กรณีข่าว “ชัยยศ สุขต้อ” ครูโรงเรียนบ้านยางเปา อำเภออมก๋อย จังหวัดเชียงใหม่ ตกเป็นข่าวถูกสั่งปลดออกจากราชการ ต้องมาขายโรตี เพราะได้รับแต่งตั้งเป็นกรรมการตรวจรับอาหารกลางวัน มีการนำอาหารในส่วนของนักเรียนชั้นประถมศึกษาแบ่งให้นักเรียนชั้นมัธยมศึกษา ปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ ไม่เป็นไปตามระเบียบ แต่ข้อเท็จจริงอีกมุมจากฝั่ง ป.ป.ช. มีคนร้องเรียนเรื่องโภชนาการในโรงเรียน จนทำให้ลงไปตรวจสอบเรื่องการจัดซื้อจัดจ้าง เป็นสาเหตุที่ตรวจพบว่าครูชัยยศเป็นหนึ่งในครูที่ได้ลงลายเซ็นลงในเอกสารตรวจโดยไม่รู้เพราะเชื่อใจผู้ร่วมงาน เห็นใจแต่ต้องทำตามกฎหมาย   

รายการโหนกระแส ออกอากาศวันที่ 8 ธ.ค. 66 ดำเนินรายการโดย “หนุ่ม กรรชัย กำเนิดพลอย” ผลิตในนามบริษัท ดีคืนดีวัน จำกัด ออกอากาศทุกวันจันทร์-ศุกร์ เวลา 12.35 น. ทางช่อง 3 กดเลข 33 ได้สัมภาษณ์ ครูชัยยศ และ ภูเทพ ทวีโชติธนากุล ผู้ช่วยเลขาธิการฯ รักษาการในตำแหน่งผู้ตรวจราชการสำนักงาน ป.ป.ช.และรองโฆษกสำนักงาน ป.ป.ช. รวมทั้ง ดร.มนต์ชัย จงไกรรัตนกุล

เป็นครูมากี่ปีแล้ว?

ชัยยศ : 30 ปีทั้งเอกชน แต่บรรจุ 20 ปี

เป็นครูอยู่บนดอย?

ชัยยศ : ตลอดครับ ไม่มีมาสอนด้านล่าง ผมมีชุมนุม และโครงการที่ได้รับรางวัล และได้รับการต่อยอดให้นักเรียนเสมอๆ เป็นโอกาสให้นักเรียนที่ผมได้ดูแลด้วย เลยไม่อยากย้ายไปไหน

เป็นครูที่เด็กนักเรียนในพื้นที่รักและเทิดทูน เรียกพ่อครู แล้วเกิดเรื่องราวอะไรขึ้น?

ชัยยศ :  เบื้องต้นมีชาวบ้านเดินขบวน อยากให้ผอ.และบุคคลที่สองย้ายออกจากพื้นที่ ซึ่งบุคคลที่สองคือคุณบุณยานุช ครูอีกคนนึง ได้โยกย้ายออกไปนอกพื้นที่ไปสอนโรงเรียนอื่น เขาก็ให้ผมอยู่รักษาการณ์ แต่ตอนนั้นขวัญและกำลังใจเราเสียไปหมดแล้ว เพราะจะทำยังไงให้เราอยู่รอด ตอนนั้นผมตำแหน่ง คส.2 ซึ่งตำแหน่งที่รักษาการจริงๆ ต้องคส.3 แต่เราอยู่มานานเลยได้รักษาการ พออยู่ไปนานวัน ป.ป.ช.ก็เข้ามา ผมยังไม่รู้สึกอะไรเลย เพราะคิดว่าป.ป.ช.เข้ามาเพราะเรื่องผู้อื่นไม่ใช่เรื่องของเรา แต่ด้วยเอกสาร ตัวหนังสือก็ทำให้ตกใจทีหลัง วันที่ระบุไป ก็ไม่รู้ตัวเองผิดอะไร จริงๆ ร้อยเปอร์เซ็นต์ ตัวเองไม่ได้ผิดอะไร

อดีตตัวเงินที่ต้องส่งให้โรงเรียนในการเอาไปใช้จ่าย เขาส่งไปให้ใครก่อน?

ชัยยศ : ตอบตามตรง ผมไม่ทราบเลย เพราะผมไม่รู้เม็ดเงิน ไม่รู้ตัวเงิน ตามคำสั่งเป็นผู้ตรวจรับ

เงินที่ทราบมา ต้องส่งจากสพฐ.?

ภูเทพ : เงินไม่ว่าจะจากงบประมาณแผ่นดิน หรือองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นอุดหนุนก็จะมาที่โรงเรียน พอมาที่โรงเรียน ผู้อำนวยการก็จะเป็นคนดูแลเงินทั้งก้อน พอมาเรื่องนี้ดูแลเงินทั้งก้อนเสร็จ ก็จะมีคุณครูจัดทำโครงการจัดหาอาหารกลางวัน แทนที่จะทำเป็นโครงการ เขาก็ใช้วิธียืมเงินจัดหา

อยากให้ฟังจะเป็นความรู้ เป็นเรื่องที่ต้องนั่งฟังทำความเข้าใจสักนิดนึง เงินที่ต้องให้นักเรียนได้กินได้ใช้ ในมุมโรงเรียนที่อยู่บนดอย เงินนี้ต้องมาจากสพฐ. บางทีเขาจะส่งไปให้อบต.ซะด้วยซ้ำถึงส่งไปที่โรงเรียน?

ภูเทพ : เอาสั้นๆ มันมีงบประมาณมา ผอ.มีหน้าที่ต้องดูแล

เงินมาถึงผอ. ซึ่งก็คือผอ.จรัส เสร็จแล้วผอ.จรัส จะมีการส่งเงินจำนวนนี้ให้บุณยานุช เป็นเจ้าหน้าที่จัดซื้ออาหาร ฉะนั้นเงินต้องไปสู่มือบุณยนุช เพื่อให้ไปซื้ออาหาร เงินที่ได้มาเท่าไหร่?

ภูเทพ : เขาจะยืมอาทิตย์ละ 6 หมื่น จากผอ.

ทำไมใช้คำว่ายืม?

ภูเทพ : เพราะอย่างที่บอกว่าจริงๆ เขาสามารถทำเป็นโครงการจัดซื้อจัดสร้าง แต่เขาไม่ยอมทำ เขาทำเป็นเรื่องขอยืมเงินทดรอง เพื่อจัดหาอาหารให้เด็กประถมตามที่เขากำหนดมา พอทำเรื่องยืมเงิน ประเด็นไม่มีอะไรซับซ้อน ก็คือไปจัดซื้อจัดจ้างตามระเบียบซะ ที่เขากำหนดว่ามีกฎหมายว่าด้วยการจัดซื้อจัดสร้าง มีระเบียบว่าด้วยการจัดซื้อจัดจ้าง มีประกาศของสพฐ. ว่าขั้นตอนจัดซื้อทำยังไง คุณครูก็ไปทำให้ครบถ้วนแล้วกัน เท่านั้นเอง ทำตามแบบหนังสือ ซึ่งเขามีแบบครบถ้วนหมดเลย

ปรากฏว่าครูบุณยานุชทำเรื่องไปยืมเงินทางโรงเรียน คือผอ. 6 หมื่นต่อสัปดาห์ เสร็จแล้วบุณยานุช เอาเงิน 6 หมื่นไปซื้อของ?

ภูเทพ : ไปดำเนินการให้มีวัตถุดิบมา

ซื้อวัตถุดิบมา ต้องซื้อ 6 หมื่นตามที่เอาไป?

ภูเทพ :   ถ้ามีเกินก็ไปขอเบิกได้ แต่มันก็มีประเด็นปัญหาว่าเราไปได้ข้อเท็จจริงว่าไปจัดซื้อจริงๆ 48,500 บาท

สืบทราบได้ไง?

ภูเทพ : เราไปสอบปากคำพยานบุคคลที่เกี่ยวข้อง ที่เขามีหน้าที่จัดหาอาหารสดอาหารแห้งให้คุณครูนี่แหละ เราก็ได้ข้อเท็จจริงว่าคุณครูสั่งว่าให้ซื้อภายในวงเงิน 48,500 บาท

นั่นคือเงินหายไปประมาณ 11,500 บาท หายไปกี่สัปดาห์?

ภูเทพ : 15 สัปดาห์

รวมเป็นเงิน 172,240 บาท?

ภูเทพ : ถ้ารวมเงินทั้งหมดเกือบล้านบาท 9 แสนกว่าบาท ถือว่าเป็นเงินที่เยอะนะ

เงินตรงนี้หายไป พอเราไปทราบมา ป.ป.ช.ดำเนินการยังไงก่อน?

