คุยเฟื่องเรื่องต่างประเทศ / ดร.วิวัฒน์ เศรษฐช่วย         

แทบไม่น่าเชื่อเลยที่ในแต่ละวันจะมีข่าวเผยแพร่ออกมาให้เห็นว่า ชาวจีนแห่แหนหลั่งไหลอพยพเดินทางเข้าสู่สหรัฐอเมริกาหลายๆวิธีด้วยกัน

โดยผู้ที่มีฐานะดีหน่อยก็จะใช้ระบบยื่นขอวีซ่าในการเดินทางเข้าสู่สหรัฐอเมริกา ส่วนชาวจีนระดับล่างไม่มีอะไรจะเสีย พวกเขาจำต้องยอมเสี่ยงเดินเท้าเข้าป่าที่เต็มไปด้วยภยันอันตรายผ่านทางชายแดนระหว่างพรมแดนสหรัฐอเมริกากับเม็กซิโก  ที่มีระยะทางยาวเกือบสองพันไมล์ ผ่านทางรัฐอริโซนา เท็กซัส นิวเม็กซิโก และรัฐแคลิฟอร์เนีย !!!

ชาวจีนนับเป็นคนต่างชาติที่เข้าไปพำนักอาศัยอยู่ในสหรัฐอเมริกามากที่สุด รองลงมาก็จะเป็นชาวอินเดีย และชาวฟิลิปปินส์ เป็นอันดับที่สาม

ที่ผ่านๆมาถือได้ว่า ชาวจีนมีบทบาทสำคัญทางด้านเศรษฐกิจของสหรัฐอเมริกามาแล้วอย่างยาวนาน และยังมีสิ่งหนึ่งที่ได้กลายเป็นที่ยอมรับและเป็นที่กล่าวขวัญที่ได้กลายเป็นมรดกนำความภาคภูมิใจให้แก่พี่น้องชาวจีนมาจนตราบเท่าทุกวันนี้ นั่นก็คือ

คนงานของพี่น้องชาวจีนในอดีตเมื่อ 154 ปีที่แล้ว เข้าไปเป็นผู้สร้างทางรถไฟข้ามสหรัฐอเมริกาจากฟากฝั่งตะวันตก มุ่งสู่ฟากตะวันออก ที่มีความยาวเกือบสองพันไมล์ และใช้เวลาในการสร้างถึง  6 ปี โดยเริ่มสร้างเมื่อปี ค.ศ.1863 แล้วเสร็จในปีค.ศ. 1869 

อย่างไรก็ตามขณะนี้ปรากฏว่า มีจำนวนประชากรของพี่น้องเชื้อสายจีน (ยกเว้นชาวไต้หวัน) ที่พำนักอาศัยอยู่ในสหรัฐฯโดยประมาณถึง 5.4 ล้านคน ถือเป็นกลุ่มชาวเอเชียที่มีขนาดใหญ่ที่สุด อีกทั้งชาวจีนยังมีเครือข่ายที่กว้างขวาง ดั่งจะเห็นได้จากการที่ทุกเมืองทั่วสหรัฐอเมริกาจะมีย่านไชน่าทาวน์

แม้ว่าขณะนี้ประเทศจีน จะมีความเจริญเติบโตทางด้านเศรษฐกิจอย่างต่อเนื่องก็ตาม แต่กลับปรากฏว่า ในแต่ละปีมีชาวจีนมากกว่าหนึ่งแสนคนเดินทางอพยพไปยังสหรัฐอเมริกาแรงจูงใจที่ทำชาวจีนได้อพยพไปยังสหรัฐอเมริกามีหลายประการด้วยกัน อาทิเช่น ต้องการมีอิสระ ต้องการมีคุณภาพชีวิตที่ดีกว่า และต้องการโอกาสในการเริ่มต้นชีวิตใหม่!!!

