แม่บ้านหอพัก แจงหนุ่มทุบห้องนิสิต ป.เอก เป็นเพียงผู้เช่าอาศัย ยัน สั่งย้ายออกทันที เหตุเป็นบุคคลอันตราย ด้านพ่อหดหู่ เชื่อลูกกลัวจนสติหลุด

เมื่อเวลา 13.00น.วันที่ 17 ธ.ค.ทีมงานเพจสายไหมต้องรอด พานายสมชาย สีชำนาญ อายุ 60 ปี พ่อผู้ตาย เดินทางมาที่แมนชั่นซอยลาดปลาเค้า 3 ซึ่งเป็นที่เกิดเหตุกรณีนิสิตสาวปริญญาเอก มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ถูกสามีผู้จัดการแมนชั่นทุบประตูโวยวายกลางดึกเนื่องจากมึนเมา จนทำให้นิสิตสาวตกใจกลัว ปีนระเบียงห้องหนี ก่อนพลัดตกตึก 6 ชั้น เสียชีวิต เพื่อติดต่อสอบถามเรื่องราวที่เกิดขึ้นกับผู้จัดการตึก แต่กลับไม่พบผู้ใด ทั้งนี้ทางแมนชั่นยังคงเก็บรวบรวมเศษกระเบื้องหลังคาที่ร่วงแตกจากคืนวันเกิดเหตุ ใส่ถังสีพลาสติกไปที่หน้าทางเข้า

นายสมชาย กล่าวว่า นานๆ ทีตนเองจะติดต่อกันกับลูกสาว แต่เจ้าตัวไม่เคยเล่าว่าที่แมนชั่นนี้มีปัญหาอะไร ยอมรับว่าพอมาถึงแล้วกลับไม่พบผู้ใดก็รู้สึกหดหู่และเสียใจ โดยตนเพิ่งมาที่หอพักนี้เป็นครั้งแรก ส่วนตัวเชื่อว่าลูกคงกลัวมากจนสติหลุด เพราะลูกเป็นคนขี้กลัวอยู่แล้ว และตั้งแต่เกิดเรื่องก็ยังไม่มีใครติดต่อมา หากได้คุยกับคนก่อเหตุก็อยากรู้ว่าเจตนาแรกที่ตั้งใจขึ้นมาถึงห้องนั้นคืออะไร คิดว่าเรื่องจอดรถทับที่ตัวเองและไปเคาะผิดห้องคงเป็นข้ออ้าง อีกทั้งไม่มั่นใจว่าทำไมระเบียงห้องจึงไม่ติดลูกกรงเพื่อความปลอดภัย

นางสา แม่บ้านประจำตึก กล่าวว่า ผู้ก่อเหตุเป็นผู้เช่า ไม่ใช่สามีผู้จัดการอาคารตามที่เป็นข่าว ตอนนี้เจ้าตัวรู้สึกสำนึกผิดกับเหตุที่เกิดขึ้น ถึงกับร้องไห้และไปจุดธูปขอขมาในเช้าวันถัดมา หลังเกิดเรื่องเจ้าของอาคารสั่งย้ายออกทันที ไม่ใช่เป็นการช่วยเหลือให้หลบหนี แต่เพราะถือเป็นบุคคลอันตราย 

อย่างไรก็ตาม ปกติเขาไม่ใช่คนอารมณ์รุนแรง แต่คงจะมึนเมามาก จนเกิดเรื่องขึ้น โดยตอนที่เขาโทรศัพท์หาตน ก็ไม่คิดว่าจะมาก่อเหตุแบบนี้ ตนก็เพียงบอกรูปพรรณสันฐานของรถไปเท่านั้น ไม่ได้บอกเลขทะเบียนไป ทั้งนี้ ฝ่ายอาคารก็รู้สึกเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น จะช่วยเหลือเยียวยาด้านค่าทำศพให้ ส่วนหลักฐานภาพจากกล้องวงจรปิด ยืนยันว่ามีครบถ้วนและได้มอบให้ตำรวจไปหมดแล้ว

รายงานแจ้งว่า พนักงานสอบสวน สน.โชคชัย ได้สอบปากคำชายที่อาละวาดแล้ว ทราบเรื่องว่าคืนวันเกิดเหตุ ชายผู้ก่อเหตุกลับมาจากทำงานแล้วจะจอดรถจักรยานยนต์ในที่ของตัวเองหน้าแมนชั่น แต่มีผู้อื่นมาจอดรถทับที่ตัวเองไว้ คนก่อเหตุเลยสอบถามกับแม่บ้านประจำตึกแต่แม่บ้านบอกห้องผิด ทำให้ชายคนนี้ขึ้นไปอาละวาด เบื้องต้นแจ้งข้อหาบุกรุกยามวิกาล และส่งเสียงดังทำให้ผู้อื่นตกใจกลัว
/