กลายเป็นเรื่องที่ฮือฮาในวงการ "ฟุตบอล" ทั่วโลก! ภายหลังการประชุมประจำปีของ "คณะกรรมการสมาคมฟุตบอลนานาชาติ" หรือ (ไอเอฟบีเอ) ที่กรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ เมื่อวันที่ 28 พ.ย.66 ที่ผ่านมา ได้มีการอนุมัติข้อเสนอให้มีการทดลองการใช้กฎ "ซิน-บินส์" หรือเทียบเท่ากับ "ใบส้ม" ในเกมฟุตบอล โดยหากนักเตะได้รับจะต้องออกไปพักข้างสนามเป็นเวลา 10 นาที

เรื่องการเสนอให้ใช้ "ใบส้ม" ในวงการฟุตบอลอาชีพไม่ใช่เรื่องใหม่ ย้อนกลับไปเมื่อหลายปีก่อน ข้อเสนอนี้เคยเป็นไอเดียที่แหวกแนวสุดโต่งของ "เฌอโรม ชองปาญ" ชายชาวฝรั่งเศส วัย 55 ปี ที่เสนอตัวลงชิงตำแหน่งประธานฟีฟ่าแข่งกับตัวเต็ง อย่าง "เซ็ปป์ แบล็ตเตอร์" และ "จานนี่ อินฟานติโน่"

โดยข้อเสนอของเขาไม่ใช่แค่การแจก "ใบส้ม" อย่างเดียว แต่ยังมีข้อเสนอยกเลิกกฎ "ลงโทษ 3 เท่า" โดยกรณีดังกล่าวจะเกิดขึ้นเมื่อเกมรุกเข้าไปในกรอบเขตโทษ และกำลังจะทำประตูได้ แต่โดนฝ่ายตรงข้ามทำฟาวล์แบบตั้งใจ ตามเดิมนั้นคือทีมรับจะต้องเสียจุดโทษ, นักเตะโดนใบแดง และโดนแบนในเกมต่อไป

นอกจากนี้ ยังเสนอให้ใช้กฎเดียวกับ "รักบี้" คือเมื่อมีการฟาวล์ หรือการตัดสินของกรรมการที่สร้างความหงุดหงิดแก่ทีมที่เสียผลประโยชน์ จะอนุญาตให้กัปตันทีมคนเดียวเท่านั้นที่เข้าไปอธิบายหรือเจรจากับกรรมการได้ หากมีนักเตะคนอื่นเข้ามาวุ่นวาย ทีมนั้นจะต้องถูกขยับลูกฟรีคิกให้ใกล้ประตูเข้าไปอีก 10 หลา

อีกทั้ง ยังเสนอให้ผู้สมัครชิงตำแหน่งประธานฟีฟ่าทุกคนต้องมาโต้วาทีกันทั้งหมดและถ่ายทอดสดทางโทรทัศน์ไปยัง 6 ทวีปทั่วโลก และข้อเสนอสุดท้าย ก็คือ การแจก ฎใบส้ม" ซึ่งถือเป็นอุปกรณ์ใหม่ที่เพิ่มเข้ามา เพราะแต่เดิมนั้นมีแค่ใบเหลืองกับใบแดงเท่านั้น 

* อะไรคือใบส้ม...?

"เฌอโรม ชองปาญ" ต้องการนำเสนอ "ใบส้ม" ให้เป็นการลงโทษระหว่างกลางของ "ใบเหลือง" กับ "ใบเดง" และเป็นการลงโทษแบบระหว่างกึ่งกลางนั่นคือมากกว่า "เตือน" แต่น้อยกว่า "ถูกไล่ออกจากสนาม" นั้นเอง

ทั้งนี้ "เฌอโรม ชองปาญ" ได้แรงบันดาลใจมาจากกีฬา "รักบี้"  โดยในเกมรักบี้นั้น "ใบส้ม" จะใช้ก็ต่อเมื่อผู้เล่นทำผิดกติกาทางเทคนิค และเมื่อได้รับใบส้มผู้เล่นจะต้องถูกเชิญออกจากสนามเข้าไปยัง Sin Bin หรือขอบเขตสำหรับให้คนที่ทำผิดกติกาเข้ามาสงบสติอารมณ์ ในเวลาที่กำหนด และหากครบเวลาแล้วก็จะสามารถกลับมาลงสนามได้อีกครั้ง

* การลงโทษแบบไหนถึงต้องแจก "ใบส้ม"

"เฌอโรม ชองปาญ" ได้กล่าวว่าปัญหาการตัดสินของกรรมการในสนามกรณี การพุ่งล้ม, การถอดเสื้อดีใจ หรือการแฮนด์บอลที่ก้ำกึ่งว่าจะตั้งใจหรือไม่ตั้งใจ ซึ่งถือว่าสร้างความลำบากใจให้กับเหล่ากรรมการและตัดสินแบบค้านสายตาผู้ชมมาหลายครั้ง ดังนั้นการให้ใบส้มจึงเป็นทางออกของปัญหานี้ได้

อย่างไรก็ตาม เมื่อฤดูกาล 2019-2020 มีการนำกฎนี้มาใช้แล้วในเกมลีกระดับรากหญ้า 31 ลีก ซึ่งการทดลองครั้งนั้นได้รับความพึ่งพอใจจากบรรดากุนซือ และผู้ตัดสิน ที่สำคัญข้อมูลจากสมาคมฟุตบอลอังกฤษ (เอฟเอ) ระบุว่าสามารถลดปัญหาการคัดค้านคำตัดสินได้ถึง 38 เปอร์เซ็นต์

กระทั่ง ล่าสุดมีกระแสข่าวว่า "พรีเมียร์ลีก" ลีกฟุตบอลอาชีพของประเทศอังกฤษ อาจจะนำกฎ "ซิน-บินส์" มาใช้อย่างเร็วที่สุดก็ในฤดูกาลหน้านี้ แต่ยังไม่มีการยืนยันอย่างเป็นทางการของ "เอฟเอ" แต่อย่างใด