ภูเทพ : เริ่มจากมีคนร้องเรียนมาที่ป.ป.ช. ร้องก่อนประเด็นแรกว่าจัดซื้อจัดจ้างยังไง ทำให้เด็กประถมเขาได้รับสารอาหาร โภชนาการที่ไม่เพียงพอ เขาก็ส่งภาพถ่ายมาว่าเป็นต้มซี่โครงฟัก กินแต่เส้นบะหมี่ มาม่า เรื่องวัตถุดิบ เขาก็ถ่ายมา เป็นรูปแผงไข่ ดูเต็มๆ เหมือนเต็ม แต่ตรงกลางมันโบ๋ เขาก็ส่งภาพอย่างนี้มา

ครูบุณยานุช ไปซื้อไข่มา ไข่ในแผงต้องเต็มแผง แต่ปรากฏว่าตรงกลางโหว่ มีไข่ล้อมรอบ แล้วทับเป็นชั้นๆ ขึ้นมา ถ้าไม่เปิดมาจะไม่รู้?

ภูเทพ : อันนี้เขากล่าวหามา จึงเป็นเหตุให้ทางป.ป.ช.ลงไปสอบว่าอาหารไม่ได้คุณภาพจริง เรื่องนี้เกิดปี 61 เขาร้องมาปี 62 ป.ป.ช.ลงไปสอบปี 63 ทีนี้เราเจาะเวลาหาอดีต แต่พอเราลงไปเราเห็นเอกสาร เราก็เห็นข้อพิรุธว่าทำไมเราไปได้ข้อมูลว่าเขามาส่งวัตถุดิบสัปดาห์ละครั้ง แต่เหตุใดมีการทำเอกสารตรวจรับวันละ 3 รอบ

คนที่ตรวจรับคือ?

ภูเทพ : ท่านอาจารย์นี่แหละ

คือครูชัยยศ กับอีกท่านคือจีราพรรณ นี่คือ 4 ตัวละครหลักๆ คือ ผอ.จรัส ส่งต่อบุณยานุช โดยบุณยานุชเป็นคนยืมเงินไป บุณยานุชไปซื้อวัตถุดิบมา คนที่ตรวจรับของคือครูชัยยศ กับครูจีราพรรณ ตอนนั้นที่ครูเช็กสมบูรณ์มั้ย?

ชัยยศ : ตอนไปเช็กก็สมบูรณ์ ด้วยเราเช็กแล้ว ด้วยกระดาษผมก็คิดว่าเป็นรายการของที่เราตรวจมา ผมก็เลยเซ็น ตรงนี้ก็ไม่ได้อ่าน ไม่ชัดเจน เพราะมีลายมือครูบุณยานุชอยู่แล้ว เพราะจิตสำนึกของเราคิดว่าตามคำสั่ง เราเป็นผู้ตรวจรับงานเท่านั้น เราจะไม่เกี่ยวข้องกับเรื่องราคา เรื่องการเงิน

ใบรับรองการจ่ายเงินค่าอาหาร โรงเรียนบ้านยางเปา อ.อมก๋อย จ.เชียงใหม่ ในนี้จะมีรายการอาหาร น้ำพริกกะปิ ปลาทูทอด ผักเคียง วันที่  5 มิ.ย. 61 ซื้อกะหล่ำ 10 กิโล แตงกวา 2 ถุง ถั่วฝังยาวดิบ พริกขี้หนู 1 กิโล มะเขือพวง 2 กิโล มะนาว 2 ลูก ลูกมะอึก 1 กิโล กุ้งแห้ง 1 กิโล ปลาทูนึ่ง น้ำมันปาล์ม น้ำมันปึก น้ำมันปี๊บ กะปิคุณภาพดี น้ำปลาดี ทั้งหมดจะมีรายการต่างๆ นานา และมีราคา ประเด็นสำคัญคือมีลายเซ็นคุณครูบุณยานุชอยู่ ซึ่งเป็นคนไปซื้อมา จากนั้นคนเป็นกรรมการตรวจรับจะมีสองท่าน คือจีราพรรณ และครูชัยยศ?

ชัยยศ : ด้วยความเข้าใจ เราคิดว่าเป็นรายการอาหารที่เราตรวจไป เพราะผ่านกระบวนการมาแล้ว

ครูได้เข้าไปเช็กตัววัตถุดิบมั้ย?

ชัยยศ : เช็กครับ

มีภาพไข่แบบนี้มั้ย?

ชัยยศ : ผมก็นับยกๆ ขึ้นมา ข้างในผมไม่เห็น  ผมก็เซ็นไป ด้วยความเข้าใจที่ว่าไม่เกี่ยวกับเรื่องเงิน แต่เกี่ยวกับรายการอาหารที่เราตรวจไปทั้งสองคน เพราะเรามีหน้าที่เช็กแค่ว่าวัตถุดิบมายังไง ราคาเราก็ไม่รู้ เขาจะซื้อมาเท่าไหร่เราก็ไม่รู้

 ประเด็นหลักๆ มีสองเหตุ เหตุแรกที่เป็นข่าวออกมา คือเรื่องราวของครูเองที่มีการนำค่าอาหารกลางวันเด็กประถมไปให้เด็กมัธยม สุดท้ายทำให้ครูเด้งไป อันนี้ไม่ใช่แล้ว คลาดเคลื่อนแน่นอน?

ภูเทพ : คลาดเคลื่อนครับ

ครูยืนยันไม่มีประเด็นนั้นแน่นอน?

ชัยยศ : ยืนยันครับ

วันนี้ประเด็นหลักว่าทำไมครูชัยยศที่นักเรียนรัก มีรางวัลการันตีเยอะแยะมากมาย ครูได้รางวัลอะไรบ้าง?

ชัยยศ : รางวัลที่ผมทำกิจกรรมกับนักเรียน ผมสอนบนดอยจนมาถึงระดับประเทศ มีการส่งเสริม ส่งเสีย หาที่นอน ที่กิน ใช้เวลาพิเศษกับนักเรียน ทั้งตอนเย็น ตอนกลางคืนเรื่องการร้องเพลง วันเสาร์-อาทิตย์ ผมสละให้นักเรียนไปหมดแล้ว ด้วยที่รู้มาว่าคุรุภัณฑ์ เกิน 5 พัน ไม่มีให้เราเบิก ผมก็ใช้งบประมาณตัวเอง โต๊ะปิงปอง 5 ตัว ผมใช้งบตัวเอง ลำโพงชุด 7,900 ผมก็ซื้อด้วยตัวเอง 3 ชุด อยู่ที่บ้านผมชุดนึง ในรถชุดนึง ที่โรงเรียนชุดนึง เลี้ยงข้าวเลี้ยงน้ำทุกวันเสาร์อาทิตย์ มื้อเที่ยงไม่พอมื้อย็นอีก ไม่มีรถก็เดินไปส่งนักเรียน ไกลแสนไกลเราก็เดินกลับมาคนเดียว

ครูกำลังจะบอกว่าถ้าให้ไปทุจริตแบบนี้ไม่ทำแน่?

ชัยยศ : ผมไม่ทรยศต่ออาชีพตัวเองแน่นอน

แต่ประเด็นอยู่ตรงที่การยืมเงิน สุดท้ายป.ป.ช.ไปสืบว่าไม่ใช่ 6 หมื่น แต่ไปซื้อแค่ 4 หมื่นกว่าบาท มันหายไปหมื่นกว่าบาท อยู่ไหน แล้วหายไป15 สัปดาห์ แสนกว่า มันควรเป็นเรื่องผอ.กับบุณยานุชแค่นั้น แต่สุดท้ายไม่ใช่ เป็นเพราะบุณยานุชเอาเงินซื้อของแล้ว วัตถุดิบมาถึงโรงเรียน คนตรวจรับคือครูชัยยศ พอตรวจรับของ อย่างไข่มาวางเป็นแผงๆ ครูตรวจ 1 2 3 มีเอกสารวัตถุดิบมาให้ บุณยานุชเซ็นเรียบร้อย ชัยยศกับจีราพรรณตรวจและเซ็นชื่อพร้อมกัน พอป.ป.ช.ชี้มูลว่าตั้งแต่ผอ. ลามมาถึงครูคนที่สอง คนเซ็นชื่อตรวจของเป็นใครอีก ก็มาเจอสองคนนี้ ก็ต้องโดนด้วย?

ภูเทพ : ครับ ก็ต้องเรียนว่าเป็นความอึดอัด ในเรื่องความดีของครู ความทุ่มเท เราเห็นว่าเป็นสิ่งที่ดี แต่พอเรามาตรวจเจอเส้นทางเอกสาร มันเป็นเอกสารเท็จ ถามว่าทำไมเท็จ เอาเรื่องตรวจรับก่อน เขาเอาอาหารแห้งอาหารสดมาส่งอาทิตย์ละครั้ง คือบุณยานุช เอาอาหารมาส่งวันจันทร์ หรือวันแรกของอาทิตย์ มาส่งครั้งเดียวนะ คุณครูมีหน้าที่ตรวจ แต่คุณครูตรวจยังไงครับ คุณครูออกใบตรวจรับวันนึง 3 ฉบับ เพราะเขามาส่งอาทิตย์ละวัน ต้องตรวจแค่วันเดียวจบ เราก็ไปเจอเอกสาร ทำไมตรวจรับทุกวัน วันละ 3 ฉบับ ซึ่งมันผิดปกติ เราได้ข้อมูลว่าเขาเอาอาหารมาส่งอาทิตย์ละครั้ง ก็ต้องตรวจรับอาทิตย์ละครั้ง พอคุณครูไปตรวจ อาหารมาลงเสร็จ คุณครูแยกยังไงวันละ 3 ฉบับ คุณครูดูละเอียดขนาดนั้นหรือเปล่า นี่คือส่วนนี้ มันขัดแย้งกับข้อเท็จจริงที่มันปรากฏ พอป.ป.ช.ลงไปหลังเกิดเหตุ ประมาณปีสองปี เราก็เจาะเวลาหาอดีต คุณครูอยู่ในเหตุการณ์ คุณครูทราบดีที่สุด แต่ป.ป.ช.ไปไล่ดูเอกสาร และสอบพยานบุคคลที่เกี่ยวข้อง สอบคนที่มีหน้าที่ไปหาอาหารสด อาหารแห้ง เขาก็ให้ข้อมูลมาว่า เขาซื้อมาในวงเงินแค่ 48,500 เพราะบุณยานุชสั่งว่าอย่าซื้อเกิน และไม่ต้องขอใบเสร็จ ซึ่งก็ผิดระเบียบจัดซื้อจัดจ้าง ที่กระทรวงศึกษากำหนดไว้ มันผิดขั้นตอนทุกอย่างเลย

มันเป็นเรื่องบุณยานุชกับผอ.หรือเปล่า ครู ณ เวลานั้นเป็นครูชั้นผู้น้อย จริงๆ มีหน้าที่แค่สอนนั่นแหละ แต่ต้องมานั่งถูกสั่งให้ตรวจสอบด้วย?

ภูเทพ : เรื่องที่ครูต้องมาทำหน้าที่มากกว่าการสอน ผมว่าตอนท้ายต้องคุยกัน ฝ่ายรัฐบาลฝ่ายบริหารจะช่วยกันแก้ปัญหายังไง แต่ของคุณครูมีประเด็นนี้ ถ้าคุณครูไม่เซ็นรับรองข้อเท็จจริงในส่วนนี้ ตัวบุณยานุชไม่สามารถเอาเอกสารไปหักล้างเงิน 6 หมื่นได้ นี่แหละครับปัญหามันเกิด เพราะใบตรวจรับคือสิ่งสำคัญ

ทนายแก้ว : พูดง่ายๆ ครูเข้ามาเกี่ยวข้อง ทำให้ครบกระบวนการของมัน กรณีป.ป.ช.แจ้งข้อกล่าวหา ถ้าขาดคนใดคนหนึ่ง มันจะไปไม่ถึงบุณยานุช

พอครูเซ็นตัวนี้ไป มีลายเซ็นครูจีราพรรณกับครูชัยยศ มันสมบูรณ์?

ทนายแก้ว : มันตั้งเบิกได้

มันครบองค์ประกอบทุกอย่าง พอป.ป.ช.ไปถามว่าบุณยานุชทำแบบนี้ได้ยังไง เงินหายไปไหน เขาก็บอก อ้าวฉันก็ส่งไปตรวจสอบทุกอย่าง ให้ครูชัยยศตรวจสอบแล้วไง เซ็นชื่อด้วย ดูสิคะ ป.ป.ช.ก็พูดไม่ออกแล้ว ก็ต้องกลับมาทางนี้?

ภูเทพ : ครับ ต้องกลับมาสอบยันว่า เมื่อเขาจ่ายเงินไปแค่ 48,500 ทำไมรายการบวกได้ 6 หมื่น แล้วอย่างที่ผมบอก เขามาส่งอาทิตย์ละครั้ง ทำไมทำการตรวจรับทุกวัน วันละ 3 ใบ 3 ครั้ง

เซ็น 3 ครั้งนี่มันยังไง จะได้เคลียร์ไปเลย?

ชัยยศ : บางครั้งเราไปตรวจตรงนั้นเป็นล็อตใหญ่ แล้วเราก็กลับมาเซ็น แต่ความไว้เนื้อเชื่อใจ ความไม่เข้าใจเอกสาร ผมก็ขอยืนยันเหมือนเดิมว่าผมไม่รู้เลยว่าใบนี้เกี่ยวข้องกับเงิน คิดว่าเป็นใบเกี่ยวข้องกับอาหารแค่นั้น แล้วมันไม่มีการอบรมให้ก่อนเราทำงาน เพราะผมเรียนแค่ภาคสมทบ แค่ครูฝึกสอนก็ยากลำบากแล้ว ไม่คิดว่าเราจะสอนได้ด้วยซ้ำ แต่ให้เรามารับผิดชอบงานตรงนี้ ซึ่งเป็นงานนอก จริงๆ งานเราก็เยอะอยู่แล้ว ผมมีชุมนุม มีชมรมอะไรเยอะแยะ แล้วให้ทำงานตรงนี้ด้วย ความรู้เราไม่มีตรงนี้เลย

ครูเซ็นสามครั้งเพราะไว้เนื้อเชื่อใจบุณยานุช พอเขาบอกให้เซ็นครูก็เซ็น?

ชัยยศ : ลองคิดถึงความเป็นจริง ถ้าผมรู้ว่าตรงนี้ไม่ถูกต้อง ผมจะเซ็นมั้ย ผมไม่เซ็นเด็ดขาด ด้วยความไม่เข้าใจ

ครูมีสิทธิ์ไม่เซ็นมั้ย?

ชัยยศ : ผมมารู้ทีหลังว่าถ้าเราไม่อยากทำงานตรงนี้ เราก็เขียนคำร้องให้ผอ.

ทนายแก้ว : อาจเป็นการฝ่าฝืนคำสั่งเจ้าพนักงานก็ได้ครับ

ชัยยศ : แล้วเราจะอยู่ตรงนั้นได้มั้ย อยู่ไม่ได้ครับ

เพราะเราเป็นครูผู้น้อย?

ชัยยศ : ผมก็ต้องฟังคำสั่งผู้บังคับบัญชา ถามว่ายากอะไรมั้ย ดูๆ แล้วก็ไม่ยากอะไร ดูอาหารแล้วก็เซ็น มันไม่ยากอะไรสำหรับผม ผอ.เคยให้ผมอยู่วิชาการ ผมก็ไม่อยู่ อยู่ไม่ได้ ไม่มีความรู้ด้านวิชาการ

พูดมุมอยู่ข้างครูก่อน ครูก็ซวยสิ อยู่ดีๆ ครูเป็นชั้นผู้น้อย แต่ชั้นผู้ใหญ่บอกว่าต้องเซ็นนะ เขาก็ต้องเซ็น ไม่เซ็นก็อยู่ตรงนั้นไม่ได้เหมือนกัน?

ทนายแก้ว : กฎหมายคือกฎหมาย กฎระเบียบคือกฎระเบียบ เมื่อมีการมอบหมายให้ครูเป็นเจ้าหน้าที่ตรวจรับพัสดุอะไรก็ตาม สิ่งแรกที่ต้องดูคือครบมั้ยก่อน แน่นอนว่าภาครัฐก็ต้องมาดูปลายทางอยู่แล้วว่ามีการทุจริตหรือเปล่า แต่เอกสารสำคัญตรงนั้นครับ ผมเข้าใจว่าด้วยบริบทความสนิทสนมกัน แต่ในความเป็นจริง มันส่งผลเสียให้คุณครูได้ครับ จุดนี้คุณครูอย่าเพิ่งจบตรงนี้ ยังมีทางไปครับ

ภูเทพ : ครูมีสิทธิ์ทางกฎหมายที่จะต่อสู้อยู่ครับ

มุมที่เซ็นโดยเป็นครูชั้นผู้น้อยได้มั้ย?

ทนายแก้ว : มันอ้างลำบากเหมือนกัน อาจสู้ได้ แต่ศาลจะเชื่อหรือไม่เชื่อก็เป็นดุลยพินิจ

ภูเทพ : เรื่องนี้เป็นเรื่องอ่อนไหวนะครับ เพราะเจ้าพนักงานของรัฐทั่วประเทศ 3 ล้านคนอยู่ภายใต้กฎหมายระเบียบตัวนี้ ทีนี้มันมีประเด็นที่ว่าสิ่งที่คุณครูรับรองมันไม่ตรงกับความจริง สำหรับเคสคุณครูเป็นเคสที่น่าเห็นใจ แต่ถ้าเราเหวี่ยงน้ำหนักไปทางใดทางนึง มันก็กระทบกับระบบงบประมาณทั้งประเทศ เพราะใช้กับเจ้าพนักงานของรัฐ 3 ล้านคนทั่วประเทศ

มันจะเป็นบรรทัดฐานทันที ถ้ามีเรื่องแบบนี้ขึ้นอีก ก็จะอ้าว ทำไมครูคนนี้ยังเป็นแบบนี้ได้เลย?

ภูเทพ : มันเป็นเรื่องอ่อนไหว ต้องระวังครับ

ครูลงทางจากดอยเมื่อคืนนี้ ตีสอง เพื่อรอมาขึ้นเครื่องและบินมาหาเราวันนี้ ครูอยากเรียกร้องความเป็นธรรมให้ตัวเองเหมือนกัน?

ชัยยศ : มลทินตรงนี้ เข้าใจว่าตัวเรายังไม่มีความผิด ทุกวันนี้เหมือนฝัน แต่ด้านหนังสือ ด้านกฎหมายเขาว่าเราผิด ผมก็อยากขอความยุติธรรมว่าขอให้ตรวจอะไรที่ละเอียด มองเห็นเจตนาของคน เพราะเป็นไปไม่ได้ที่ผมจะเจตนาทุจริต ทำตามหน้าที่ตามคำสั่งของตัวเองเท่านั้น แต่เรื่องเอกสารที่มันไม่ถูกต้อง ผมก็ไม่รู้ว่ามันไม่ถูกต้อง ความเข้าใจคิดว่ามันถูกต้องแล้ว เพราะเราเป็นพี่เป็นน้องกันมาด้วย เขามีคำสั่งแต่งตั้งเราขึ้นมา เราก็ต้องทำ อย่างที่บอกไปเบื้องต้นว่าการดูอาหารแล้วเซ็นมันไม่ใช่เรื่องยาก แต่ถ้าอย่างอื่นเรื่องยากผมก็ปฏิเสธ เพราะอย่างวิชาการ ผมก็ไม่ไหว ทำไม่ได้ โรงเรียนเละแน่ถ้าให้เราอยู่วิชาการหรือการเงิน เพราะเราเรียนศิลปะมา เราก็ฉายตั้งแต่ความเป็นนักวาด นักร้อง ให้ทำงานตรงนี้ผมก็ไม่เก่ง ด้วยความเข้าใจคิดว่ามันถูกต้องแล้ว

ความเป็นอยู่ของนักเรียนลำบากขนาดนั้นเลยเหรอ ผมรู้ว่ามีการแบ่งเอาเงินทำอาหารให้เด็กประถมไปให้มัธยม?

ชัยยศ : เด็กเป็นชาวเขาเผ่ากะเหรี่ยงร้อยเปอร์เซ็นต์ ไม่มีเผ่าอื่นเจือปน ฐานะบนดอยก็ยากจนอยู่แล้ว ด้วยเหตุนี้ผมถึงอยู่ตรงนั้นนาน เพราะผมคิดว่าผมเป็นคนเปลี่ยนแปลงและมอบโอกาส อาจไม่ยิ่งใหญ่ทั่วโรงเรียน แต่อย่างน้อยมีจุดนึงที่ปมรับจากครูบาอาจารย์มา และผมอยากทดแทนบุญคุณแผ่นดิน อยากอยู่ตรงนั้น ถ้าผมย้ายมาข้างล่างเงินเยอะนะครับ เม็ดเงินเลื่อนขั้นเยอะ แต่ผมไม่เคยลงมาเลย ผมเดินไปโรงเรียนเก่าตั้ง 5-10 กิโลเต็มๆ 4 ปีเต็มๆ แบกเป้ขึ้นไป ไม่เคยบ่นแม้แต่วันเดียว

เด็กเขาอยู่กันยังไง?

ชัยยศ :   วันแรกผมเห็นเขากินข้าวกับน้ำพริก ผมพูดภาษากะเหรี่ยงได้ 3 ภาษา ทุกวันก็เป็นน้ำพริกหมดเลย แค่ผมเอาน้ำปลายี่ห้อดังไปให้เขากิน เขากินเอร็ดอร่อยมาก ผมว่าหลายคนไม่ได้เข้าไปอยู่ ตอนนี้เด็กที่ยากจน รถเข้าไม่ถึงก็เยอะแยะ แต่เราเป็นผู้อุทิศตนอยู่ตรงนั้น เรามองเห็นปัญหา เรามองเห็นภาพ ตอนนี้ผมมีเสื้อผ้าเต็มหลังรถ และโรตี ไปแจกเด็กกะเหรี่ยง บนดอยไกลแสนไกล แต่ก็ไปไม่ได้สักที เดี๋ยวทางโน้นเรียก ทางนี้เรียก ตอนนี้มีคนโทรหาผมตั้งแต่ตีห้ายันตีสามเมื่อคืน

เขาอยากช่วยครู?

ชัยยศ : ผมภูมิใจนะ มุมที่ผมเจอวิกฤต แต่ผมไม่ได้รับความรัก เป็นความรักที่แท้จริงจากผู้คน ผมเชื่อว่าคนอยู่กับผมมาไม่มีใครตำหนิผมเลย ทุกคนบอกว่าไม่เชื่อ แต่นั่นคือด้านพฤติกรรมที่เขาไม่เชื่อกัน แต่ด้านกฎหมายเขาเชื่อ ผมถึงบอกว่าต้องพิจารณาด้านเจตนา ที่เราไม่ได้ทุจริตอะไรเลย

มองว่าครูอาจไม่เข้าใจมุมข้อกฎหมายบางข้อ?

ชัยยศ :   ไม่ใช่บางข้อ ทุกข้อครับ

แกเป็นคนสอนหนังสือ แกก็ไม่รู้เล่ห์รู้เหลี่ยม ผมสรุปง่ายๆ อย่างผมทำโหนกระแส ผมก็มีลูกน้อง ผมบอกเม่นเซ็นอันนี้สิ เขาเป็นลูกน้องเขาก็เซ็นนะ เพราะความเกรงใจ เหมือนกัน แต่สุดท้ายเป็นแบบนี้ ส่วนเงินที่หายไป แสดงว่าทางป.ป.ช.สืบรู้แล้วว่าหายไปไหน?

ภูเทพ : ครับ

ครูถูกปลดนานหรือยัง?

ชัยยศ : ตั้งแต่วันที่ 20 พ.ย. ที่ผ่านมา ฐานเอื้อให้ผู้อื่นทุจริต

ทนายแก้ว : ถ้าปลดออกกับไล่ออก สิทธิ์เรื่องบำเหน็จบำนาญก็ต่างกัน กรณีที่ใช้คำว่าปลด ก็ยังได้ค่าบำนาญอยู่ประมาณ 70 เปอร์เซ็นต์ แต่ถ้าไล่ออก ไม่ได้เลยครับ

วันนี้ป.ป.ช.ชี้มูลคือ?

ภูเทพ : เราส่งไปที่ต้นสังกัดว่าการกระทำของคณะสี่คนนี้ มีความผิดทางวินัยอย่างร้ายแรง  ทีนี้ต้นสังกัดก็ไปพิจารณาว่าความผิดทางวินัยอย่างร้ายแรง มันมีไล่อออกกับปลดออก ก็ไปดูการกระทำว่าคนไหนเป็นแบบไหน เพราะถ้าเรื่องทุจริตต่อหน้าที่มันมีมติคณะรัฐมนตรีวางไว้เลยว่าห้ามลดหย่อนโทษ ต้องไล่ออกอย่างเดียว ถ้าเป็นทุจริตต่อหน้าที่ แต่ของคุณครูเป็นเรื่องละเว้นการปฏิบัติหน้าที่

ทนายแก้ว : ข้อหาที่ป.ป.ช.ตั้งกับคุณครู มีสองข้อหาหลักๆ คือ 157 ละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ ตรงนี้มีโทษจำคุก 10 ปี อีกมาตราคือเรื่องการทำเอกสารเท็จ ซึ่งปกติถ้าเอกชนทำไม่ผิด แต่ถ้าเป็นข้าราชการเจ้าพนักงานของรัฐทำเอกสารเท็จผิด มีโทษจำคุก 7 ปี ก็จะกลายเป็นสองข้อหาใหญ่ คือ 157 กับ 162 คุณครูเองผมคิดว่าตอนนี้พนักงานป.ป.ช.แจ้งข้อกล่าวหาส่งเรื่องให้พนักงานอัยการ ครูเองก็มีสิทธิ์ขอความเป็นธรรมในชั้นพนักงานอัยการได้ โดยการเอาเอกสารทั้งหมดไปแสดงให้เห็นว่าจริงๆ แล้วคุณครูเกี่ยวแค่ไหนเพียงใด จุดนี้สำคัญเพราะศาลฎีกาก็เคยวางหลักไว้ว่ากรณีเป็นการตรวจรับจ้างก็อาจต้องพิจารณาเป็นคนๆ เหมือนกัน ว่าบางครั้งสถานการณ์หรืออะไรก็ตาม มันเอื้อมันพายังไง คุณครูต้องเขียนเอกสารเล่าเรื่องทั้งหมดให้กับพนักงานอัยการเพื่อขอความเป็นธรรม

มีโอกาสมั้ยถ้ายื่นไปว่าไม่เป็นธรรมกับเรา?

