วันที่ 11 ธันวาคม 2566 ผู้สื่อข่าวรายงาน ว่า พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม พร้อมด้วย พล.ต.ท.ภาณุรัตน์ หลักบุญ ผู้ช่วย ผบ.ตร. รักษาราชการแทน เลขาธิการ ป.ป.ส. ลงพื้นที่ติดตามการดำเนินงานการสกัดกั้นยาเสพติดและขับเคลื่อนการดำเนินงานป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติดในพื้นที่จังหวัดนครพนม 


 
ในเวลา 09.00 น. คณะฯ ได้ตรวจเยี่ยมการสกัดกั้นยาเสพติด เคมีภัณฑ์และสารตั้งต้น ณ ด่านพรมแดนสะพานมิตรภาพไทย-ลาว แห่งที่ 3 (นครพนม-คำม่วน) โดยมีนายวันชัย จันทร์พร ผวจ.นครพนม ดร.มนพร เจริญศรี รมช.กระทรวงคมนาคม พล.ต.ต.ธนชาติ รอดคลองตัน รอง ผบช.ภาค4 พล.ต.สถาพร บุญชู ผบ.มทบ.210 พล.ร.ต.นรินทร์ ขาวเจริญ ผบ.นรข. พล.ต.ต.ธวัชชัย ถุงเป้า ผบก.ภ.จว.นครพนม หัวหน้าส่วนราชการ ร่วมฟังติดตามการดำเนินงานสกัดกั้นยาเสพติดตามแนวชายแดนภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน
 


จากนั้นใน เวลา 10.00 น. ติดตามการดำเนินงานสกัดกั้นยาเสพติดตามแนวชายแดนภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน  ณ กองบัญชาการหน่วยเรือรักษาความสงบเรียบร้อยตามลำแม่น้ำโขง อ.เมืองนครพนม จ.นครพนม โดยมี พลโท อดุลย์ บุญธรรมเจริญ แม่ทัพภาคที่ 2  นายวันชัย จันทร์พร ผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนม ผู้แทนจากกองกำลังสุรศักดิ์มนตรี ตำรวจภูธรภาค 4 ศูนย์อำนวยการป้องกันและปราบปรามยาเสพติดจังหวัดนครพนม และกองบัญชาการหน่วยเรือรักษาความสงบเรียบร้อยตามลำแม่น้ำโขงและคณะให้การต้อนรับ นำเสนอข้อมูลสถานการณ์ยาเสพติด ผลการดำเนินงานสกัดกั้นยาเสพติด และปัญหาอุปสรรค 


 
ทั้งนี้ พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม กล่าวว่า จากสถานการณ์การลักลอบนำเข้ายาเสพติดในพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบนที่มีความรุนแรงขึ้นในห้วงที่ผ่านมา  โดยเฉพาะในจังหวัดนครพนม มีคดีการนำเข้ายาเสพติดสูงกว่าจังหวัดชายแดนอื่นๆในภาคอีสาน โดยมีคดีนำเข้า จำนวน 38 คดี ของกลางยาบ้า ประมาณ 37 ล้านเม็ด ไอซ์ ประมาณ 1,200 กก. เคตามีน ประมาณ 300 กก.  


 
ขณะที่รัฐบาลภายใต้การนำของ นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ต้องการลความเดือดร้อนจากปัญหายาเสพติดให้เห็นผลเป็นรูปธรรมภายใน 1 ปี จึงกำหนดปฏิบัติการ Quick Win ประกาศพื้นที่พิเศษที่มีความจำเป็นเร่งด่วน  ตามประมวลกฎหมายยาเสพติด มาตรา 5(10) กำหนดให้จังหวัดนครพนม ในพื้นที่ 4 อำเภอชายแดน ได้แก่ อ.ท่าอุเทน อ.เมืองนครพนม อ.ธาตุพนม และ อ.บ้านแพง เป็นพื้นที่พิเศษที่มีความเป็นเร่งด่วนในการแก้ไขปัญหายาเสพติด โดยมีการจัดตั้งหน่วยบัญชาการสกัดกั้นและปราบปรามยาเสพติด เคมีภัณฑ์และสารตั้งต้นชายแดนภาคตะวันออกเฉียงเหนือ (นบ.ยส.24) เพื่อบูรณาการขับเคลื่อนการดำเนินงาน โดยเพื่อให้เกิดการดำเนินการสกัดกั้นและปราบปรามยาเสพติด เคมีภัณฑ์และสารตั้งต้นได้อย่างมีประสิทธิภาพ 


