วันที่ 23 พ.ย.66 เพจ โหนกระแส โพสต์ข้อความระบุว่า รายการโหนกระแสวันนี้ พูดคุยกับกลุ่มผู้เสียหายที่ซื้อทัวร์กับบริษัทดัง สุดท้ายถูกเลื่อนทัวร์ ไม่ได้เดินทาง แต่ไม่ได้เงินคืน จนต้องรวมตัวไปร้องกับสภาผู้บริโภค รวมทั้งสายไหมต้องรอด หวังจะได้เงินคืน

กลุ่มผู้เสียหายเล่าว่า ผู้เสียหายแต่ละเคส จำแนกเป็นกลุ่มใหญ่ๆ ได้ 3 กลุ่ม คือ 1. คนที่ซื้อทัวร์แล้ว ได้ไปจริง แต่ไปแล้วเกิดปัญหา บางคนต้องหาเงินซื้อตั๋วบินกลับเอง บางคนถูกบริษัทขอยืมเงินระหว่างทริป บางครั้งมีการเรี่ยไรเงินของลูกทัวร์ เพื่อขอเงินจ่ายค่ารถ เพื่อให้เดินทางได้ อ้างว่าบัญชีถูกอายัด 2. กลุ่มที่จองซื้อทัวร์ แล้วถึงกำหนดการต้องเดินทางแล้ว แต่ไม่ได้เดินทาง ทริปถูกเลื่อน ซึ่งจะมีทั้งคนที่ยอมรอ และคนที่ขอเงินคืน และ 3. กลุ่มที่ซื้อทัวร์ล่วงหน้าข้ามปี ยังไม่ถึงกำหนดเดินทาง แต่เมื่อเจอปัญหาก็เริ่มมีคนขอเงินคืน ขณะที่บางกลุ่มก็ยังไม่ได้ขอคืน แต่ก็ต้องลุ้นว่าถ้าถึงเวลาแล้วจะได้เดินทางหรือไม่

สิ่งที่ทำให้ผู้เสียหายตัดสินใจซื้อทัวร์กับบริษัทนี้ เพราะก่อนหน้ามีหลายคนเคยไปกับเขามา จะพูดตรงกันว่า เขาน่ารักมาก ดูแลดีมาก กินหรู อยู่อย่างราชา ทริปเที่ยวพาไปแต่ที่เด็ดๆ ปังๆ รีวิวจากคนที่ได้ไปจริงดีมากๆ

นอกจากนี้ยังมีการอัดโปรโมชั่นแรงมาก อาทิ ไปปารีส 10 วัน ราคา 1.2 แสนบาท ซื้อ 1 แถม 1 เท่ากับเหลือคนละ 6 หมื่นเท่านั้น หรือ สวิตเซอร์แลนด์ 10 วัน 4.9 หมื่นบาทต่อคน ราคาถูกแบบไม่น่าเชื่อ หรือประเทศใกล้ๆ อย่าง เวียดนาม 4 วัน 3 คืน ราคาแค่ 1.3 หมื่นบาท

ผู้เสียหายเห็นว่ารีวิวดี ก็คิดว่าราคาถูกขนาดนี้ เขาอาจจะมีการจองที่พัก จองตั๋วล่วงหน้า รวมทั้งเอาไปถัวเฉลี่ยกับราคาของลูกค้าที่จ่ายแพงกว่านี้ ผู้เสียหายบางคนเคยไปมาครั้งหนึ่งแล้วประทับใจมาก ก็กลับมาจองทริปไปที่อื่นเพิ่มอีกเป็น 10 ทริปเลยก็มี

แต่สุดท้ายพอเกิดปัญหา ทางบริษัทก็เริ่มมีปัญหายิบย่อย ทั้งเลื่อนทัวร์ เลื่อนการเดินทาง ขอวีซ่าไม่ผ่าน เงินที่จ่ายไปแล้วก็ยังไม่ได้คืน พอมันเกิดปัญหาขึ้นมาก็ติดต่อยากมาก ติดต่อไม่ได้ เวลามีคนไปทวงถามมากๆ คนที่เป็นลูกค้าที่ได้ไปจริง ก็จะมาช่วยโต้แย้ง ว่าอย่าไปกดดันเขา อย่าไปบีบบังคับเขามาก เพราะเขาก็พาไปเที่ยวได้จริงๆ กลายเป็นว่าคนทวงกลายเป็นคนใจร้ายแทน