ทนายแก้ว : ตอบยากครับ เป็นดุลยพินิจของพนักงานอัยการ ต้องเข้าใจว่าบุคคลที่มีสิทธิ์คือศาลในการพิจารณาว่าผิดหรือไม่ผิด ก็มีหลายคดีที่วางกรอบไว้ว่าจัดซื้อจัดจ้างบางคนเกี่ยวมากเกี่ยวน้อย มันมีความผิดต่างกัน ศาลอาจมองว่ามีส่วน อาจรอลงอาญา อาจอะไรก็เป็นอีกเรื่องนึงครับ ตรงนี้คือสิ่งที่ครูต้องต่อสู้ครับ

ครูเครียดมั้ยทุกวันนี้ ท้อใจมั้ย?

ชัยยศ : ครั้งแรกช็อกว่าเรามีความผิดขนาดนั้นเลยเหรอ ต่อมาผมเป็นคนเจออะไรที่โหดร้ายมากว่านี้ โดยเฉพาะเรื่องความตาย ผมมีสัมผัส ไม่ใช่โอ้อวด แต่เกิดขึ้นในชีวิตจริงๆ ผมก็บอกพี่น้องว่าอย่าเอาความเศร้าโศกมาไว้ในชีวิตนะ ผมเชื่อเรื่องบาปบุญ ผมไม่เคยฆ่าสัตว์ มีความรัก มีความเมตตา มีความจริงใจ ผมตกน้ำมาเพื่อนตายแต่ผมรอด ขาก้าวขึ้นรถแต่ไม่ไปแล้วตอนเที่ยงคืน รถไปชนผมก็รอด ฉะนั้นเหตุการณ์ครั้งนี้ พี่น้องบอกว่าอย่าไปเศร้าโศกกับมัน ตั้งรับ แต่ผมไม่ยอมรับ ผมถือว่าตัวหนังสือฆ่าคน กฎหมายฆ่าคน เราเป็นข้าราชการแต่เราโดนข่มจากตัวหนังสือ ความเป็นธรรม กำลังใจไม่ใช่จากผมคนเดียวนะ ครูทั่วประเทศที่ทำงานมา แล้วไม่ใช่ผมโดนคนเดียวด้วยตอนนี้ เพื่อนๆ ที่อยุธยาก็โดน ผมก็สงสัยทำไมเขามาขายกับข้าว เป็นครูเจ้าฟ้าเหมือนกัน สอนคนที่อยู่ในคุก คนที่ได้รางวัลคือคนทำงาน ไม่ใช่คนอื่นไม่ได้รางวัลนะ แต่เรามีผลงาน ก็เลยส่งประกวด มีนักข่าวไป มีคณะไปตรวจสอบเราถึง 4 ขั้นตอน ถึงชนะได้รางวัล ติด 1 ใน 3 ของประเทศ นั่นคือความภูมิใจ แต่ความภูมิใจในหน้าที่การงานตรงนี้มันไม่เหลือแล้ว โครงการเราโดนแขวนไปแล้ว เราอ่อนใจกับระบบ เหมือนโดนรังแก โดยเราไม่รู้สึกตัวด้วยซ้ำไป

ครูอยากให้เป็นยังไง?

ชัยยศ : ความต้องการของเรา อาจไม่ตรงกับคนที่เขาชี้มูลเรา ผมอยากขอความเป็นธรรม ให้พิจารณาเรื่องเจตนา ผมเสียสละมา แล้วจะมาทุจริต มันตรงกันข้าม ผมได้รับในสิ่งที่ผมไม่ได้ทำ เราขยัน เราเพียรพยายาม ผมเรียนหนังสือไม่เก่ง ที่ไปดั้นด้นเรียนมาเพราะอยากถ่ายทอดลูกศิษย์ เพราะลูกศิษย์มีปมด้อยเหมือนที่ผมมี ผมโดนเพื่อนทิ้งเป็นเด็กท้ายห้อง ไม่มีใครให้เข้ากลุ่ม ผมก็ไปเรียนมาเพื่อเอามาใช้กับสิ่งที่ตัวเองยืนอยู่ ก็ขอความเป็นธรรม อยากให้พิจารณาหน่อย

มีโอกาสแบบนั้นมั้ย?

ภูเทพ : อย่างที่ท่านทนายบอก มันเป็นเรื่องกฎหมายระเบียบใช้กับสังคม ไม่ได้เลือกใช้กับภูมิลำเนาใด อำเภอใด จังหวัดใด หรือกลุ่มชนใด มันใช้กับเจ้าหน้าที่ของรัฐทั้งหมด เพราะมันเป็นเรื่องงบประมาณแผ่นดิน เป็นเงินที่มาจากภาษีคุณหนุ่ม คุณทนาย คุณครู ผม เราเสียภาษี มันจึงต้องมีการตรวจสอบ จริงๆ ป.ป.ช. ไม่ใช่คู่กรณี ไม่ใช่คู่ความเรื่องนี้ เราเป็นเรื่องปลายน้ำแล้ว เพราะมีคนยื่นมา ตอนนี้เราเลยรณรงค์ เพราะเหตุลักษณะนี้ ป.ป.ช.พยายามลงไปก่อนที่จะเกิดความเสียหาย ตอนนี้ท่านเห็นภาพ ป.ป.ช.ลงไปดูก่อนเขาตรวจรับ ก่อนจ่ายเงิน ถ้าเราลงไปทัน เราก็ไปยับยั้ง อย่างเคสนี้ ถ้าป.ป.ช.ลงไปก่อน เพราะมีคนแจ้งเบาะแสมาก่อน ผมเชื่อว่ากระบวนการทำเอกสารก็จะไม่มี เรามาคุยหลังจากที่ความผิดมันสำเร็จแล้ว ครบองค์ประกอบ เป็นธรรมไม่เป็นธรรม ต้องนำเรียนว่าคนที่ฟังอยู่ทางบ้านต้องเข้าใจว่าตราบใดที่กฎหมายมันยังไม่แก้ เรื่องจัดซื้อจัดจ้าง ถ้ามีลักษณะแบบนี้ แล้วคุณครูไปรับรองสิ่งที่มันเป็นเท็จ  เขาถึงบอกว่ารับรองเอกสารอันเป็นเท็จ เจ้าหน้าที่ไปรับรองเอกสารอันเป็นเท็จ มันเลยยังมีความผิด แต่มันไม่ถูกใจสังคมหรอก เพราะประวัติคุณครูเสียสละ ทำงานอยู่บนดอยสูงหลายสิบปี แต่ถามว่าเคสอย่างนี้ อนาคตต้องไปมองแล้วว่าถ้าทำเอกสารเท็จเพื่อจะมีประโยชน์อะไรขึ้นมาแล้วทดแทนกันได้ ก็ต้องมีโหมดยกเว้นโทษกันได้ ก็เป็นเรื่องอนาคตจะมีกฎหมายมั้ย แต่ปัจจุบันตอนนี้กฎหมายยังเขียนอยู่ คุณครูไปรับรองสิ่งที่ไม่ได้เกิดขึ้นจริง แล้วเขาเอาสิ่งที่คุณครูไปรับรองไปประกอบ และเงินแสนกว่าบาทมันก็หายไปแล้ว ถามว่ามาคุยวันนี้ ผมก็อึดอัดนะ เพราะต้องมาชี้ในเรื่องสำนวนป.ป.ช. ซึ่งเราดูแล้วมันก็ชี้ไปที่การกระทำของคุณครูกับพวกครบถ้วน เพียงแต่คุณครูไม่ได้ไปอยู่ในส่วนที่มีหน้าที่ซื้อทำจัดการ แต่คุณครูมาอยู่ในส่วนคือคุณครูเซ็นรับรองเอกสารที่มันเกิดขึ้น

ชัยยศ : เบื้องต้นผมก็บอกแล้วว่าด้วยความเข้าใจว่าเป็นเอกสารที่ถูกต้อง

ทนายแก้ว : เหตุก็อยู่ไกล ทำไมเรื่องถึงไปถึงป.ป.ช.ได้

ชัยยศ :   ชาวบ้าน ลูกศิษย์มากอดมาขอโทษ ถ้ารู้แบบนี้จะไม่ทำ ไม่คิดว่าจะบานปลายขนาดนี้

ชาวบ้านไม่โอเคกับผอ. ชาวบ้านก็เลยร้อง จริงๆ ไม่เกี่ยวกับครูเลย ชาวบ้านร้องผอ. ป.ป.ช.ก็ถูกส่งไปดู แล้วมีการไล่ดู 1 2 3 4 ตอนแรกไปผอ. บุณยานุช แต่พอบุณยานุชเอาเอกสารมาดู ว่าหนูไม่ได้ทุจริตนะ เพราะผ่านกระบวนการตรวจสอบมาแล้วจากครูสองท่านนี้ พอยื่นเอกสารนี้ไป มีลายเซ็นครู ป.ป.ช.ก็เช็ก?

