วันที่11 ธ.ค.66 ที่สนามบินสุวรรณ พล.ต.อ.วิสนุ ปราสาททองโอสถ ประธานกรรมการบริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด( มหาชน ) ลงพื้นที่สนามบินสุวรรณภูมิ เพื่อตรวจความพร้อมการอำนวยความสะดวกผู้โดยสารที่เดินทางระหว่างประเทศ ในช่วงเที่ยวบินเข้าออกหนาแน่น การตรวจครั้งนี้ ได้ดูสถานการณ์ความหนาแน่น ทั้งการจราจร จุดเช็คอินสายการบิน จุดตรวจค้น และ ตรวจคนเข้าเมืองขาออก และขาเข้า พบว่า มีสภาพผู้โดยสารใช้บริการจำนวนมาก 
พล.ต.อ.วิสนุ กล่าวว่า สนามบินสุวรรณภูมิ เป็นเสมือนประตูบ้านหลักของประเทศ มีคนเข้าอกประเทศวันละกว่า 1.5 แสนคน ดังนั้น การเตรียมสภาพความพร้อมของระบบโครงสร้างการบริการพื้นฐาน เป็นเรื่องสำคัญ ซึ่งปัจจุบัน AOT  ได้ตั้งเป้าหมายให้สามารถรองรับผู้โดยสารไว้ปีละประมาณ 80 ล้านคน จำเป็นต้องศึกษาสภาพปัญหาความหนาแน่นที่เกิดขึ้น เพื่อวางแนวทางแก้ไข ทั้งระยะเร่งด่วน ระยะกลาง และระยะยาว ซึ่งได้ร่วมตรวจพื้นที่ กับ ผบก.ตม.2 และ ผู้บริหาร ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ และได้รับฟังปัญหา และแนะนำแนวทางแก้ไขเบื้องต้นไปแล้วส่วนหนึ่ง
เบื้องต้นขณะนี้ ทาง AOT จะมีการปรับปรุงระบบงานผู้โดยสารขาออกระหว่างประเทศ โดยปรับพื้นที่จุดคัดกรอง ให้ขยายพื้นที่มากขึ้น และเคลื่อนย้าย ช่องตรวจหนังสือเดินทาง โดยจัดซื้อเครื่องตรวจหนังสือเดินทางอัตโนมัติ หรือ Automatic channel ให้กับ ตม.ใหม่ เพื่อทดแทนเครื่องเดิมที่ใช้งานมากว่า 10 ปี โดยจะเพิ่มจำนวนให้มากขึ้น จากเดิมมีเพียง 16 ช่องตรวจ เพิ่มเป็น 80 ช่อง ​​​​​​​ ซึ่งทาง สตม.ได้ปรับปรุงระบบให้สามารถตรวจผู้โดยสารที่ถือหนังสือเดินทางสัญชาติที่เป็นระบบอิเล็กทรอนิคส์ หรือ E-passport จำนวนกว่า 70 สัญชาติ ได้ ซึ่งจะช่วยระบายความคับคั่งหนาแน่นของผู้โดยสารขาออกได้อย่างคล่องตัวยิ่งขึ้น โดยคาดการณ์ว่า จะเริ่มติดตั้งใช้งานราวเดือน ก.ค.2567 เพื่อรองรับนโยบายส่งเสริมการท่องเที่ยว ของนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และ สนองนโยบายการยกระดับสนามบินให้ทัดเทียมมาตรฐานสนามบินสากลที่เป็นที่ยอมรับต่อไป