เมื่อวันที่ 15 ธ.ค.พล.ต.ท.กิติศักดิ์ ดุรงควิบูลย์ ผบช.ภ.6 พล.ต.ต.บัณฑิต ตุงคะเศรณี รอง ผบช.ภ.6  พล.ต.ต.นิคม เครือนพรัตน์ ผบก.ภ.จว.พิษณุโลก สั่งการให้พ.ต.อ.ธัชพงศ์ วงศ์พัฒนานิวาศ ผกก.สภ.เมืองพิษณุโลก, พ.ต.อ.ไขยวิญญ์ อินทรทรัพย์ ผกก.สืบสวน ภ.จว.พิษณุโลก, พ.ต.ท.อัศนันท์ ธนเลิศฎวเวทย์ รอง ผกก.สืบสวน 2 บก.สส.ภ.6 ,พ.ต.ท.วรการ กาศเกษม รอง ผกก.สืบสวน สภ.เมืองพิษณุโลก และ พ.ต.ท.สิทธิศักดิ์ สุดหอม สว.สส.ส.ภ.เมืองพิษณุโลก  นำกำลังจับกุมนางสาวรุ่งทิพย์ หรือ แก้ว หยวกอ่อง อายุ 28 ปี อยู่บ้านเลขที่238 ม.3 ต.บ้านกร่าง อ.เมือง จ.พิษณุโลก พร้อมของกลาง รถจักรยานยนต์ ฮอนด้า เวฟ สีดำ-ส้ม คันทะเบียน 1กด - 6503 พิษณุโลก ,ชุดที่สวมใส่ในวันก่อเหตุ ,ใบเสร็จธนาคารที่ผู้ต้องหานำเงินไปจ่ายค่ารถ จำนวน 28,000 บาท ในความผิดฐาน "วิ่งราวทรัพย์โดยใช้ยานพาหนะ เพื่อสะดวกแก่การกระทำความผิด เพื่อการพาทรัพย์นั้นไป หรือเผื่อให้พ้นจากการจับกุม" 

พล.ต.ต.บัณฑิต  กล่าวว่า สืบเนื่องจากช่วงบ่ายวานนี้(14ธ.ค.)ตำรวจ สภ.เมืองพิษณุโลก จ.พิษณุโลก รับแจ้งเหตุคนร้ายวิ่งราวทรัพย์ สร้อยคอทองคำหนัก 2 บาท ภายในห้างทองพัณณิตา โดยคนร้ายทำทีขอผู้เสียหายดูสร้อยคอทองคำ ก่อนฉวยโอกาสจังหวะที่พนักงานในร้านเผลอ หยิบสร้อยคอแล้ววิ่งหลบหนีและขี่รถจักรยานยนต์หลบหนีไป  หลังเกิดเหตุพล.ต.ท.กิติศักดิ์ ดุรงควิบูลย์ผบช.ภ.6  สั่งการให้ชุดสืบสวนตรวจสอบกล้องวงจรปิดตามเส้นทางที่คนร้ายหลบหนี กระทั่งพบว่าคนร้ายพักอาศัยอยู่ที่บ้านเลขที่ 283 ม.3ต.บ้างกร่าง อ.เมือง จ.พิษณุโลก จึงนำกำลังไปจับกุม

สอบสวนให้การรับสารภาพว่า มีความจำเป็นใช้เงินเร่งด่วน เนื่องจากมีภาระหนี้สินเรื่องผ่อนชำระค่างวดรถยนต์ที่ติดค้างไว้ ซึ่งหลังก่อเหตุได้นำสร้อยคอทองคำไปขายที่ห้างทองเยาวราช ต.บ้านกร่าง อ.เมือง จ.พิษณุโลก ในราคา 63,000 บาท จึงได้จับกุมตัวผู้ต้องหา พร้อมของกลาง ส่งพนักงานสอบสวน สภ.เมืองพิษณุโลก

ทั้งนี้ จึงขอประชาสัมพันธ์กำชับให้ธนาคาร ร้านทอง ร้านสะดวกซื้อ และสถานประกอบการอื่น ๆที่ล่อแหลมต่อการเกิดเหตุ ติดตั้งอุปกรณ์ป้องกันเหตุร้ายและสัญญาณเตือนภัย เช่น กล้องโทรทัศน์วงจรปิด ทั้งภายในและนอกสถานที่ประกอบการ มีการทดสอบเป็นประจำทุกวันว่า กล้องดังกล่าวสามารถบันทึกภาพได้อย่างชัดเจน สังเกตพฤติกรรมบุคคลที่เข้ามาซื้อสินค้า หรือใช้บริการ หรือคนแปลกหน้า ที่มาเดินวนเวียนไปมาหน้าร้านค้า - ร้านทองหลายครั้ง

ส่วนประชาชนทั่วไป ให้ระมัดระวังป้องกันตนเอง โดยไม่สวมใส่เครื่องประดับราคาแพงไปในที่สาธารณะต่างๆ เพื่อมิให้เป็นที่ล่อสายตาคนร้าย และป้องกันการก่อเหตุชิงทรัพย์ วิ่งราวทรัพย์