วันที่  24  พ.ย.66 ที่ ภ.จว.นครศรีธรรมราชภายใต้อำนวยการของ พล.ต.ต.สมชาย ซื่อต่อตระกูล ผบก.ภ.จว. นครศรีธรรมราช,พ.ต.อ.นัษฐวุฒิ ทองทิพย์ รอง ผบก.ภ.จว.นครศรีธรรมราช,พ.ต.อ.พิศิษฐ์ วิเศษวงศ์ ผกก.สส.ภ.จว.นศ.สั่งการให้ เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.สส.ภ.จว.นศ. นำโดย พ.ต.ท.นพเสถียร สิงห์สุขพนธ์ รอง ผกก.สส.ภ.จว.นศ.,ร.ต.อ.ธัชชัย คงนก, ร.ต.อ.ขยัน ทองมี,ด.ต.พิศิษฐ์ ครรชิต,จ.ส.ต.สินชัย สิทธิประการ,จ.ส.ต.ศุภชัย รสชื่น ร่วมกันจับกุมนายรุ่งโรจน์(สงวนนามสกุล) อายุ 43  ปี อยู่ในพื้นที่ อำเภอเมือง จ.นครศรีธรรมราช  โดยกล่าวหาว่ากระทำความผิดฐานฉ้อโกงโดยแสดงตนเป็นผู้อื่น,นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่บิดเบือนหรือปลอมหรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จโดยประการอื่นที่น่าเกิดความเสียหายต่อผู้อื่น ตามหมายจับศาลจังหวัดสุราษฎร์ธานี ที่ 279/2566 ลงวันที่ 13 กรกฎาคม 2566  ,ฉ้อโกงประชาชน,นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่บิดเบือนหรือปลอมไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วนหรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จโดยประการอื่นที่น่าเกิดความเสียหายแก่ประชาชน  ตามหมายจับศาลจังหวัดสมุทรสาคร ที่ จ.448 /2566 ลงวันที่ 26 กรกฎาคม 2556                                                      
     
พ.ต.ท.นพเสถียร กล่าวถึงพฤติการณ์แห่งคดีว่า ตามแผนระดมกวาดล้างป้องกันปราบปรามอาชญากรรม การรักษาความสงบเรียบร้อย ความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนและนักท่องเที่ยว ในช่วงเทศกาลลอยกระทง ประจำปี 2566 ระหว่างวันที่  20-26 พฤศจิกายน 2566 ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจกองกำกับการสืบสวนตำรวจภูธรจังหวัดนครศรีธรรมราชได้ทำสืบสวนทราบว่านายวิโรจน์ฯ ผู้ต้องหาตามหมายจับจำนวน 2 หมายในคดีฉ้อโกงและนำเข้าสู่ในระบบคอมพิวเตอร์ฯ ได้หลบหนีมาอยู่ในพื้นที่อำเภอเมือง จังหวัดนครศรีธรรมราช เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมจึงได้ตรวจสอบบุคคลมีลักษณะตำหนิรูปพรรณตรงตามหมายจับยืนอยู่หน้าห้องพักภายในรีสอร์ทแห่งหนึ่งในพื้นที่อำเภอเมือง จังหวัดนครศรีธรรมราช 

จากนั้น พ.ต.ท.นพเสถียร  รองผกก.สส.ภ.จว.นศ.หัวหน้าชุดจับกุมจึงได้สอบถามชื่อ-สกุลพบตรงกับผู้ต้องหาตามหมายจับจึงได้แสดงหมายจับและควบคุมตัวผู้ต้องหา พ.ต.ท.นพเสถียร สิงห์สุขพนธ์ รอง ผกก.สส.ฯ กล่าวว่าสืบเนื่องจากผู้เสียหายได้เข้าแจ้งความร้องทุกข์กับพนักงานสอบสวนว่า ผู้เสียหายได้ถูกนายวิโรจน์ฯผู้ต้องหาหลอกลวงให้ซื้อโทรศัพท์มือถือผ่านFACKBOOKเมื่อโอนเงินไปแล้วกลับไม่ได้รับสินค้า จากการซักถามถามนายวิโรจน์ฯ ผู้ต้องหาในคดีนี้ให้การว่าได้ปลอมFACKBOOK เป็นเจ้าของร้านขายโทรศัพท์มือถือสร้างความน่าเชื่อถือ จนทำให้ผู้เสียหายหลงเชื่อซื้อโทรศัพท์และโอนเงินไปให้ผู้ต้องหาแต่กลับไม่ได้รับสินค้าโทรศัพท์ทำให้สูญเสียเงิน ผู้เสียหายจึงได้เข้าแจ้งความร้องทุกข์ต่อพนักงานสวบสวน จนกระทั่งนายวิโรจน์ฯผู้ต้องหาถูกจับกุมได้ในที่สุด จากการตรวจสอบประวัติผู้ต้องหาเคยถูกดำเนินคดีมาแล้ว 2 ครั้งในข้อหาฉ้อโกงและนำเข้าสู่ในระบบคอมพิวเตอร์ฯ เมื่อพ้นโทษออกมายังได้มาก่อเหตุในคดีฉ้อโกงและนำเข้าสู่ในระบบคอมพิวเตอร์ฯอีก จากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้นำตัวมาทำบันทึกจับกุมและนำตัวผู้ต้องหาส่งพนักงานสอบสวนสภ.พุนพิน จังหวัดสุราษฎร์ธานี เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป