จากกรณีเมื่อวันที่ 4 ธ.ค.ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ตำรวจ ปส. ร่วมตำรวจน้ำจับกุมผู้ต้องหา 13 ราย พร้อมของกลางเป็นไอซ์ จำนวน 90 กล่อง หนัก 2,000 กิโลกรัม (2 ตัน) ทั้งหมดถูกอำพรางอัดแน่นอยู่ในถุงผลไม้อบแห้ง ซุกซ่อนอยู่ใต้ท้องเรือลากจูงขนาดใหญ่ ณ ท่าเรือโรงเหล็ก ต.บางประกง อ.บางประกง จ.ฉะเชิงเทรา หลังเจ้าหน้าที่ได้รับรายงานแจ้งว่าจะมีการลักลอบขนยาเสพติดจำนวนมากไปจำหน่ายยังต่างประเทศ อาทิ ประเทศฟิลิปปินส์ ประเทศออสเตรเลีย เป็นต้น ตามที่มีการรายงานข่าวไปแล้วนั้น

วันที่ 5 ธ.ค.66 เวลา 16.00 น. ผู้สื่อข่าวรายงาน ว่า ที่ กองบัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด (บช.ปส.) แขวงตลาดบางเขน เขตหลักสี่ กรุงเทพฯ  สำหรับของกลางในคดี ซึ่งเป็นยาไอซ์ น้ำหนัก 2,000 กิโลกรัม มีรายงานว่าทางเจ้าที่ตำรวจ ปส. ได้มีการเชิญพยานรายหนึ่งเข้าสอบปากคำ ซึ่งปรากฏว่าพยานรายนี้เป็นผู้ต้องหาตามหมายจับของเจ้าพนักงาน ป.ป.ส. ฐานสมคบกันกระทำความผิดในคดียาเสพติด ซึ่งเป็นคดีที่ ป.ป.ส. จับกุมได้ก่อนหน้านี้ในคดีที่มีไอซ์เป็นของกลาง หนัก 990 กิโลกรัม เป็นเหตุให้ พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รมว.ยุติธรรม ได้เดินทางมาพร้อมหมายจับ เพื่อเข้าร่วมการสอบปากคำ และขอนำตัวพยานรายดังกล่าวไปดำเนินคดีในส่วนที่เกี่ยวข้องนั้น

ซึ่งภายหลังจากที่ พ.ต.อ.ทวี ได้เข้าพูดคุยหารือกับ พล.ต.ท.คีรีศักดิ์ ตันตินวะชัย ผบช.ปส. และคณะทำงาน ได้ออกมาเปิดเผยว่า วันนี้ตนเดินทางมาให้กำลังใจทีมงานตำรวจ ปส. และร่วมแลกเปลี่ยนข้อมูลในคดี ส่วนรายละเอียดเชิงลึกต่างๆ ขอให้ทางตำรวจ ปส. ได้ทำงานก่อน เนื่องจากเป็นขบวนการที่มีความเชื่อมโยงหลายส่วน ส่วนเรื่องการนำหมายจับมาขออายัดตัวพยานรายหนึ่งนั้น มันเป็นเรื่องรายละเอียดภายในคดี ตนขอละเว้นการเปิดเผย เนื่องจากต้องการให้เจ้าหน้าที่ตำรวจ ปส. ได้ดำเนินการขยายผลก่อน อาจจะใช้เวลาประมาณ 3 วัน เพื่อสืบสวนหาต้นทางและปลายทาง และจับกุมให้ได้ครบทั้งขบวนการ

 

นอกจากนี้ ทางตำรวจ ปส. และ เจ้าพนักงาน ป.ป.ส. ทั้งสองหน่วยงานได้ร่วมกันทำงานแลกเปลี่ยนข้อมูลระหว่างกันมานานแล้ว ส่วนกรณีเรื่องของกลางยาเสพติดไอซ์ ในปีนี้พบแล้วประมาณ 13 ตัน ซึ่งเป็นจำนวนเยอะและยังเป็นเครือข่ายที่มีการใช้ประเทศไทยเป็นทางผ่าน (สำหรับพักยาเสพติด) ก่อนนำออกไปจำหน่ายยังต่างประเทศ ทั้งนี้ เบื้องต้นขบวนการทั้งหมดเครือข่ายยังเป็นคนไทย และวันนี้ตนเพียงเดินทางเข้าให้กำลังใจคณะทำงานเท่านั้น และปฏิเสธเรื่องการนำหมายจับมาขออายัดตัวพยานรายสำคัญ