 
ต่อมา รมว.ยุติธรรมและคณะได้ร่วมลงเรือลาดตระเวนตรวจภูมิประเทศตามลำแม่น้ำโขง เส้นทาง อ.เมืองนครพนม ถึงบ้านเงินพระบาท สะพานมิตรภาพ แห่งที่ 3 และตรวจเยี่ยมการดำเนินงาน “บ้านพักใจ” ณ ที่ว่าการอำเภอเมืองนครพนม จ.นครพนม โดยมีนายวันชัย จันทร์พร ผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนมให้การต้อนรับ และนายวรวิทย์ พิมพนิตย์ นายอำเภอเมืองนครพนม นำเสนอข้อมูลการดำเนินงาน “บ้านพักใจ” ซึ่งเป็นสถานที่ดูแลผู้ป่วยจิตเวชจากการใช้ยาเสพติด ในรูปแบบค่ายปรับเปลี่ยนพฤติกรรมผู้เสพ/ผู้ติดยาเสพติด เพื่อดูแลอาการ พักคอยเตียงรองรับจากสถานพยาบาล ปัจจุบันมีผู้ป่วยฯที่อยู่ในความดูแล จำนวน 21 คน ที่ผ่านมา “บ้านพักใจ” ได้รับผู้เสพผู้ติดยาเสพติดเข้ามาดูแลมากกว่า 50 ราย มีการส่งเสริมสมรรถนะให้มีความพร้อมด้านอาชีพ และสามารถประกอบอาชีพเป็นหลักแหล่งได้ จำนวน 15 ราย นอกจากนี้มีการส่งเสริมกิจกรรมทางสังคม และกระบวนการออกติดตามดูแลผู้ผ่านการบำบัด เพื่อไม่ให้ยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติดอีก

 


 
ในเวลา 16.00 น. ตรวจเยี่ยมการดำเนินงานหมู่บ้านชุมชนยั่งยืน ณ บ้านเหล่าภูมิ  ต.หนองญาติ อ.เมืองนครพนม จ.นครพนม ซึ่งตำรวจภูธรจังหวัดนครพนม ดำเนินงานโดยใช้รูปแบบ “หัวโทนโมเดล” ในการแก้ไขปัญหายาเสพติดในหมู่บ้านชุมชน 
 
ด้าน พล.ต.ท.ภาณุรัตน์ หลักบุญ กล่าวว่า รัฐบาลต้องการลดความรุนแรงของปัญหายาเสพติดและมีเป้าหมายในการลด 4 ข้อ คือ ลดความรุนแรงจากภาวะทางจิตเวชในสังคม  ลดผู้เสพ/ผู้ติด ลดการค้ายาเสพติดที่แพร่ระบาดในหมู่บ้าน/ชุมชน  ลดปัจจัยเสี่ยงที่ส่งผลต่อการแพร่ระบาดยาเสพติด ซึ่งปัจจัยให้ประสบผลสำเร็จนอกจากการผลักดันของหน่วยงานรัฐที่ต้องเป็นแกนหลักในการแก้ปัญหา คือการที่เราต้องสร้างความเชื่อมั่นให้เกิดขึ้นในประชาชน เพื่อเสริมสร้างบทบาทหมู่บ้าน/ชุมชน ให้เกิดการมีส่วนร่วมป้องกันและแก้ไข