ผบ.ตร.บอกรู้วันเวลาคนพาเสี่ยแป้งหนีลงเขา ยันยังกบดานอยู่ในไทย สวนกลับเกรียนคีย์บอร์ด ตำรวจทำตามหน้าที่ ไม่ได้ทำตามเสียงโซเชียล ฝากถึงเสี่ยแป้งจะหนีไปตลอดชีวิตหรือไง ด้านดีเอสไอ'เผย'รมว.ยุติธรรม'ไม่นิ่งนอนใจ สั่งตรวจสอบพิสูจน์ข้อเท็จจริงคดีเสี่ยแป้ง เข้าข่ายต้องรื้อฟื้นรับเป็นคดีพิเศษหรือไม่

     ที่โรงแรมบางกอก พาเลซ เมื่อวันที่ 27 พ.ย.66 พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) กล่าวถึงกรณีการติดตามตัว นายชวลิต ทองด้วง หรือเสี่ยแป้ง นาโหนด ที่อยู่ระหว่างหลบหนี ว่า ได้สั่งการให้ชุดตำรวจภูธรภาคติดตามตัวผู้ต้องหาอยู่ ทั้งนี้ตำรวจเป็นผู้บังคับใช้กฎหมาย ตำรวจไม่ใช่ผู้ต้องหา ตำรวจสืบตามเส้นทางและพยานหลักฐานประกอบกับมีปัญหาอุปสรรคเยอะ โดยทาง พล.ต.อ.ธนา ชูวงศ์ รอง ผบ.ตร. และพล.ต.ท.อิทธิพล อัจฉริยะประดิษฐ์ ผู้ช่วย ผบ.ตร. ได้ลงพื้นที่เร่งติดตามตัวคนร้ายอยู่ ตำรวจทราบแล้วว่าคนร้ายหลบหนีลงมาตั้งแต่เมื่อไหร่ ส่วนใครที่เป็นผู้ช่วยเหลือก็จะดำเนินคดีทั้งหมดทุกคน
    
 สำหรับคลิปที่ปรากฏในโลกโซเชียลมีเจ้าหน้าที่เข้าไปเกี่ยวข้องด้วยนั้น พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ กล่าวว่า ได้สั่งการให้ พล.ต.อ.ไกรบุญ ทรวดทรง จเรตำรวจแห่งชาติ ไปตรวจสอบข้อมูลในคลิปแล้วว่ามีมูลหรือไม่ หากมีมูลก็ให้ตั้งเรื่องเสนอขึ้นมาตั้งกรรมการสอบ หากมีเจ้าหน้าที่รายใดเกี่ยวข้องก็ต้องรับกันไป อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ยังไม่มีรายงานว่านายชวลิตหลบหนีไปอยู่ที่ใด แต่เชื่อว่ายังอยู่ในประเทศไทย ส่วนลวดหนามที่ปรากฏในคลิปมีเยอะหลายสถานที่มาก ซึ่งต้องพิสูจน์ทราบให้ได้ว่าเป็นสถานที่ใด ขอเวลาให้ตำรวจได้ทำงานก่อน โดยได้สั่งการลงไปหมดแล้ว
    
 ผู้สื่อข่าวถามว่า ได้มีการติดต่อขอเข้ามอบตัวบ้างหรือไม่ ผบ.ตร. กล่าวว่า ไม่มี ที่มีติดต่อก็มีญาติประสานติดต่อผ่านทางทีมงานมาว่าจะขอมอบตัวแต่มีเงื่อนไข ซึ่งหากมีเงื่อนไขตนเองรับไม่ได้ ไม่ให้มีเงื่อนไขต้องมอบตัวอย่างเดียว หากนายชวลิตไม่ได้รับความเป็นธรรมก็ให้ทำหนังสือร้องเรียนมาที่กระทรวงยุติธรรม
     
สำหรับกรณีที่นายชวลิตระบุหากไม่เป็นไปตามเงื่อนไข ให้รับศพเขาไปนั้น พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ กล่าวว่า เป็นเรื่องของเขา ส่วนตำรวจมีหน้าที่ติดตามตัวและบังคับใช้กฎหมายติดตามตัวคนร้ายกลับมาให้ได้ ตำรวจจะทำหน้าที่ให้ดีที่สุด และยืนยันว่าไม่มีเรื่องที่จะตามไปวิสามัญ แต่หากมีการต่อสู้ระหว่างการเข้าจับกุมก็ให้ว่าไปตามกฎหมาย ไม่มีใครตั้งเป้าที่จะไปเอาชีวิตเขา หากไม่มั่นใจก็ให้ติดต่อมาจะส่งทีมไปรับ หรือจะมากับญาติพี่น้องก็ได้หากเกรงว่าไม่ปลอดภัย ตนเองรับรองความปลอดภัยให้เข้ามอบตัวแต่ต้องไม่มีเงื่อนไข
    