และชาวจีนส่วนใหญ่ที่อพยพเข้าสู่นครนิวยอร์กล้วนแล้วแต่เป็นคนชั้นกลาง ที่บางคนเพิ่งถูกปล่อยตัวออกมาจากคุกในประเทศจีนด้วยซ้ำไป โดยเหตุผลหนึ่งที่ทำให้ชาวจีนมุ่งหน้าสู่นครนิวยอร์ก สืบเนื่องมาจากที่นั่นมีชุมชนชาวจีนอาศัยอยู่เป็นจำนวนมาก ที่พวกเขาต่างมีความรักพวกพ้องพี่น้องร่วมชาติมักจะคอยอำนวยความสะดวกทั้งการช่วยเหลือด้านให้ที่พักอาศัย ด้านหางานให้ทำ แบบบางครั้งก็ไม่จำเป็นจะต้องมีความรู้ด้านภาษาอังกฤษเลย

โดยขณะนี้สหรัฐอเมริกามีนักศึกษาจีนระดับอุดมศึกษามากที่สุด และส่วนใหญ่แล้วเมื่อจบจากการศึกษาในระดับปริญญา พวกเขาส่วนใหญ่มีแนวโน้มต้องการจะหางานทำในระดับสูง เพราะหากทำได้เช่นนั้น ก็จะมีโอกาสได้อยู่ในสหรัฐฯอย่างถูกต้องตามกฎหมาย ที่เรียกกันว่าได้รับ “กรีนการ์ด” นั่นเอง

ส่วนใหญ่แล้วประมาณครึ่งหนึ่งของจำนวนผู้อพยพชาวจีน มักนิยมอาศัยอยู่ใน 2 รัฐ อันได้แก่ รัฐแคลิฟอร์เนีย และ ในมหานครนิวยอร์ก ในช่วงสองปีที่ผ่านมานี้เนื่องจากผมมีภารกิจส่วนตัว จึงเดินทางไปพำนักอยู่ที่ “เมืองอัลแฮม

บรา” Alhambra รัฐแคลิฟอร์เนียที่เป็นเมืองท่องเที่ยว ผมได้พบเห็นว่า “เมืองมอนเทอเรย์” Monterey Park ที่อยู่ติดๆกันนั้นล้อมรอบไปด้วยชุมชุนของพี่น้องชาวจีน

และในขณะที่ผมกำลังเดินช้อปปิ้งอยู่ที่ตลาดค้าส่งยักษ์ใหญ่แห่งหนึ่ง ปรากฏพบเห็นว่า ลูกค้าส่วนใหญ่เต็มไปด้วยผู้หญิงชาวจีนเดินอุ้มท้องที่มีขนาดโตราวกับพวกเธอหิ้วแตงโม ดูเหมือนว่าใกล้คลอดเต็มทีในอีกไม่กี่วัน ฉะนั้นจึงไม่น่าแปลกแต่อย่างใด ที่จะมีชาวจีนหลบหนีเข้าสหรัฐอเมริกาผ่านชายแดนเม็กซิโกต้องถูกจับกุมปีละหลายหมื่นคน!!!

แม้ว่าระยะทางในการเดินทางจากชายแดนเม็กซิโกเข้าสู่สหรัฐอเมริกาจะยากลำบากมากเพียงใดก็ตาม แต่ก็ยังมีชาวจีนหลบหนีทะลักเข้าสู่สหรัฐอเมริกาอย่างต่อเนื่อง

จากรายงานข่าวของ “หนังสือพิมพ์นิวยอร์กไทมส์” เมื่อวันที่ 3 ธันวาคม 2023 เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 24 กุมภาพันธ์ ปี2023 นี้มีพ่อลูกคู่ชาวจีนหนึ่ง ต้องการจะมีชีวิตที่ดีและปลอดภัยมากขึ้น โดยพ่ออายุ 39 ปี และ ลูกสาวอายุ 13 ขวบ ตัดสินใจออกเดินทางจาก กรุงปักกิ่ง เดินทางเป็นเวลานาน 35 วัน ผ่าน 9 ประเทศ โดยเดินทางทั้งทางเครื่องบิน ทางรถไฟ ทางเรือ ทางรถบัส และเดินทางเท้า และเมื่อพวกเขาเดินทางเข้าสู่สหรัฐอเมริกาแล้ว ปรากฏว่า จากการเดินทางแบบสมบุกสมบันในครั้งนี้ ผู้เป็นพ่อน้ำหนักลดลงไปกว่า 30 ปอนด์เลยทีเดียว

จากการเสนอข่าวของ “หนังสือพิมพ์นิวยอร์คโพสต์” เมื่อวันที่ 2 พฤศจิกายน 2023 ว่า ในระยะเวลาแค่เพียง 8 เดือนของปีนี้ ปรากฏว่ามีชาวจีนที่พยายามหลบหนีเข้าสู่สหรัฐอเมริกามากถึง 24,048 คน ถือเป็นจำนวนอัตราเพิ่มสูงขึ้นถึง 12 เท่าตัว เมื่อเปรียบเทียบกับช่วงปีค.ศ. 1970