ภูเทพ : อย่างที่บอกเขาร้องมา เขาแนบอาหารมาด้วย เขาบอกอาหารที่จัดซื้อไม่ได้คุณภาพ ตอนนั้นเราไม่รู้หรอกว่าใครมีหน้าที่จัดซื้ออาหาร ใครมีหน้าที่ตรวจ เขาส่งภาพถ่ายมา อาหารเป็นซี่โครงไก่ ฟัก ไข่ไม่ครบแผง เราก็ลงไปดู อ๋อ  มันมีกระบวนการคนยืมเงินส่วนนึง คนจัดซื้ออาหารสด อาหารแห้งมา และสุดท้ายคือคุณครูมีหน้าที่ตรวจ คุณครูอยู่ตรงปลาย

ทนายแก้ว : ซวยจริงๆ

ชัยยศ :   ลูกศิษย์มากอดมาร้องไห้ขอโทษ ผมไม่โกรธใครสักคน

ทนายแก้ว :   ครูอย่าสิ้นหวัง 157 ต้องเป็นเจตนาในการทุจริต ครูสู้เถอะครับ 157 ต้องมีเจตนาพิเศษครับ ว่าเรามีเจตนาทุจริตจริงๆ ประสงค์และเล็งเห็นต่อผลจริงๆ ผมว่าศาลเมตตา ความยุติธรรมมีอยู่บนโลกนี้ครับ

วันนี้ทำไมครูถึงขายโรตี?

ชัยยศ : เริ่มต้นผมส่งหลานเรียนหนังสือ เงินเดดือนละ 6 พันกว่า ไม่อยากบอกว่าเงินเดือนไม่พอ

ทนายแก้ว : เมื่อป.ป.ช.ชี้มูลแล้ว มันน่าจะเข้าสู่กระบวนการ ผมคิดว่าเราไปดำเนินการตามรูปแบบดีกว่า เมื่อชี้มา เราไปขอความเป็นธรรม ท่านจะพบหรือไม่พบอีกเรื่องนึง ผมคิดว่าหลักฐานมันสามารถให้ความเป็นธรรมครูได้ ครูอยู่บนดอยเงินเดือน 6 พันเองเหรอครับ

ชัยยศ : เริ่มต้น 6 พัน

ก่อนถูกปลดออกเงินเดือนเท่าไหร่?

ชัยยศ : 5.1 หมื่น ผมขายโรตี ก็อย่างที่บอก เสื้อผ้าเด็กกำพร้า พ่อแม่เข้าคุก หรืออาหารที่เลี้ยงกันมา ชุมนุมผมแต่ก่อน 56 คนต้องเอามาสอนวันเสาร์อาทิตย์ เพราะสอนในขั่วโมงมันไม่ทัน ถามว่าเด็กเดินมาเรียนกับเรา 4-5 กิโล เด็กกินข้าวที่ไหน ผมก็ไม่เบิกที่ไหน ก็เงินส่วนตัวนะครับ  

กรณีเงินที่หายไป ตอนนี้เจอว่าอยู่ที่ไหน?

ภูเทพ : เงินที่หายไปมีปัญหาว่าผู้เกี่ยวข้องก็ไม่สามารถชี้แจงกับเราได้ ว่าไปอยู่ที่ไหน มันไม่ปรากฏว่ามีพยานบุคคลที่จะบอกว่าเงินนี้ไปอยู่ที่ใคร ฉะนั้นเงินเลยมาหยุดอยู่ที่ผู้ต้องหาที่ 1 และผู้ต้องหาที่ 2

ทนายแก้ว :   ถึงแม้ 3 กับ 4 ไม่ได้รับเงิน แต่ก็ถือว่ามีความผิด เพราะความผิดมันสำเร็จแล้ว มาตรา 157 เมื่อไหร่ที่มีการทุจริต ความผิดสำเร็จแล้วครับ

ภูเทพ : ในส่วนความน่าเห็นใจของคุณครู เรื่องความดีความชอบที่ทำมา มันก็เป็นส่วนนึง ที่จะเป็นเหตุบรรเทาโทษ เหมือนที่คุณครูได้รับการบรรเทาโทษ ที่เขาไม่ไล่คุณครูออก เอาปลดออกก่อน แต่ถามว่าเดี๋ยวคุณครูก็ไปใช้สิทธิที่ศาลปกครอง ถ้าสามารถพิสูจน์ได้ ศาลปกครองก็อาจเพิกถอนคำสั่งก็ว่ากันไป เพราะข้อเท็จจริงสำนวนมันเสร็จแล้ว ตอนนี้ก็รอไปพิสูจน์กันที่ชั้นอัยการหรือศาลยุติธรรม สำนวนส่งไปเรียบร้อยแล้ว เรื่องนี้ค่อนข้างละเอียดอ่อน เพราะถามว่าอย่างคุณครู ความดีเป็นที่ประจักษ์เราเห็น แต่ถ้าเจอเจ้าหน้าที่ของรัฐบางคนที่คิดทุจริต เขาก็อ้างแบบนี้เหมือนกัน ผมก็ไม่รู้ข้อกฎหมาย ผมก็เซ็นไปตามที่เขาเอามาให้เซ็น ตรงนี้ก็ต้องทำความเข้าใจกับคุณครูนะครับ ว่าเพราะมันมีเจ้าหน้าที่ของรัฐบางคนที่มันตั้งใจอย่างนั้นจริงๆ แต่ของคุณครูก็ต้องไปพิสูจน์กันก่อนให้ชัด  

ผอ.โดนอะไร?

ภูเทพ : โดนดำเนินคดีอาญาเหมือนกัน แต่โทษจะแรงกว่าของคุณครู ผอ.โดนคดีมีหน้าที่รักษาทรัพย์แล้วเบียดบัง ใช้อำนาจโดยทุจริต

ครูบุณยานุช?

ภูเทพ : โดนเหมือนท่านแรก โดน 151 157 แล้วก็ 162 เขาฟ้องพร้อมกัน 4 คน

แต่บุณยานุชยังอยู่?

ชัยยศ : ยังอยู่ครับ

ยังสอนอยู่เหรอ?

ชัยยศ : ใช่ครับ ตรงนี้ก็งงกันครับ

จริงเหรอ?

ชัยยศ : จริงครับ ถึงว่าผอ.ไปก่อน แล้วก็คนที่ 3 ที่ 4 ไปก่อน

ภูเทพ : ต้องไปเช็กก่อนนะ ถ้ามีคำสั่งปลดออกจากราชการ เขาทำหน้าที่ไม่ได้อยู่แล้ว

ครูมั่นใจเหรอ?