ขณะที่ พล.ต.ท.คีรีศักดิ์ ตันตินวะชัย ผบช.ปส. กล่าวว่า สำหรับผู้ต้องหาทั้งหมดในขบวนการลักลอบขนไอซ์จำนวน 2,000 กิโลกรัม ที่เราจับกุมได้ที่ท่าเรือแห่งหนึ่งใน ต.บางประกง อ.บางประกง จ.ฉะเชิงเทรา ล่าสุดมีจำนวน 11 ราย ดำเนินการแจ้งข้อหาแล้ว 3 ราย (รับหน้าที่เป็นคนขับรถ) ส่วนที่เหลืออีก 8 ราย (ลูกเรือ) ยังอยู่ระหว่างการสอบปากคำของเจ้าหน้าที่ ปส. และนอกจากนี้ที่ยังหลบหนีอีก 2 ราย เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างติดตามจับกุมตัวมาดำเนินคดี ส่วนกระบวนการที่ทำให้เราจับกุมได้นั้นมาจากการที่เรามีแผนตามล่า 100 เครือข่ายที่เกี่ยวข้องกับยาเสพติด ซึ่งการจับกุมครั้งนี้ก็เป็นหนึ่งในแผนการปฏิบัติงานของเรา และการลำเลียงครั้งนี้ก็ไม่ได้เป็นการลำเลียงเพียงเพื่อการพักยาเสพติดหรือกระจายยาเสพติด แต่เป็นไปเพื่อการเตรียมนำไปจำหน่ายต่างประเทศ ตรงนี้เราจึงได้ประสานงานดำเนินการกับส่วนต่างๆ ทั้งระดับพื้นที่ทางบกและทางน้ำร่วมบูรณาการกัน เพื่อป้องกันการหลุดรอด นอกจากนี้ กลุ่มเป้าหมายนี้เราได้มีการเฝ้าติดตามมานานเป็นปี จนรวบรวมพยานหลักฐานและพบขบวนการลักลอบลำเลียงจนมาเจอเรือลำดังกล่าว แต่อย่างไรหลังจากนี้จะต้องไปหารายละเอียดเพิ่มเติมว่าทำไมจึงเป็นจุดท่าเรือแห่งนี้ และขบวนการทั้งหมดเป็นอย่างไร ยืนยันว่ามีความคืบหน้าไปพอสมควร

อีกทั้ง พล.ต.ท.คีรีศักดิ์ กล่าวอีกว่า ส่วนการให้ปากคำของลูกเรือ ส่วนใหญ่ล้วนให้การปฏิเสธทั้งหมด แต่เราก็ต้องหาข้อมูลให้ได้ เพื่อหาความเชื่อมโยงว่าที่เขาให้ปากคำมันถูกต้องหรือไม่ ส่วนต้นทางของยาเสพติด ปัจจุบันก็ยังมีสองทาง ไม่ประเทศเพื่อนบ้านฝั่งซ้ายก็ฝั่งขวา แต่เรามีชุดติดตามอยู่แล้ว อีกทั้งตนเชื่อว่าในการลักลอบขนส่งยาเสพติดทางน้ำนั้นมีหลายที่ และมีการทำกันมานานพอสมควร ซึ่งก็มีบางส่วนไปเชื่อมโยงกับคดีของ ป.ป.ส. ทาง รมว.ยุติธรรม จึงมาดูเพื่อเเลกเปลี่ยนข้อมูลระหว่างกันว่ามีความเชื่อมโยงกันหรือไม่ และวันนี้ยังไม่มีการขออายัดตัวใดๆ แต่เพียงแค่อาจมีคดีที่เชื่อมโยงกับทาง ป.ป.ส. เพราะในช่วงที่ผ่านมามีเรื่องคดีการลักลอบขนยาเสพติดทางน้ำ จึงต้องไปติดตามตัวในส่วนของคนที่อยู่บนบก เพื่อสอบถามถึงความเป็นมาของต้นทางยาเสพติด

พร้อมกันนี้ พล.ต.ท.คีรีศักดิ์ กล่าวต่อว่า เมื่อคืนนี้ตนได้มีการให้นำเรือของกลางไปจอดเก็บไว้ที่กองบังคับการตำรวจน้ำ โดยเรือลำนี้ ตนเพิ่งเจอเป็นครั้งแรก จะต้องไปขยายผลดูว่าเส้นทางการเดินเรือที่ผ่านมาเป็นอย่างไร ขอเวลาทำงานสักระยะ ส่วนคนที่รับหน้าที่ขนยาเสพติดมาคงจะปฏิเสธข้อกล่าวหาไม่ได้ เพราะของกลางมันอยู่บนรถอยู่แล้ว โดยเป็นรถ 2-3 คัน และตนมองว่าการขนยาเสพติดทางเรือไม่ได้มีนัยยะใดเป็นพิเศษ เพราะถ้าต้องขนส่งไปยังประเทศอินโดนีเซีย หรือประเทศออสเตรเลีย ก็จะต้องใช้เรือในการขนส่งทางน้ำ ซึ่งวิธีการก็ไม่ได้ทันสมัยเท่าไร แต่อาจมีความซับซ้อนบ้าง เราต้องค่อยๆแกะรายละเอียด ทั้งนี้ วันนี้ทาง รมว.ยธ. ไม่ได้มีการพูดถึงเรื่องการขออายัดตัวพยาน แต่การข่าวต่างๆ อาจนำไปเชื่อมโยงกันได้ในรายคดีใดๆได้เพื่อดูว่าเป็นเครือข่ายใด ใครเป็นคนสั่งการ และปลายทางมีการไปจำหน่ายที่ประเทศไหนอย่างไร ส่วนเรื่องหมายจับเพิ่มเติม วันนี้คงต้องขอตรวจสอบพยานหลักฐานก่อน เพราะก็ยังไม่มีผู้ต้องหาใดให้การที่เป็นประโยชน์