดาฤๅษีเห็นพญานกตนนี้มีจิตใจงดงามยิ่งนัก จึงให้ชื่อว่า “ครุฑ” แปลว่าผู้รับภาระอันหนัก และยังให้พรว่า ไม่ว่าจะทำสิ่งใดให้สำเร็จตามประสงค์ มีพละกำลังมหาศาล ไม่มีผู้ใดต้านทานได้
ไม่น่าเชื่อว่ามีแต่สิ่งดีๆ เข้ามาในชีวิตและได้รับโอกาสความไว้วางใจ จากผู้บังคับบัญชา ย้ายจากรองผู้กำกับการ (สอบสวน) สน.บางซื่อ มาเป็น รองผู้กำกับการป้องกันปราบปราม สน.บางซื่อ เกิดความเปลี่ยนแปลงในชีวิตครั้งยิ่งใหญ่ในทันที ผมเคารพและศรัทธาในสิ่งที่ได้รับมา เนื่องจากพญาครุฑเป็นสัญลักษณ์ขององค์พระมหากษัตริย์ ซึ่งผมเทิดทูนเคารพสูงสุดแล้วนั้น ผมจึงตั้งใจทำงานอย่างเต็มกำลังความสามารถ โดยปีแรกที่ดำรงตำแหน่ง รอง ผกก.ป.สน.บางซื่อ
สำหรับการทำงานของผมโดยเฉพาะด้านการปราบปรามอาชญากรรมทุกรูปแบบ สามารถดำเนินคดีกับวินผีที่กรรโชกทรัพย์เด็กชาย 2 คนพี่น้องที่จะเดินทางกลับภูมิลำเนา จว.เชียงใหม่ ช่วงเทศกาลหยุดยาว โดยได้รับคำชมเชยจากท่าน พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบ.ตร.ในขณะนั้น ทำให้ได้รับรางวัล “ตำรวจดีเด่น ต้นแบบงานป้องกันปราบปราม ปี 2565 จากมูลนิธิบุณยะจินดา”ต่อมาปี 2566 ขยายผลจับกุมวินผี บขส.หมอชิต ตามนโยบาย พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผบ.ตร. โดยมีผลการปฏิบัติอย่างต่อเนื่องเป็นประจำทุกเดือน ตามที่ปรากฏตามสื่อหลัก และโซเชียลมีเดียต่างๆ ซึ่งได้ทำการขยายผลการจับกุมไปยังแก๊งตำรวจปลอมที่แฝงตัวอยู่ในกลุ่มวินผี บขส.หมอชิต ที่มีพฤติการณ์ปลอมตัวเลียนแบบเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจนอกเครื่องแบบ มีหมวกแก๊ปตำรวจ เสื้อแจ็คเก็ตหลักสูตรสารวัตร ระบุรุ่น และแท็กห้อยคออ้างตัวเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจฝ่ายสืบสวน ดักตรวจปัสสาวะผู้มีลักษณะต้องสงสัยเสพยาเสพติด และต่างด้าว และตบทรัพย์รับเคลียร์คดีเป็นเงินสด ประมาณ 5,000-
10,000 บาท/เคส จนได้รับฉายา “มือปราบวินผี-มาเฟียหมอชิต” จากพี่ๆ สมาคมผู้สื่อข่าวฯ
หลังจากกวาดล้างแก๊งวินผี-ตำรวจปลอม/มาเฟียหมอชิต เรียบร้อยแล้ว ได้นำกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.บางซื่อ ทุกสายงาน ร่วมกันกวาดล้างแก๊งหน้าม้าเคาะกระจก บริเวณโดยรอบกรมขนส่งทางบก ในข้อหาก่อความเดือดร้อนรำคาญ แก่พี่น้องประชาชนที่สัญจรผ่าน และมาต่อ พ.ร.บ./ภาษี ที่กรมขนส่งทางบก โดยในปี 2566 นี้ได้รับรางวัล- ข้าราชการดีเด่น จากสมาคมหนังสือพิมพ์ส่วนภูมิภาคแห่งประเทศไทย- Top Cop’s Award จาก บก.นิตยสาร The Cop’s Magazine- ตำรวจดีเด่น งานป้องกันปราบปราม ปี2566 จากท่าน พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผบ.ตร.ในขณะนั้น- ตำรวจดีเด่น งานป้องกันปราบปราม ของ บช.น. จาก พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผบช.น.
ความประทับใจในการรับราชการ ได้มีโอกาสปฏิบัติภารกิจในการถวายความปลอดภัยพระบรมวงศานุวงศ์ ทุกประองค์ ทั้งกรณีที่เสด็จผ่านพื้นที่รับผิดชอบ และเสด็จประทับที่หมายในพื้นที่ สน.บางซื่อ อย่างใกล้ชิด ซึ่งเป็นไปด้วยความเรียบร้อยทุกพระองค์ ทุกภารกิจ และได้ปราบปรามแก๊งอาชญากรรมทุกรูปแบบที่ประชาชนร้องเรียนได้ครบทุกแก๊ง จนได้รับการยอมรับจากประชาชนในพื้นที่ เพื่อนร่วมงาน ผู้บังคับบัญชา และพี่น้องสื่อมวลชนทุกท่าน ถ้าให้เปรียบ อาชีพหมอ มีหน้าที่รักษาคนไข้ ส่วนอาชีพตำรวจ มีหน้าที่รักษาความสงบเรียบร้อยของสังคมให้กับพี่น้องประชาชน ได้อยู่อย่างเป็นสุข ไม่รู้สึกหวาดกลัวภัยจาอาชญา
กรรมในทุกรูปแบบ
หลายๆท่านมักถามผมเสมอว่าคิดอย่างไรมาเป็นตำรวจ บอกได้เลยครับว่าผมได้แบบอย่างที่ดีจากคุณอา ทั้ง 2 ท่าน ที่เป็นนายตำรวจตั้งแต่ผมยังเป็นเด็ก ซึ่งเป็นผู้แนะนำให้ผมสอบเข้าเป็นนักเรียนเตรียมทหาร และเลือกเหล่าตำรวจ คือ 1.พ.ต.อ.เทอดไท สุขไทย ผกก.ศูนย์ฝึกอบรม สำนักงานพิสูจน์หลักฐาน (นรต.45) และ 2.พ.ต.อ.คมกฤช สุขไทย รอง ผบก.สอท.1 บช.สอท. (นรต.48) ปัจจุบันผมได้ปรึกษาเรื่องการทำงานกับอาเป้ (พ.ต.อ.เทอดไทฯ) และอาเป็ก (พ.ต.อ.คมกฤชฯ) และได้รับคำแนะนำที่ดีมาโดยตลอด
ส่วนอุดมคติการทำงานในความคิดของผมนั้น คุณค่าของการเป็นผู้พิทักษ์สันติราษฎร์ คือการทำงานรับใช้สถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ และประชาชน อย่างเต็มกำลังความสามารถ เพื่อให้เกิดความเชื่อมั่น ศรัทธาจากประชาชนอย่างแท้จริง