วันที่ 18 ธ.ค.ที่อาคารสัมมนาและฝึกอบรม สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (เมืองทองธานี)
กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม พล.ต.ต.ชัชปัณฑกาณฑ์ คล้ายคลึง ผบก.สอท.1เปิดเผยว่าตามนโยบายรัฐบาลโดย นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ได้มีข้อสั่งการให้กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (DE) เร่งดำเนินการปราบปรามอาชญากรรมออนไลน์

พร้อมทั้งบูรณาการการทำงานร่วมกันระหว่างหน่วยงาน และยังเน้นย้ำถึงการทำงานและความร่วมมือที่ใกล้ชิดในการร่วมกันปราบปรามอาชญากรรมทางออนไลน์ที่สร้างความเดือดร้อนแก่พี่น้องประชาชน

 

นายประเสริฐ จันทรรวงทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม จึงได้บูรณาการการทำงานร่วมกับสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) โดย พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผบ.ตร. ได้สั่งการให้พล.ต.ท.วรวัฒน์ วัฒนครบัญชา ผบช.สอท. ส่งตำรวจไซเบอร์เร่งกวาดล้างจับกุมผู้กระทำผิด เพื่อแก้ไขปัญหาเกี่ยวกับกรณีมิจฉาชีพตีเนียนส่งพัสดุเพื่อหลอกเก็บเงินปลายทาง รวมถึงการจัดตั้งศูนย์ต่อต้านอาชญากรรมออนไลน์ AOC 1441 ตั้งแต่ 1 พ.ย.66 ที่ผ่านมา โดยได้มีการบูรณาการร่วมกันระหว่างธนาคาร กสทช. ตำรวจ โอเปอเรเตอร์ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ทำให้สามารถดำเนินการเชิงรุกกับกลุ่มผู้กระทำความผิดได้เป็นจำนวน
มาก 
 
ต่อมาเมื่อวันจันทร์ที่ 18ธ.ค.66  พล.ต.ต.สถิตย์ พรมอุทัย ผบก.สอท.3 นายประเสริฐ จันทรรวงทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม นายสุทธิเกียรติ วีระกิจพานิช ที่ปรึกษาฯ และ นายวัลลภ รุจิรากร เลขานุการฯ ร่วมกับ กองบัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี นำโดย พล.ต.ท.วรวัฒน์ วัฒน์นครบัญชา
ผบช.สอท., พล.ต.ต.อรรถสิทธิ์ สุดสงวน รอง ผบช.สอท., พล.ต.ต.วิวัฒน์ คำชำนาญ รอง ผบช.สอท.พล.ต.ต.สถิตย์ พรมอุทัย ผบก.สอท.3 แถลงข่าว “OPERATION:
UNBOX SCAM EP.2 ขยายผลแกะกล่องพัสดุลวง บุกค้นโกดังส่งพัสดุไม่ตรงปก หลอกเก็บเงินปลายทาง”บุกตรวจ
ค้นโกดังสินค้าขนาดใหญ่ย่านบางบอน ขยายผลจากกรณีจับกุมตัวการตีเนียนส่งพัสดุหลอกเก็บเงินปลายทาง โดยที่ไม่ได้สั่งซื้อ และส่งสินค้าที่ไม่ตรงปกเพื่อหลอกเก็บเงินปลายทาง

สืบเนื่องจาก ศูนย์ปฏิบัติการแก้ไขปัญหาอาชญากรรมออนไลน์ (Anti Online Scam Operation Center)หรือ AOC 1441 ได้รับร้องเรียนจากการประชาชนเป็นจำนวนมาก ว่าได้รับความเดือดร้อนจากการเรียกเก็บ
เงินค่าพัสดุปลายทางโดยที่ไม่ได้สั่งซื้อ หรือ เคยสั่งซื้อสินค้าจากแพลตฟอร์มบนโซเชียล แต่ไม่ได้รับสินค้าตรงตามที่ได้สั่งซื้อ

พล.ต.ท.วรวัฒน์ วัฒน์นครบัญชา ผบช.สอท. จึงสั่งการให้เร่งสืบสวนสอบสวนกรณีดังกล่าว กระทั่งเช้ามืดของวันที่ 15 ธ.ค.66 เจ้าหน้าที่ตำรวจได้นำกำลังเข้าจับกุมนายอนุศาสน์(ขอสงวนนามสกุล) อายุ 25 ปีซึ่งได้ใช้แพลตฟอร์ม TikTok จำนวน 4 บัญชีในการขายสินค้า มีการส่งพัสดุในรอบ 1 เดือน ประมาณ 8,000 ชิ้น และมีพัสดุตีกลับประมาณ 47 เปอร์เซ็นต์ อีกทั้งยังมียอดระงับการเก็บเงินปลายทางกว่า 8 แสนบาท จึงได้นำตัวพร้อมของกลางส่งดำเนินคดี และได้มีการแถลงข่าวไปเมื่อวันศุกร์ที่ 15 ธ.ค.66 ที่ผ่านมา

ต่อมา เจ้าหน้าที่ตำรวจไซเบอร์ได้ทำการสืบสวนขยายผลจากกรณีดังกล่าว จนกระทั่งช่วงเช้าของวันที่ 18 ธ.ค.66
นำกำลังพร้อมหมายค้นศาลแขวงบางบอน เข้าตรวจค้นโกดังสินค้าขนาดใหญ่แห่งหนึ่ง ในซอย เอกชัย109แขวงบางบอนใต้ เขตบางบอน กรุงเทพมหานคร พบนางสาวกัญญารัตน์ อายุ 24 ปี ชาว จ.บุรีรัมย์ อ้างว่าเป็นผู้ดูแล โดยได้ให้ความร่วมมือพาเจ้าหน้าที่เข้าตรวจค้นภายในโกดังดังกล่าว จากการตรวจค้นพบของกลางสินค้า
นำเข้าจากประเทศจีนที่ไม่มีมาตรฐานกว่า 30 รายการ รวมทั้งสิ้นกว่า 4 พันชิ้น อาทิ เครื่องใช้ไฟฟ้า น้ำหอม ครีมทาผิว และสินค้าอื่นๆ อีกหลายรายการ


โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจจะทำการตรวจยึดของกลางทั้งหมดส่งดำเนินการตามกฎหมาย พร้อมจะทำการขยายผลเพิ่มเติมจากหลักฐานที่ได้จากปฏิบัติการทั้ง 2 ครั้งต่อไป
ตลอดเวลาที่ผ่านมา กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (DE) ได้ร่วมมือกับ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) 
ในการเร่งแก้ไขปัญหาอาชญากรรมออนไลน์ให้แก่พี่น้องประชาชน อย่างไรก็ตาม ขอเตือนภัยประชาชน ให้ระมัดระวังในการรับพัสดุกรณีที่มีการเรียกเก็บเงินปลายทาง หรือ (COD) ควรตรวจสอบกับญาติหรือผู้ที่อยู่อาศัยร่วมกันว่าได้มีการสั่งซื้อจริงหรือไม่ หากไม่มั่นใจควรปฏิเสธการรับพัสดุดังกล่าวไปก่อน ทั้งนี้ หากมีข้อ
สงสัย สามารถโทรปรึกษา ศูนย์ AOC 1441 ได้ตลอด 24 ชั่วโมง