โดยทั่วไปแล้วส่วนใหญ่ชาวจีนเหล่านี้ มักจะเดินทางไปที่ประเทศเอกวาดอร์ก่อน เพราะไม่จำเป็นต้องขอวีซ่า และต่อจากนั้นพวกเขาก็จะเดินเท้าเข้าสู่ป่าอันแสนอันตราย ผ่านทางประเทศโคลัมเบีย และ ประเทศ ปานามา โดยชาวจีนส่วนหนึ่งเรียนรู้วิธีออกนอกประเทศ และวิธีการหลบหนีจากช่อง “ยูทูป” YouTube และจากการค้นคว้าผ่านทาง “กูเกิ้ล” Google เกี่ยวกับวิธีหลบหนี และพวกเขายังต้องจ่ายเงินจำนวนมาก เพื่อใช้เป็นเบี้ยบ้ายรายทางให้แก่ผู้ช่วยเหลือในการลักลอบหลบหนีเข้าสู่สหรัฐอเมริกา!!!

ไม่เพียงแต่ชาวจีนเท่านั้น ที่มีความหวังและตั้งใจที่จะเดินทางอพยพเข้าสู่สหรัฐอเมริกาด้วยหนทางใดๆ และแม้จะเต็มไปด้วยความยากลำบากก็ตาม  เพราะส่วนใหญ่แล้วก็ยังมี ชาวเวเนซุเอลา ชาวเอกวาดอร์ และชาวเฮติ สืบเนื่องมาจากทั้งสามประเทศนี้มีวิกฤตทางการเมือง เกิดขึ้นภายในประเทศ

อนึ่งเนื่องจากรัฐบาลสหรัฐอเมริกามีจำนวนของเจ้าหน้าที่รักษาการณ์ตามบริเวณชายแดนไม่เพียงพอ จึงมีผลทำให้พวกที่ต้องการจะเดินทางหลบหนีเข้าสู่สหรัฐฯ ยอมเสี่ยงวัดดวงดูว่า จะได้ไปต่อ หรือ ถูกจับกุมไปไม่รอดพอแต่เพียงเท่านั้น

อย่างไรก็ตามยังมีชาวจีนบางราย เมื่อเดินทางถึงชายแดนสหรัฐอเมริกาแล้ว พวกเขาจะยอมมอบตัวกับเจ้าหน้าประจำชายแดน เพื่อขอลี้ภัยต่อไป และสถิติที่ผ่านมาของ “มหาวิทยาลัย Syracuse University” ระบุว่า หากชาวจีนที่หลบเข้าสหรัฐฯแล้ว ขอสิทธิ์เป็นผู้ลี้ภัย ส่วนใหญ่แล้วจะมีโอกาสสำเร็จอยู่ที่ 67%  และเมื่อพวกเขายื่นขอลี้ภัยแล้ว ภายในไม่กี่วันก็จะได้รับอนุญาตให้ทำงานได้ (ข้อมูลจาก “หนังสือพิมพ์New York Times” เมื่อวันที่ 24 พฤศจิกายน ค.ศ. 2023)

กล่าวโดยสรุปทั้งนี้และทั้งนั้นเมื่อมองในภาพรวมแล้ว จะเห็นได้ว่าชาวจีนส่วนใหญ่ที่เดินทางอพยพหลั่งไหลเข้าสู่สหรัฐอเมริกาก็เพื่อต้องการที่จะได้รับโอกาสที่ดีกว่า แถมพวกเขายังมีโอกาสวัดดวงในการยื่นขอเป็นผู้ลี้ภัย เพื่อให้ตนเองและครอบครัวสามารถอยู่ได้แบบถูกต้องตามกฎหมาย สามาถหางานหาการทำกินเลี้ยงปากเลี้ยงท้อง สามารถได้รับสิทธิประโยชน์ต่างๆอันพึงได้รับ แต่เหนือสิ่งอื่นใดแล้วก็คงหนีไม่พ้นความต้องการที่จะมีอิสระและมีเสรีภาพ หลุดพ้นจากระบอบการปกครองแบบสังคมนิยมคอมมิวนิสต์กันแทบทั้งสิ้นละครับ