วันที่ 14 ธ.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อช่วงกลางดึกที่ผ่านมา พ.ต.อ.ศานติ กรเกษม ผกก.ดส.บช.น.พร้อมด้วย พ.ต.ท.ปียรัช เวสสะโกศล รอง ผกก.ดส.บช.น.สั่งการให้ พ.ต.ท.จักรี นารีผล สว.กก.ดส. นำกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ ชุดปฏิบัติการที่ 1 เข้าจับกุมตัว นายฮวด โซเฮ็ง อายุ 48 ปี และ นางสาวซอม วี อายุ 44 ปี สามีภรรยาชาวกัมพูชา พร้อมด้วยของกลางธนบัตรรัฐบาลไทยฉบับละ 20 บาท จำนวน 4 ฉบับ กล่องพลาสติกสีแดง ที่ใช้ใส่ธนบัตรของกลาง 2 กล่อง และสำเนาประจำวัน กก.ดส.บช.น. ข้อที่ 5 ลงวันที่ 13 ธ.ค. 2566 เวลา 18.00 น. ซึ่งเป็นหลักฐานการถ่ายเอกสารธนบัตร ทั้ง 4 ใบ เอาไว้จำนวน 1 ฉบับ โดยจับกุมตัวผู้ต้องหาทั้ง 2 ราย ได้ที่บ้านพัก เลขที่ 32 ซอยเจริญพัฒนา 17 แขวงบางขัน เขตมีนบุรี กทม.
การจับกุมครั้งนี้สืบเนื่องจาก เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุม ตรวจพบพฤติกรรมผู้ต้องหาทั้ง 2 รายที่มักนำ ด.ช.เอ (นามสมมุติ) อายุ 13 ปี ซึ่งเป็นบุตรชาย และ ด.ญ.บี (นามสมมุติ) อายุ 8 ปี หลานสาว ไปเร่ร่อนตระเวนขอทานภายในตลาดสุวินทวงศ์ ในช่วงเวลา 18:00 น. ถึง 21.00 น.ของทุกวัน ตำรวจจึงนำกำลังไปเฝ้าสังเกตพฤติกรรม นาน 2 สัปดาห์ เมื่อช่วงหัวค่ำวานนี้ (13 ธ.ค.) ผู้ต้องหา 2 สามีภรรยา ได้พาเด็กๆ ทั้ง 2 คน ขึ้นรถ จยย.ยี่ห้อฮอนด้า รุ่นคลิ๊ก สีน้ำเงิน ติดแผ่นป้ายทะเบียน ฬคต 320 กรุงเทพมหานคร มาจอดบริเวณลานจอดรถหลังตลาด แล้วปล่อยให้เด็กทั้งสองคน ไปนั่งขอทานบริเวณหน้าตลาด จากนั้นตำรวจจึงนำธนบัตรรัฐบาลไทยฉบับละ 20 บาท จำนวน 4 ฉบับ ซึ่งได้ถ่ายสำเนาเอาไว้แล้ว ไปใส่กล่องรับเงินสีแดง เพื่อรอให้เด็กๆ เดินกลับไปหาผู้ต้องหาสามีภรรยาที่รถ ก่อนขับขี่ รถ จยย.ติดตามสะกดรอยไปถึงที่พัก และเข้าจับกุมตัวได้ดังกล่าว
จากการสอบสวน ผู้ต้องหาทั้งคู่ ยอมรับ นำบุตรชายของตนเองและหลานสาวมานั่งขอทาน ได้ระยะหนึ่งแล้ว เพราะคนไทยและชาวบ้านมักให้ความสงสารเด็ก พอเดินผ่านไปผ่านมาก็ให้เงินใส่กล่องมาใช้จ่าย ทำรายได้วันละ 300 บาทต่อคน จากนั้นจึงนำเงินมาซื้อข้าวและจ่ายค่าเช่าบ้าน ประทังชีวิตไปวันๆ
เบื้องต้นชุดจับกุมจึงแจ้งข้อหาคู่สามีภรรยาชาวกัมพูชา ว่ากระทำผิดฐาน “ค้ามนุษย์ โดยการแสวงหาผลประโยชน์โดยมิชอบ (จากเด็กอายุต่ำกว่า 15 ปี และเด็กอายุกว่า 15 ปี แต่ไม่เกิน 18 ปี ) ตาม พรบ.ค้ามนุษย์ฯ มาตรา 6 (5)(6) และ พรบ.คุ้มครองเด็กฯ ม.26 โดยฝ่ายสามีถูกแจ้งข้อหาเพิ่มเติมฐานเป็นบุคคลต่างด้าวเข้ามาและอยู่ในราชอาณาจักรโดยไม่ได้รับอนุญาต ตาม พรบ.คนเข้าเมือง พ.ศ.2522 นำส่งพนักงานสอบสวน สน.มีนบุรี ดำเนินการตามกฎหมาย ส่วนเด็กๆ ซึ่งถือเป็นเหยื่อทั้ง 2 รายได้แจ้งเจ้าหน้าที่นักสังคมสงเคราะห์ สังกัดกระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ เข้ามารับตัวไปดูแล