 ผู้สื่อข่าวถามถึงกระแสโซเชียลส่วนใหญ่เข้าข้างนายชวลิต พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ กล่าวว่า นายชวลิตเป็นผู้กระทำความผิดหนีการควบคุมจากเรือนจำออกมา หากตำรวจต้องไปตามจากโซเชียลทั้งหมด ตำรวจไม่ต้องทำงานแล้ว งั้นเวลาแต่งตั้งก็เอาโซเชียลมาแต่งตั้งตำรวจ ตนไม่สน เพราะหน้าที่ของตำรวจคือบังคับใช้กฎหมาย ตำรวจพยายามสร้างภาพลักษณ์ที่ดีกับประชาชนและสร้างแนวคิดที่ดีให้กับตำรวจเพื่อดูแลประชาชน ถ้าประชาชนมีทัศนคติที่ไม่ดีกับตำรวจ ต้องเป็นโจทย์ของตนที่ต้องเข้าไปแก้ไขว่าจะทำอย่างไร อยากให้ไปลองถามคนที่ได้รับผลกระทบบ้างว่าเขาเชียร์นายชวลิตหรือไม่ ตำรวจมีหน้าที่ก็ต้องทำหน้าที่ของตัวเองให้ดี ไม่ได้ทำตามเสียงในโลกออนไลน์
    
 ส่วนที่มีนักการเมืองที่ออกมาตำหนิการทำงานของตำรวจนั้น ผบ.ตร. กล่าวว่า กลุ่มคนเหล่านั้นไม่เคยเข้ามาอยู่ในพื้นที่ และไม่ทราบการทำงานของตำรวจ อีกทั้งสถานการณ์ในปัจจุบันและสิ่งแวดล้อมเป็นอุปสรรคในการทำงานอย่างมาก เมื่อถามว่า การข่าวที่ทำให้ประชาชนไม่ให้ความร่วมมือกับตำรวจ เป็นเพราะประชนในพื้นที่ไม่เชื่อมั่นกับการทำงานของตำรวจนั้น พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ กล่าวว่า เรื่องนี้ตนก็มีนโยบายที่จะปรับทัศนคติตำรวจชุดปฏิบัติงานและตำรวจในพื้นที่ เพื่อให้ประชาชนมีความเข้าใจ และมีความเชื่อมั่นในการทำงานของตำรวจ ซึ่งเรื่องนี้ตนทราบปัญหาดี แต่ยืนยันว่าตำรวจไม่ได้มีปัญหากับชาวบ้าน และไม่ได้มีความบกพร่องในการทำงานแต่อย่างใด
    
 ฝากไปถึงนายชวลิตว่า การหลบหนีแบบนี้ จะทำให้ต้องหนีไปตลอดชีวิต ดังนั้นควรจะติดต่อเข้ามอบตัว แต่ถ้าหากไม่รับความเป็นธรรมก็ให้แจ้งมาได้
    
 ด้าน  พ.ต.ต.สุริยา สิงหกมล อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) เปิดเผยกรณี พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รมว.ยุติธรรม สั่งให้ตรวจสอบหลังนายเชาวลิต หรือเสี่ยแป้ง นาโหนด นักโทษหลบหนี ถ่ายคลิปวิดีโอแฉไม่ได้รับความเป็นธรรมจากกระบวนการยุติธรรม ถูกศาลตัดสินจำคุกทั้งที่มีผู้ร่วมกระทำผิดหลายราย ว่า รมว.ยุติธรรมได้ให้ความสำคัญและมีข้อสั่งการไปถึงหน่วยงานต่างๆที่เกี่ยวข้อง รวมถึงดีเอสไอให้ตรวจสอบพิสูจน์ข้อเท็จจริงเกี่ยวกับคดีของเสี่ยแป้ง หากเข้าข่ายหรือต้องรื้อฟื้นคดีใหม่ และมีลักษณะเป็นคดีพิเศษก็จะส่งมอบเรื่องให้ดีเอสไอดำเนินการต่อ
      
 "รมว.ยุติธรรมไม่ได้นิ่งนอนใจกับเรื่องนี้และกำชับมาตลอด โดยยังอยู่ระหว่างการตรวจสอบข้อเท็จจริงทั้งหมด หากมีความคืบหน้าหรือรับเป็นคดีพิเศษจะรายงานความชัดเจนอีกครั้ง" พ.ต.ต.สุริยา กล่าว