ชัยยศ : หลังปลดทำงานต่อ 15 วัน แต่วันนั้นที่เรานัดกันที่เชียงใหม่ เขายังไม่โดนปลดนี่ครับ

ภูเทพ : ต้องไปดูคำสั่งว่ามีผลเมื่อไหร่

ชัยยศ : แต่ผมโดนก่อน

ทนายแก้ว : คนเอื้อโดนก่อน ครูอาจโดนข้อหาแค่ 2 ข้อหา 1 กับ 2 อาจโดน 3 ข้อหา

ภูเทพ : ป.ป.ช.ส่งสำนวนไปที่ต้นสังกัด ซึ่งบอกว่าทุกคนกระจายกันไปแล้ว อยู่ที่ผู้บังคับบัญชาของแต่ละหน่วย เขาจะปฏิบัติตามมติของป.ป.ช.ยังไง ป.ป.ช.ส่งสำนวนไปแล้ว ก็แค่รอต้นสังกัดส่งกลับมาว่ามีการสั่งลงโทษหรือยัง ฉะนั้นตัวผู้บังคับบัญชาชของกรณีนี้ของบุณยานุช อาจไม่ใช่ผู้บังคับบัญชาของคุณครู อาจคนละเขต ฉะนั้นการทำงานเรื่องกรอบระยะเวลา อาจไม่ตรงกัน

ชัยยศ : เขาย้ายไปเขต 4 ตั้งแต่ชาวบ้านไล่แล้วครับ ส่วนผมกับครูจีราพรรณ อยู่เขต 5 เหมือนเดิม

ทนายแก้ว : ครูขายโรตีเพราะถนัดเหรอ

ชัยยศ : ผมไม่ถนัดอะไรสักอย่าง แต่ผมเรียนรู้ภายหลัง เพราะผมบอกนักเรียนว่าทุกอย่างคือพรสวรรค์ ไม่ใช่แค่เรื่องเรียน เรื่องศิลปะ เราแสวงหาเพื่อให้มีคุณสมบัติต่อสิ่งนั้นๆ แล้วเอาไปประยุกต์ใช้ในชีวิตประจำวัน นักเรียนวาดรูปได้ที่ 1 ระดับประเทศ ตอนแรกก็วาดรูปไม่เป็น แต่อยู่กับผมก็ได้ที่ 1 ระดับประเทศ

ครูเป็นคนจังหวัดอะไร?

ชัยยศ : เชียงใหม่ครับ

ประวัติของครู เข้าใจว่าทำไมครูถึงบอกว่ามันสวนทางกัน ทำเพื่อประเทศชาติ เด็กนักเรียน เพื่อองค์กรมาตลอด แต่วันนี้ได้รับการตอบแทนด้วยการถูกปลดออกจากความเป็นครู ป.ป.ช.ก็ลำบากใจเหมือนกัน เพราะสุดท้ายมันมีหลักฐานที่เป็นลายเซ็นของครู?

 ทนายแก้ว : คนมันเยอะ มันก็ต้องเป็นมาตรฐานเดียวกัน

สพฐ.ให้เป็นครูดีใจดวงใจ มีโล่ มีประกาศนียบัตรเยอะมาก?

ชัยยศ : ระดับประเทศทั้งนั้นครับ

ทนายแก้ว : ครูเก็บเอกสารไว้เพื่อไปส่งเสนอศาล เพื่อลดหย่อนโทษต่อสู้คดี

ภูเทพ :   ถึงบอกว่าในความเสียสละของครูก็ส่วนนึง

ชัยยศ : ทีวี หนังสือพิมพ์ รายการต่างๆ เป็นตัวอย่างสังคมหมด แต่ตอนนี้ก็เป็นตัวอย่างอีกแบบนึง วันหยุดไม่ได้หยุด เพราะสละไปแล้ว ผมมีอาจารย์ที่อาชีวะ มากอดคอผม เมตตาให้ความรักให้ความรู้ ผมก็คิดตั้งแต่วันนั้น อายุ 17 ผมชื่นชมที่อาจารย์เปลี่ยนเด็กคนนี้ได้ ผมไม่ได้เก่งแต่อ้อนแต่ออก ผมเป็นคนขาดโอกาส แต่เมื่อครูให้แล้วผมก็อยากเป็นครู แต่ผมเพิ่งรู้ว่าเป็นครูก็ต้องอดทน เรียนหนัก ไม่ได้ง่ายอย่างที่ผมคิด เมื่อผมเป็นแล้ว ก็อยากยึดตรงนี้ให้มันมั่นคง ไม่เกี่ยวกับเงินเดือน ผมสอนอังกฤษ ซื้อสมาร์ททีวีมาหมื่นกว่า ท่านลองคิดดู ครูย้ายไป 8 คน ต้องขนาดไหน ผมสอนตั้งแต่อนุบาล ยันม.3 ไม่เคยบ่นเลย 36 คาบนะท่าน ผมเป็นเก๊าท์ 4 เดือน คลานไปสอนหนังสือ 1 เดือนเดินไม่ได้แม้แต่ก้าวเดียว ผมไม่เคยขาดโรงเรียน

การันตีด้วยรางวัลทั้งหมดที่นับ 62 รางวัล เป็นรางวัลระดับประเทศทั้งนั้น ที่ครูชัยยศได้มา?

ชัยยศ : นี่คือผลตอบแทน

ท่านรักษาการบอกว่าอันนี้เป็นสิ่งที่ดี?

ภูเทพ : ใช้ประกอบได้ ผมเชื่อว่าเป็นสิ่งหนึ่งที่จะทำให้คุณครูได้รับโทษที่เบาลงมา แต่ก็พิสูจน์กันต่อไป สุดท้ายเรื่องนี้อยากนำเรียนว่าสิ่งที่คุณครูโดนเป็นเรื่องปลายเหตุ ที่เรารณรงค์ว่าเราต้องไม่ทำเรื่องทุจริต ไม่เฉย ก็อยากฝากเจ้าหน้าที่รัฐทั่วประเทศ ถ้ามีลักษณะแบบนี้ มองว่ามีข้อพิรุธ ระหว่างขัดใจผู้บังคับบัญชา กับฝ่าฝืนต่อกฎหมาย เราเลือกว่าเราขัดใจผู้บังคับบัญชาดีกว่า ถ้าเป็นกรณีนี้ ถ้ามีข้อเฉลียวสักนิดนึง คุณครูเห็นความแปลกประหลาดว่าให้คุณครูเซ็นเอกสารเยอะ

ทนายแก้ว : ครูเซ็นวันละ 3 ใบไม่เฉลียวเลยเหรอ

ชัยยศ : ถ้ามีความรู้ด้านนี้ ก็คงเฉลียว

ขอตอบแทนครู ถ้าพี่เอาเอกสารให้เม่นเซ็น 3 ใบ มันเซ็น ไม่อ่านด้วย เพราะความเชื่อใจ เพราะเราเป็นเจ้านาย ครูไว้เนื้อเชื่อใจ?

ภูเทพ : เรื่องนี้ต้องกลับมาคิดกันใหม่ การเซ็นเพราะเกรงใจผู้บังคับบัญชา เจ้าของบริษัท อย่างน้องเขาบอกว่าให้เซ็นเขาก็เซ็น แต่ถ้าให้ไปเซ็นค้ำประกันหรือช่วยชดใช้หนี้ พอถึงเวลาก็ตอบว่าไม่ได้อ่าน ซึ่งเวลาสู้ในศาล เป็นยังไงครับ

ทนายแก้ว : อ้างไม่ได้ครับ

ชัยยศ : กรณีผมไม่ได้เกรงใจ คิดว่ามันถูกต้องแล้ว เราไม่มีความรู้ด้านเอกสาร

ทนายแก้ว : ครูมองโลกบวกไง คนชั่วถึงมาหลอกใช้ครู

ชัยยศ : ก็โดนเขาว่าเหมือนกันครับ

ภูเทพ : ก็ย้อนกลับมาที่บอกว่าต้องแก้ทั้งระบบ ในภาคราชการ กระทรวงศึกษาเอง ถ้าคุณใช้ครูไปทำหน้าที่นอกเหนือจาการสอน เรื่องจัดซื้อจัดจ้าง คุณต้องมีการให้ความรู้เขามั้ย เพราะทุกวันนี้ ป.ป.ช.เองพยายามลงไปให้ความรู้เรื่องจัดซื้อจัดจ้าง แต่ป.ป.ช.มีคนอยู่ 700-800 คนทำหน้าที่ในด้านนี้ ซึ่งมันไม่เพียงพอ มันก็ต้องหันมาร่วมมือกัน ครูที่อยู่บนดอยที่ขาดความรู้ แต่ครูปฏิเสธอำนาจหน้าที่ไม่ได้ เพราะคำสั่งออกมา กระทรวงศึกษาก็ต้องไปให้ความรู้คนที่มีหน้าที่ นี่คือแก้ปัญหาให้ครูรุ่นหลังๆ ไม่ให้เขามาเจอวิบากกรรมแบบนี้

ชัยยศ : บางโรงเรียน 70 กิโล ไม่มีผู้ใหญ่เข้าไปถึงแน่นอน

ครูอาจพลาดเรื่องความไว้วางใจ เชื่อว่าครูเป็นคนดี ดูจากประวัติ 62 รางวัลการันตีครูคนนึง ผมว่าครูอาจติดเรื่องความไว้เนื้อเชื่อใจ เรื่องการที่เขาเป็นผู้บังคับบัญชาแต่เรื่องนี้ต้องแก้?