อยากจะบอกว่า คนนอกที่มองเข้ามา มองว่านี่เป็นทุกข์ของคนรวย อยากจะบอกว่า เราไม่ได้รวยอะไร บางคนเป็นคนแก่เกษียณอายุ เขาเอาเงินที่เขาหามาทั้งชีวิตมาเที่ยวในบั้นปลาย บางคนขายของหาเช้ากินค่ำ เก็บเงินแทบตาย หวังจะพาลูกไปเที่ยวต่างประเทศใกล้ๆ เพื่อให้ลูกได้ไปเที่ยวสักครั้งในชีวิต มันอาจจะเป็นเงินทั้งชีวิตของเขาเลยก็ได้

ขณะที่ เอกภพ เหลืองประเสริฐ สายไหมต้องรอด บอกว่า จากการที่กลุ่มผู้เสียหายเข้าไปเจรจาพูดคุยกับทางบริษัททัวร์ ไม่มีคำตอบที่ชัดเจนว่าจะได้เงินคืนไหม ได้คืนเมื่อไหร่ เมื่อไม่มีความชัดเจนตรงนี้จึงต้องไปแจ้งความ ทั้งที่จริงๆ เรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องยาก ถ้าเงินยังอยู่ก็น่าจะคืนได้ หรือถ้าใช้เงินจองตั๋ว จองที่พักไปแล้ว ก็แค่เอาหลักฐานมาแสดงเท่านั้นเอง แต่พอไม่มีคำตอบ ก็ต้องมาถามว่า แล้วเงินหายไปไหน

ขณะที่ทนายแก้ว อธิบายในมุมกฎหมายว่า เรื่องนี้เข้าข่ายความผิดหลอกลวงประชาชน ผู้เสียหายต้องรวมตัวกันไปแจ้งความ เพื่อเอาใบแจ้งความไปร้องต่อ ป.ป.ง.ให้มีความผิดมูลฐาน และจะได้ดำเนินการยึดทรัพย์บริษัท เอามาคืนผู้เสียหายต่อไป

นายเลิศศักดิ์ รักธรรม รองผอ.ศูนย์ปฏิบัติการพิเศษ สคบ. เล่าว่า เมื่อวานนี้ทาง สคบ. ลงไปตรวจสอบสถานที่จริง ดูออฟฟิศของบริษัทนี้ พบว่าเป็นออฟฟิศเปล่า ไม่เจอใคร ไม่มีคนปฏิบัติงานเลย แต่จากการตรวจสอบพบว่าเขาไปขออนุญาตดำเนินกิจการนำเที่ยวอย่างถูกต้อง มีการต่อใบอนุญาตถูกต้อง ก็ได้รวบรวมข้อเท็จจริงต่างๆ ไว้สำหรับดำเนินการต่อไป

ขณะที่ผู้เสียหายบอกว่า ช่วงที่เริ่มมีปัญหา ผู้เสียหายเป็นกลุ่มเล็กๆ เคยไปร้องเรียนเพื่อไม่ให้เขาต่อใบอนุญาตประกอบธุรกิจนี้ได้ แต่เหมือนกับว่าเขาไปเคลียร์ได้ จนสามารถต่อใบอนุญาตได้ ซึ่งถ้าครั้งนั้นเขาถูกระงับใบอนุญาต ไม่ให้ต่ออายุได้ ความเสียหายอาจจะไม่เยอะเท่านี้

อีกปัญหาที่ผู้เสียหายเจอ คือยังมีหลายคนที่ไปเจรจากับเขามาแล้ว บอกว่าอย่าเพิ่งไปออกข่าว อย่าเพิ่งไปแจ้งความ กลัวจะไม่ได้เงินคืน อยากให้เขาได้ทำทัวร์ต่อ จะได้หาเงินมาคืนเราได้ ซึ่งในเคสนี้ไม่ถูกต้อง ทั้งเอกภพ และทนายแก้วมองว่าเรื่องนี้ต้องเข้าสู่กระบวนการ ถ้าไม่ดำเนินคดีอาญา ไม่น่าจะมีทางได้เงินคืน ต้องรอไปเรื่อยๆ จนเขาโอนถ่ายทรัพย์สินหนีไปหมด บางครั้งถูกหลอกให้ไปเซ็นสัญญาประนอมหนี้ จนคดีอาญามันกลายเป็นคดีแพ่ง แบบนี้มันไม่ได้

#บริษัททัวร์ #ทัวร์ #ขอเงินคืน #โหนกระแส

ขอบคุณ เพจ โหนกระแส