เมื่อเวลา 01.50 น. วันที่ 11 ธ.ค.66 ร.ต.ท.ทะเลรักษ์ ภูถุ รองสารวัตรสอบสวน สภ.เมืองสมุทรปราการ ได้รับแจ้งมีเหตุยิงตัวเองได้รับบาดเจ็บ ภายในบ้าน ต.ท้ายบ้านใหม่ อ.เมือง จ.สมุทรปราการ หลังรับแจ้งจึงประสานเจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวน พร้อมด้วย เจ้าหน้าที่กู้ชีพโรงพยาบาลสมุทรปราการ เจ้าหน้าที่มูลนิธิร่วมกุศลสมุทรปราการ และเจ้าหน้าที่กู้ชีพเทศบาลนครสมุทรปราการ เดินทางตรวจสอบที่เกิดเหตุ

        ที่เกิดเหตุเป็นอาคารพาณิชย์ สูง 4 ชั้น ที่ชั้นล่าง พบ ชาย อายุ 58 ปี นั่งอยู่บนโซฟา มีเลือดไหลออกมาจากบริเวณขมับขวา เจ้าหน้าที่ให้การช่วยเหลือปฐมพยาบาลเบื้องต้น ก่อนเร่งนำส่งโรงพยาบาลสมุทรปราการ แต่ทนพิษบาดแผลไม่ไหวเสียชีวิตในเวลาต่อมา ใกล้กันพบปืน ยี่ห้อ ซีแซด ขนาด 9 มม. ตกอยู่ที่พื้น เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงทำการเคลียปืนเพื่อไม่ให้มีกระสุนตกข้างในลำเพลิงก่อนจะเก็บไว้เป็นหลักฐาน ใกล้กันพบปลอกกระสุนขนาด 9 มม. ตกอยู่ที่พื้น ที่ชั้นวางของตรงทางเดินไปด้านหลังบ้านพบกล่องปืนภายในมี แม็กซีน จำนวน 1 แม็ก เจ้าหน้าที่จึงทำการเก็บไว้เป็นหลักฐาน

        จากการสอบถาม นางสาว ตุ๊กตา อายุ 34 ปี เพื่อนของคนเจ็บ เล่าว่า ผู้ก่อเหตุหลังจากกลับมาจากตลาดแห่งหนึ่ง แล้วกลับมานั่งสังสรรค์กันต่อที่บ้านกับเพื่อนและแฟน รวม 8 คน โดยผู้ก่อเหตุบอกกับเพื่อน ๆ ว่าให้อยู่เป็นเพื่อนกันก่อนอย่าเพิ่งทิ้งกัน โดยที่ผู้ก่อเหตุนั้นมีปัญหาครอบครัวอยู่ เรื่องของคนสองคน ซึ่งก่อนหน้านี้ผู้ก่อเหตุได้บอกว่าไม่ต้องเป็นห่วงเพราะไม่คิดที่จะฆ่าตัวตายอยู่แล้ว โดยที่ผู้ก่อเหตุยังบอกว่า อาวุธปืน นั้นไม่ได้อยู่ที่ตัวของผู้ก่อเหตุ โดยให้เพื่อนฝากขายอยู่ และ ตนเองก็ไม่ได้คิดว่าปืนอยู่กับผู้ก่อเหตุซึ่งเหตุการณ์มันไวมาก โดยผู้ก่อเหตุเดินลงมาเอาปืนมาจ่อที่ศีรษะของผู้ก่อเหตุเอง ก่อนที่จะบอก เฟียร์ แฟนสาวของเขาให้หลบไป ซึ่ง เฟียร์ ก็มักจะเห็นผู้ก่อเหตุทำอย่างนี้บ่อยครั้งก็ไม่คิดว่าผู้ก่อเหตุจะทำจริง ซึ่งก่อนที่ผู้ก่อเหตุจะลั่นไก ตนได้บอกให้แฟนของตนไปเอาปืนจากผู้ก่อเหตุมาก่อน เนื่องจากผู้ก่อเหตุได้ดื่มแอลกอฮอล์ไปด้วย และ ในสถานการณ์ตอนนั้นมันอันตรายซึ่งยังไม่ทันที่จะไปดึงปืนออกมาผู้ก่อเหตุก็ลั่นไกยิงตัวเอง ทำให้ทุกคนที่อยู่ตรงนั้นตกใจทำอะไรกันไม่ถูก โดยเหตุการณ์ดังกล่าวไวมากซึ่งตนเองก็ไม่คิดว่าเขาจะทำจริง โดยผู้ก่อเหตุนั้นมีอาการ เครียด อย่างเห็นได้ชัด มีปัญหาเรื่องคนสองคน ซึ่งพวกตนเองก็พยายามให้พวกเขาดีกันแต่มันก็สุดทางแล้ว โดยทั้งคู่นั้นคบกันมา 9 ปีแล้ว จดทะเบียนสมรสแล้ว ซึ่งมันเป็นเรื่องที่คนอื่นเข้าไปยุ่งไม่ได้ ซึ่งพวกตนเองประคับประคองกันแล้ว ซึ่งเหตุการณ์ดังกล่าวไม่มีใครอยากให้เกิด ผู้ก่อเหตุและแฟนสาว นั้น นัดวันกันไปหย่า เขาว่างแผนกันไว้หมดแล้ว

        เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ได้ตรวจสอบที่เกิดเหตุ ถ่ายภาพ และลงบันทึกไว้เป็นหลักฐาน ก่อนจะเชิญตัวผู้ที่เกี่ยวข้องทั้งหมดไปสอบสวนที่โรงพัก เพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป