รายงานพิเศษ/ By Ukraine Support Tracker

ในเร็วๆนี้ พลวัตในการช่วยเหลือประเทศยูเครนดำเนินการอย่างช้า ๆ  ระหว่างเดือนสิงหาคม 2022 ถึงเดือนธันวาคม 2023 การช่วยเหลือครั้งใหม่มาถึงระดับต่ำ กล่าวคือ การช่วยเหลือลดลงเกือบ 90 เปอร์เซ็นต์เมื่อเปรียบเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันในปี 2022 ขณะนี้ยูเครนพึ่งพาผู้บริจาคหลักอย่าง ประเทศสหรัฐอเมริกา สหพันธ์สาธารณรัฐเยอรมนีและกลุ่มประเทศนอร์ดิก (ประกอบด้วย 5 ประเทศ คือ เดนมาร์ก ฟินแลนด์ ไอซ์แลนด์ นอร์เวย์ และสวีเดน) และประเทศในยุโรปตะวันออกซึ่งยังคงให้คำมั่นและส่งความช่วยเหลือทั้งการเงินและยุทโธปกรณ์สำคัญ ๆ เช่นเครื่องบินรบขับไล่รุ่น F16 เพราะฉะนั้นความช่วยเหลือในอนาคตจึงยังไม่ชัดเจน เนื่องจากการให้คำมั่นในการช่วยเหลือครั้งใหญ่ที่สุดที่ยังรอดำเนินการจากสมาชิกสหภาพยุโรป ล่าสุดยังไม่ได้รับการอนุมัติ อีกทั้งความช่วยเหลือจากสหรัฐอเมริกามีแนวโน้มลดลง ภาวะดังกล่าวนี้เป็นผลมาจากผู้ติดตามการสนับสนุนยูเครนล่าสุดที่เป็นปัจจุบันซึ่งจะผูกพันจนถึงวันที่ 31 เดือนธันวาคม 2023

ช่วงเวลาระหว่างเดือนสิงหาคมถึงตุลาคม 2023 ปริมาณให้ความช่วยเหลือที่ให้คำมั่นครั้งใหม่ลดลงอย่างสิ้นเชิงโดยมีมูลค่ารวมของบรรจุภัณฑ์ครั้งใหม่มีเพียง 2.11 พันล้านยูโร นับว่าความช่วยเหลือลดลงถึง 87 เปอร์เซ็นต์เมื่อเปรียบเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันในปี 2022 จากการติดตามผู้บริจาค 42 ประเทศ มีเพียง 20 ประเทศ ให้คำมั่นว่าจะส่งแพ็กเกจความช่วยเหลือครั้งใหม่ในช่วง 3 เดือนสุดท้ายซึ่งเป็นการให้ความช่วยเหลือที่น้อยที่สุดของผู้บริจาคที่ให้ความช่วยเหลือต่อเนื่อง (active donors) กำลังสนับสนุนอยู่นับตั้งแต่เริ่มสงคราม รวมถึงการให้คำมั่นครั้งใหม่น้อยมากจากสหภาพยุโรปและสหรัฐอเมริกา

คริสตอฟ เทรเบสช์ (Christoph Trebesch) ซึ่งเป็นหัวหน้าทีมที่ก่อตั้ง ผู้ติดตามการสนับสนุนยูเครน (UST) และเป็นผู้อำนวยการศูนย์วิจัยสถาบัน Kiel (สถาบันวิจัยทางเศรษฐกิจโลกที่ตั้งอยู่ในเยอรมนี) กล่าวว่า “ในช่วง 2-3 เดือนมานี้ ตัวเลขของเรายืนยันทัศนคติของผู้บริจาคที่แสดงให้เห็นความลังเลมากขึ้นอย่างชัดเจน ยูเครนกำลังพึ่งพาผู้บริจาคหลัก 2-3 กลุ่มที่ยังคงให้การสนับสนุนอย่างแข็งขัน อย่างเช่น สหพันธ์สาธารณรัฐเยอรมนี สหรัฐอเมริกา และกลุ่มประเทศนอร์ดิก ด้วยความไม่แน่นอนที่จะได้รับความช่วยเหลือจากสหรัฐอเมริกาในอนาคต ยูเครนคาดหวังเพียงให้สมาชิกในกลุ่มประเทศอียูผ่านแพ็กเกจความช่วยเหลือจำนวน 50 พันล้านยูโร ตามที่ได้ประกาศไว้อย่างยาวนาน ความล่าช้าที่เนิ่นนานต่อไปเท่ากับเป็นการเสริมสถานะความแข็งแกร่งของประธานาธิบดีปูตินแห่งสหพันธรัฐรัสเซีย