ภูเทพ : ต้องแก้ทั้งระบบ ตอนนี้สังคมออกมาแล้ว และเราเห็นว่าครูหลายคนทำหน้าที่เรื่องจัดซื้อจัดจ้าง กระทรวงศึกษาต้องย้อนกลับมาแล้วว่า ท่านได้ให้ความรู้ในส่วนนี้กับบุคลากรของท่านบ้างมั้ย กระทรวงศึกษาต้องจับมือกับกระทรวงการคลัง ดูระเบียบการจัดซื้อจัดจ้าง อาจจัดเรื่องความรู้เบื้องต้น ที่พูดถึงกระทรวงศึกษาเพราะวันนี้คุณครูสังกัดกระทรวงศึกษา แต่จริงๆ ก็คือภาพรวม รัฐบาลฝ่ายบริหารต้องมาช่วยป.ป.ช.ด้วย ต้องจับมือกัน เรื่องนี้เป็นจิกซอร์ ถ้าไม่มีสิ่งที่คุณครูทำ จิ๊กซอร์ก็ต่อไม่ติด เงินก็ยังอยู่ในคลังหลวง ยังอยู่ในส่วนกลาง ต้องให้ความรู้ และต้องไม่อดทนต่อเรื่องทุจริต อย่างที่พี่หนุ่มบอกเรื่องลูกน้อง ลูกน้องต้องไม่เกรงใจพี่หนุ่ม

ชัยยศ : กรณีผมไม่ได้เกรงใจ แต่เป็นความเชื่อใจ ทุกวันนี้เขาหลอกหรือไม่หลอก ผมยังไม่รู้เลย

ทนายแก้ว : เขาหลอกครูแล้ว มันชัดเจนในเอกสารคดีหนาเตอะ ป.ป.ช.สอบทุกอย่างเลยนะ ละเอียดยิบเลย

ภูเทพ : ตอนแจ้งข้อหา เราก็ให้คุณครูอ่านว่าเราไปรวบรวมเจออะไรมา

เรื่องการไว้ใจเป็นเรื่องสำคัญมากๆ ผมเคยมี หน้าแรกให้เซ็นเอกสาร อ่านปุ๊บเป็นเรื่องนี้ หน้าที่สองก็เซ็นเพราะไว้ใจกัน ปรากฏว่าแผ่นที่สองไม่เหมือนแผ่นแรก คนละเนื้อหา สุดท้ายทำให้เกิดการฟ้องร้องกัน?

ชัยยศ : แบบนี้ผมอ่านยากจัง

ทนายแก้ว : แน่นอนเพราะถนัดไม่เหมือนกัน ครูถูกปลดออก ตอนนี้ครูกำลังอุทธรณ์คำสั่งว่าแรงเกินไป

ชัยยศ : ไปที่คคส. แต่ยังไม่รับผล เพราะผมส่งไปวันที่ 4 ถ้าบอกวินัยร้ายแรงก็มีแค่สองช้อยส์ ไล่ออกกับปลดออก

ป.ป.ช.ทำงานหนักเหมือนกัน?

ภูเทพ : ทำงานหนัก ถึงบอกว่าถ้าทุกคนจะหวังพึ่งแต่ป.ป.ช.มันไม่ใช่ เพราะจริงๆ มันเป็นภาระของคนทั้งเทศ ต้องช่วยกันในเรื่องป้องกัน อยากให้ป้องกันมากกว่า เคสคุณครูเป็นปลายเหตุจริงๆ คุณครูมีรางวัลเยอะขนาดนี้ เสียดายเราไม่ได้ลงไปตั้งแต่แรก ถ้าแจ้งเบาะแสมาตั้งแต่ปี 61 เราลงไปปราม ผมเชื่อว่าผู้ต้องหาคนที่ 1 ที่ 2 เขาจะไม่กล้าทำ คนที่ 3 ที่ 4 ก็ระงับไปหมด ทุกวันนี้เวลาเราเห็นเขาสร้างถนน สร้างอาคาร จะเห็นว่าป.ป.ช.ลงไปตรวจก่อน เป็นการปราม ผมว่าเรื่องปราบปรามเป็นเรื่องปลายเหตุต้องเน้นเรื่องการป้องกันการทุจริตเป็นหลัก

คนลือกันว่าป.ป.ช.คนวิ่งเต้นกันได้?

ภูเทพ : มันพูดได้หมด แต่เขาดีไซน์กรรมการป.ป.ช. ต้องมีถึง 9 คน ไม่ใช่แค่คนเดียวแล้วจะสั่งฟ้องหรือไม่ฟ้อง มันปัดตกได้ ถ้าลักชิงวิ่งปล้น พนักงานคนเดียวสั่งได้เลยนะว่าฟ้องหรือไม่ฟ้อง แต่พอเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐ ต้อง 9 ท่าน ถามว่าคุณหนุ่มจะวิ่งกับกรรมการ 9 คนให้ได้เสียงเกินกึ่งนึงยังไง สองก่อนไปวิ่งกับกรรมการ ต้องมาวิ่งกับเจ้าหน้าที่ป.ป.ช.ระดับส่วนกลาง ระดับภาค ระดับจังหวัดอีก การทำงานป.ป.ช. เราทำงานตรวจสอบเรื่องนี้ขั้นต่ำต้องมี 3 คน ในการทำงานร่วมกัน สร้างความโปร่งใส ใครจะแอบอ้างวิ่งก็แอบอ้างได้ แต่ผมทำงานมาเข้าปีที่ 28 ถ้าเราเจอเจ้าหน้าที่ทุจริต ที่ผ่านมาเราก็ฟันเหมือนกัน เรารับโทษสองเท่า อย่างคุณครูรับโทษเท่าไหร่ ทางเราก็รับโทษสองเท่า ถ้าเจ้าหน้าที่สั่งไม่ผิด ก็เสี่ยงรับโทษสองเท่าเหมือนกัน มันมีกรอบอยู่ครับ

ยังอยากกลับไปเป็นครู?

ชัยยศ : เต็มหัวใจร้อยเปอร์เซ็นต์ เพราะเราเดินมาอีกนิดเดียวจะเกษียณแล้ว

เสียใจมาก?

ชัยยศ : ที่สุด เพราะผมบอกนักเรียนเสมอว่าชีวิตครูไม่เคยผิดหวังเพราะไม่ได้ตั้งหวัง แต่นี่ผมเสียใจ

มีโอกาสกลับไปเป็นครูได้อีกมั้ย?

ทนายแก้ว : กระบวนการป.ป.ช.สิ้นสุดแล้ว ส่งเรื่องให้พนักงานอัยการ คุณครูต้องไปขอความเป็นธรรมในชั้นพนักงานอัยการ สมมติพนักงานอัยการไม่รับเรื่อง ยืนคำสั่งเดิมสั่งฟ้องครู ครูก็ต้องไปสู้คดีกันในศาลอาญาทุจริต เพราะครูเป็นข้าราชการ ประเด็นอยู่ที่แบ่งหน้าที่กันทำแค่ไหนเพียงใด ครูมีส่วนปลายทางแค่ไหน ครูไปอธิบายศาลท่าน และแสดงเจตนาให้ชัดเจน ว่าเราไม่มีเจตนาทุจริต แต่เหมือนที่ท่านป.ป.ช.พูด มีหลายคนอ้างแบบครู ศาลเลยต้องมีการสอบสวนให้ละเอียด ว่ามีเจตนาจริงมั้ย

เชื่อว่ารางวัลที่ได้ก็สำคัญ?

ทนายแก้ว : ใช่ครับ เขาทำมาทั้งชีวิต อีกสองปีเกษียณก็ไม่คิดว่าคุณครูจะไปทุจริตหรอกครับ ไม่มีเหตุผลเลยที่จะไปแลก

ชัยยศ : ผมถามเล่นๆ ในศาลมีกินน้ำสาบานมั้ย (หัวเราะ)

ประวัติไม่มีด่างพร้อย?

ชัยยศ :   ตอนนี้แปดเปื้อน

ทนายแก้ว : แปดเปื้อนเพราะเพื่อนร่วมงาน

ภูเทพ : อยากเรียนครูว่าป.ป.ช.เป็นปลายเหตุ ก็เสียดายจริงๆ ที่ไม่สามารถลงไปทันเหตุการณ์ก่อนลุกลามมาแบบนี้ แต่เราพยายามลงไปให้เร็วที่สุดสำหรับครูรุ่นหลัง จะพยายามไม่ให้เกิดเหตุการณ์แบบนี้

ชัยยศ : ส่วนตัวผมไม่โกรธใคร จากหัวใจ แต่ถ้าจะให้นอยด์คือเรื่องตัวหนังสือที่มาฟัน มาฆ่าผม เพราะป.ป.ช.ก็ทำตามหน้าที่ ผมก็เข้าใจ