ผู้สื่อข่าวรายงาน ว่า เมื่อวันที่ 6 ธันวาคม 2566 ที่ นครหลวงเวียงจันทน์ สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว พล.ต.ท.ภาณุรัตน์ หลักบุญ ผู้ช่วย ผบ.ตร. รักษาราชการแทน เลขาธิการ ป.ป.ส. เข้าหารือ พล.ต.คำกิ่ง ผุยหล้ามะนีวง รองรัฐมนตรีกระทรวงป้องกันความสงบ และหัวหน้ากรมใหญ่ตำรวจ สปป.ลาว ในความร่วมมือการปราบปรามยาเสพติดระหว่าง 2 ประเทศ และการติดตามผู้ต้องหาหลบหนีหมายจับ พร้อมด้วย นายปฤณ เมฆานันท์ ผู้อำนวยการสำนักปราบปรามยาเสพติด สำนักงาน ป.ป.ส. พันเอก อินปง จันทะวงสา เลขาธิการคณะกรรมการแห่งชาติเพื่อตรวจตราและควบคุมยาเสพติด สปป.ลาว คณะผู้บริหารจากไทยและ สปป.ลาว

ทั้งนี้ พล.ต.ท.ภาณุรัตน์ หลักบุญ ผู้ช่วย ผบ.ตร. รักษาราชการแทน เลขาธิการ ป.ป.ส. กล่าวขอบคุณ สปป.ลาว ในความร่วมมือการสกัดกั้นยาเสพติดก่อนที่ยาเสพติดจะเข้าสู่ประเทศไทย ตามมาตรา 5(10) ในการร่วมมือกันสกัดกั้นชายแดน โดยผนึกความร่วมมือในการแลกเปลี่ยนข้อมูลข่าวสาร การเข้มงวดการขนส่งผ่านบริษัทส่งพัสดุภัณฑ์ โดยช่วงที่ผ่านมาได้ร่วมกับไทยในการสกัดกั้นยาบ้า รวมกว่า 14.8 ล้านเม็ด เตรียมส่งเข้าประเทศไทย พร้อมขยายผลจับกุมผู้ต้องหา 5 ราย ซึ่งทั้ง 2 ฝ่ายกำลังร่วมมือกันสืบสวนเพื่อจับกุมผู้อยู่เบื้องหลัง จึงขอความร่วมมือ สปป.ลาว ในการติดตามผู้ต้องหาหลบหนีหมายจับใน สปป.ลาว จำนวนทั้งสิ้น 48 หมาย ซึ่งหลายรายเป็นผู้ต้องหารายสำคัญ หากจับกุมผู้ต้องหาเหล่านี้ จะไปสู่การขยายผลและยึดทรัพย์ที่มาจากยาเสพติดได้มาก 

ด้าน พล.ต.คำกิ่ง ผุยหล้ามะนีวง รองรัฐมนตรีกระทรวงป้องกันความสงบ และหัวหน้ากรมใหญ่ตำรวจ สปป.ลาว กล่าวขอบคุณ ที่ไทยสนับสนุนการพัฒนาศักยภาพงานแก้ไขปัญหายาเสพติดในหลายเรื่อง เช่น การฝึกอบรมให้ความรู้ทางคดี  ซึ่ง สปป.ลาว ยืนยันจะสืบต่อการให้ความสำคัญในการแก้ไขปัญหายาเสพติดเป็นวาระแห่งชาติ และจะร่วมมือกับไทยในการปราบปรามและสกัดกั้นยาเสพติดเพื่อลดความรุนแรงของปัญหายาเสพติดในพื้นที่ต่อไป

พร้อมกันนี้ พล.ต.ท.ภาณุรัตน์ กล่าวต่อว่า หลังการประชุมหารือระหว่าง พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม และ พลตรีคำกิ่ง ผุยหล้ามะนีวง ในการประชุมทวิภาคีไทย – สปป.ลาว เรื่องความร่วมมือด้านการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด ครั้งที่ 19 เมื่อวันที่ 25 - 27 กันยายน 2566 ณ จังหวัดกระบี่ ทั้ง 2 ฝ่ายได้วางแผนในการแก้ไขปัญหายาเสพติดระหว่างพรหมแดนของทั้ง 2 ประเทศร่วมกัน โดย สปป.ลาว ได้ยกปัญหายาเสพติดเป็นวาระแห่งชาติ ที่ต้องเร่งแก้ไข และนำมาสู่การประสานงานด้านการข่าวและปฏิบัติระหว่างไทยและ สปป.ลาวอย่างใกล้ชิดและต่อเนื่อง

อีกทั้ง พล.ต.ท.ภาณุรัตน์ กล่าวอีกว่า รัฐบาลไทยภายใต้การนำของนายเศรษฐา ทวีสิน ตั้งเป้าลดความเดือดร้อนของประชาชนจากปัญหายาเสพติด โดยต้องเห็นผลเป็นรูปธรรมภายใน 1 ปี ซึ่ง พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ได้กำหนดให้ลดปัจจัยในความรุนแรงยาเสพติดทั้งจากภายในและภายนอก ภายในคือการสร้างความเข้มแข็งและปลอดภัยในชุมชน สถาบันครอบครัว เพื่อเป็นเกราะป้องกันยาเสพติด ภายนอกคือการสกัดกั้นยาเสพติดไม่ให้เข้าประเทศ ซึ่งต้องผลักดันความร่วมมือระหว่างประเทศ สกัดกั้นและปราบปรามยาเสพติดในพื้นที่สามเหลี่ยมทองคำ และการสืบสวน ปราบปราม ขยายผลกับองค์กรอาชญากรรมที่กระทำผิดหลายประเภทในลักษณะอาชญากรรมเครือข่าย

อย่างไรก็ตาม พล.ต.ท.ภาณุรัตน์ กล่าวว่า ป.ป.ส. ได้ส่งหมายจับ 48 หมาย พร้อมมอบหมายเจ้าหน้าที่ในการประสานร่วมกับ สปป.ลาว โดยไทยพร้อมจะสนับสนุน สปป.ลาว ในด้านการข่าว รวมไปถึงการสนับสนุนเครื่องมือ เทคโนโลยี เพื่อพัฒนาการสืบสวนปราบปรามการค้ายาเสพติดต่อไป