แพ็กเกจความช่วยเหลือจากสหรัฐอเมริกาครั้งใหม่ที่เสนอมานั้นก็ถูกเลื่อนออกไปจนถึงปีหน้าและการอนุมัติของสมาชิกอียูเกี่ยวกับทรัพยากรกายภาพต่าง ๆ ของยูเครนสะดุดลง ผู้บริจาคหลักที่ยังคงสนับสนุนอย่างต่อเนื่อง ได้แก่  ประเทศโครเอเชีย ฟินแลนด์ เยอรมนี ไอร์แลนด์ ลิทัวเนีย ลักเซมเบิร์ก เนเธอร์แลนด์ นอร์เวย์ สวีเดน และสวิตเซอร์แลนด์  และประเทศในกลุ่มนาโต เช่น แคนาดา และสหราชอาณาจักร นอกจากนี้ ยูเครนยังสามารถพึ่งพาโปรแกรมขนาดใหญ่อย่างต่อเนื่องหลายปี ที่ได้ให้คำมั่นไว้ก่อนหน้านี้ ซึ่งเป็นความช่วยเหลือส่วนใหญ่ในขณะนี้ เช่น เดนมาร์ก เยอรมนีและนอร์เวย์ ได้ให้การสนับสนุน 1.2  พันล้านยูโร  หนึ่งพันล้านยูโรและความช่วยเหลือทางการทหาร 662 ล้านยูโรตามลำดับ ในช่วง 3 เดือนที่ผ่านมา

ประเด็นการช่วยเหลือด้านการทหาร กลุ่มประเทศสหภาพยุโรปได้ให้การช่วยเหลือมาตามติดและล้ำหน้าสหรัฐอเมริกา โดยเฉพาะเยอรมนีและกลุ่มประเทศนอร์ดิก (เดนมาร์ก นอร์เวย์ สวีเดนและฟินแลนด์) ได้จัดสรรช่วยเหลืออย่างสำคัญครั้งใหม่ในช่วงเดือนที่ผ่านมา

คำมั่นในการช่วยเหลือด้านอาวุธหนักจำนวนรวม 25 พันล้านยูโร (ม.ค.2022 ถึง ต.ค.2023) สหรัฐอเมริกาให้ความช่วยเหลือคิดเป็น 43 เปอร์เซ็นต์ของมูลค่าทั้งหมด ขณะที่กลุ่มประเทศสหภาพยุโรปและสถาบันรวมกันคิดเป็น 47 เปอร์เซ็นต์ ความช่วยเหลืออื่น ๆ มาจากผู้บริจาคที่หลากหลายโดยเฉพาะสหราชอาณาจักรและแคนาดา ช่วงสามเดือนที่ผ่านมา (สิงหาคม กันยายน ตุลาคม) กลุ่มประเทศสหภาพยุโรปให้คำมั่นว่าจะช่วยเหลืออาวุธหนักเป็นมูลค่า 780 ล้านยูโร เมื่อเปรียบเทียบกับสหรัฐอเมริกาที่สนับสนุน 500 ล้านยูโร  แนวโน้มลักษณะนี้เป็นการช่วยเหลือครั้งใหม่จากเยอรมนีและกลุ่มประเทศนอร์ดิกตั้งแต่สิงหาคม 2023 โดยเฉพาะผ่านระบบป้องกันทางอากาศ Patriot และ IRIS-T รุ่นใหม่จากเยอรมนี และ เครื่องบินขับไล่ F-16 จำนวน 19 ลำจากเดนมาร์กซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของพันธมิตรการบินร่วมระหว่างเนเธอร์แลนด์กับสหราชอาณาจักร ตัวอย่างอื่น ๆ ของการร่วมมือช่วยเหลือด้านการทหารยังมีข้อตกลงการจัดซื้อร่วมครั้งใหม่ระหว่างเนเธอร์แลนด์ เดนมาร์กและสาธารณรัฐเช็ก ในการจัดหารถถังรบหลัก T-72EA ที่ทันสมัยจำนวน 15 คันให้แก่ยูเครน พร้อมกับชุดของแผนการจัดซื้อร่วมกันของกลุ่มประเทศนอร์ดิกสำหรับกระสุนขนาด 15 มิลลิเมตร

เทรเบสช์ (Trebesch) กล่าวว่า “พวกเราสังเกตเห็นการเปลี่ยนแปลงไปสู่ความช่วยเหลือทางการทหาร โดยเฉพาะในรูปแบบการช่วยเหลือทวิภาคี (bilateral aid) ในกลุ่มประเทศผู้บริจาคชั้นนำ 10 ประเทศ ความช่วยเหลือทางการทหารคิดเป็น 58 เปอร์เซนต์ของความช่วยเหลือทั้งหมด (ณ วันที่ 31 ตุลาคม 2023) ยังคงเป็นประเทศหรัฐอเมริกาผู้บริจาคทางการทหารมากที่สุด โดยให้คำมั่นสนับสนุนเป็นมูลค่า 44 พันล้านยูโร แต่เยอรมนีตามมาติด ๆ ขณะนี้ให้คำมั่นสนับสนุนทางทหารทั้งสิ้นเป็นมูลค่ามากกว่า 17 พันล้านยูโร ประเทศเล็ก ๆ อย่างประเทศในกลุ่มนอร์ดิก และเนเธอร์แลนด์ได้เพิ่มบทบาทในการช่วยเหลือทางทหาร