สลด หน.ชุดอาสาสมัครผลักดันช้างป่าดงใหญ่จ.บุรีรัมย์  นอนเสียชีวิตในพื้นที่เฝ้าระวังช้างป่า  คาดพักผ่อนน้อยประกอบกับอาการหนาวเย็น  ทำให้หัวใจล้มเหลวเฉียบพลัน   ภรรยาเผยสามีออกเฝ้าระวังผลักดันช้างป่าร่วมกับ จนท.ตลอด  เพราะช้างออกมาหากินพืชไร่ของชาวบ้านทุกคืน

 

 (21 พ.ย.66)  เกิดเหตุสลด นายเดช  บุตรทอง   อายุ 52 ปี  ซึ่งเป็นหัวหน้าชุดอาสาสมัครเฝ้าระวังผลักดันช้างป่าดงใหญ่ จ.บุรีรัมย์  นอนเสียชีวิตภายในสวนปาล์มของชาวบ้าน  ในหมู่บ้านป่าไม้สหกรณ์ ต.ลำนางรอง  อ.โนนดินแดง  จ.บุรีรัมย์  เมื่อคืนวันที่ 20 พ.ย.ที่ผ่านมา  ในสภาพสวมกางเกงขายาว เสื้อแขนยาว สวมหมวกไหมพรม และห่มผ้ามิดชิด บนที่นอนแบบปิคนิก  อยู่ใกล้กับกองไฟที่จุดไว้ไล่ยุงและสร้างความอบอุ่น  โดยจากการตรวจสภาพศพไม่พบร่องรอยจากการถูกทำร้ายร่างกายแต่อย่างใด เจ้าหน้าที่จึงสันนิษฐานว่าผู้ตายอาจจะพักผ่อนน้อยประกอบกับช่วงนี้สภาพอากาศหนาวเย็นด้วย  อาจจะทำให้เกิดภาวะหัวใจล้มเหลวเฉียบพลัน   ซึ่งทางญาติก็ไม่ได้ติดใจสาเหตุการเสียชีวิต

 ทางครอบครัวจึงได้นำศพของนายเดช    ไปตั้งบำเพ็ญกุศลที่บ้านเลขที่ 14 หมู่ 6 บ้านป่าไม้สหกรณ์ ต.ลำนางรอง อ.โนนดินแดง  ท่ามกลางความโศกเศร้าของครอบครัว  ขณะชาวบ้านที่ทราบข่าวโดยเฉพาะคนที่เป็นอาสาสมัครร่วมเฝ้าระวังผลักดันช้างด้วยกัน  ต่างทยอยมาแสดงความเสียใจและเคารพศพนายเดช  อย่างต่อเนื่อง  

 สอบถามนายรุ่งทิวา   อบอุ่น อายุ 30 ปี หลานผู้ตาย และเป็นหนึ่งในอาสาสมัครผลักดันช้างป่าทำงานอยู่ในชุดเดียวกันกับผู้ตาย เล่าว่า  ช่วงบ่ายวันเกิดเหตุ ลุงเดช ได้โทรศัพท์มาหาช่วงประมาณ 15:00 น บอกว่ามีช้างป่าออกมานอกเขตป่า ให้ตนเข้าไปช่วยผลักดันขับไล่   ซึ่งตนก็ตามไปทีหลัง ก็พบว่ามีช้างออกมาจริง   จากนั้นก็ช่วยกันไปผลักดันขับไล่ช้างกลับคืนสู่ป่า  พอช่วงเย็นก็แยกย้ายกันกลับบ้าน  และออกมาเฝ้าระวังอีกทีตอนช่วงกลางคืน  แต่ทุกคนก็บอกให้ลุงเดชนอนพักผ่อนก่อน เพราะลุงเดช ทำงานยังไม่ได้พัก พวกตนจึงอาสาออกไปขับไล่ช้างเอง   พอกลับมาก็ยังเห็นลุงเดชนอนอยู่บนที่นอนพับปิคนิคใกล้กองไฟ  จนกระทั่งช่วงประมาณตี 05:00 น. ทุกคนไปปลุกเพื่อให้กลับบ้านก็พบว่าเสียชีวิตแล้ว  ก็รีบแจ้งเจ้หน้าที่ไปตรวจสอบ คาดว่าน่าจะเกิดจากการพักผ่อนน้อยเพราะลุงเดช ต้องทำงานรับจ้างและเป็นอาสาเฝ้าระวังผลักดันช้างป่าด้วย  ทั้งยังเป็นจิตอาสาอีกหลายอย่างจึงไม่ค่อยได้พักผ่อน  ประกอบกับช่วงนี้อากาศหนาวเย็นด้วย   อาจทำให้หัวใจล้มเหลวเฉียบพลัน   ก็เสียใจเพราะลุงเดช เป็นคนดี 

 ด้านนายพิษณุ ดิเรกกุล อายุ 65 ปี อดีตข้าราชการบำนาญ และเป็นเพื่อนบ้านของลุงเดช  บอกว่า รู้สึกใจหาย  เพราะผู้ตายเป็นคนที่มีจิตอาสาชอบช่วยเหลือชาวบ้าน  ทำให้ชาวบ้านรักและชื่นชมในความมีจิตอาสา    และการที่ผู้ตายเป็นผู้ก่อตั้งชุดอาสาสมัครผลักดันช้างป่าตั้งแต่ปี 2560 ก็มีชาวบ้านมาร่วมเป็นอาสาสมัครหลายคน  ผู้ตายก็เสียสละออกเฝ้าระวังผลักดันช้างป่าตลอด  ทั้งกลางวันกลางคืนถึงแม้จะไม่ได้มีรายได้หรือสวัสดิการอะไร  แต่พวกเขาทำด้วยจิตอาสา   ส่วนตัวจึงอยากให้หน่วยงานภาครัฐได้เล็งเห็นในความเสียสละของคนกลุ่มนี้  อย่างน้อยควรจะมีสวัสดิการเพื่อเป็นขวัญกำลังใจให้กับพวกเขาด้วย  รวมถึงเจ้าหน้าที่ที่ทำงานด้านนี้ควรจะดูแลด้วยเช่นกัน  เพื่อพวกเขาจะได้มีกำลังใจในการทำงาน 

          ด้านนางยุพิน   บุตรทอง อายุ 52 ปี ภรรยาลุงเดช  บอกว่า  สามี เป็นคนจริงจังกับการช่วยเหลือสังคมมากไม่ว่าจะกิจกรรมอะไร  โดยเฉพาะการเป็นอาสาผลักดันช้างป่า  สามีจะออกเฝ้าระวังผลักดันช้างป่าทุกคืน  เวลาที่ชาวบ้านโทรมาว่าเห็นช้างออกมากินพืชสวนพืชไร่ตรงไหน  สามีจะออกไปผลักดันขับไล่ทันที   ก็ภูมิใจในตัวสามีที่ทำงานเพื่อสังคม  แต่ก็เสียใจที่ต้องมาจากไปเร็ว   โดยเฉพาะวันที่ 1 ธ.ค.ที่จะถึงนี้  ลูกสาวคนเล็กกำลังจะแต่งงาน  แต่พ่อก็ไม่ทันได้อยู่ร่วมงานมงคลของลูกสาว