วันที่ 19 ธ.ค.66 ที่ สอท.พล.ต.ต.ภูมิพัฒน์ ภัทรศรีวงษ์ชัย ผบก.สอท.5 ว่าที่ พ.ต.อ.อุกฤช  ศรีนิติวรวงศ์ ผกก.วิเคราะห์ข่าวและเครื่องมือพิเศษ บก.สอท.5  สั่งการให้ พ.ต.ท.กฤษณพร พืชผล และ พ.ต.ต.กิตติเดช สมวงค์ สว.วิเคราะห์ข่าวและเครื่องมือพิเศษ บก.สอท.5 พร้อมชุดสืบสวนร่วมกันจับกุมเครือข่ายหลอกติดตั้งแอปกรมที่ดินปลอม ตุ๋นนักธุรกิจหลอกดูดเงินกว่า 2 ล้านบาท

พล.ต.ต.ภูมิพัฒน์  กล่าวว่า สืบเนื่องจากเมื่อ ช่วงต้นเดือน ก.ย.66 ที่ผ่านมา มีผู้เสียหายเป็นนักธุรกิจในพื้นที่ จ.ภูเก็ต ได้เดินทางไปติดต่อทำธุรกรรมเรื่องที่ดินในพื้นที่ อ.ระโนด จ.สงขลา หลังจากเดินทางกลับพื้นที่ภูเก็ต ปรากฎว่ามีมิจฉาชีพโทรหาผู้เสียหาย อ้างว่าติดต่อจากสำนักงานที่ดินจังหวัดสงขลา หลอกว่าเป็นเจ้าหน้าที่ที่ดิน โดยมิจฉาชีพสามารถแจ้งข้อมูลรายละเอียดเกี่ยวกับที่ดินของผู้เสียหายได้ครบถ้วน ผู้เสียหายจึงหลงเชื่อว่าเป็นเจ้าหน้าที่ตัวจริงโดยมิจฉาชีพอ้างว่า ได้ส่งเอกสารให้ผู้เสียหายปรับปรุงข้อมูลของที่ดินแปลงใหม่ ตั้งแต่เดือนมิถุนายนแต่ผู้เสียหายยืนยันว่าไม่ได้รับเอกสารใดๆ 

ต่อมา คนร้ายจึงอ้างว่าสามารถรับเอกสารดังกล่าวผ่านระบบออนไลน์ได้ โดยแจ้งให้ผู้เสียหายเพิ่มไอดีไลน์ โดยใช้ชื่อบัญชี DOL.421 มีโลโก้ของกรมที่ดินเหมือนของจริง ต่อมาได้ส่งลิงก์ให้ดาวโหลดแอปกรมที่ดินของปลอม ซึ่งเป็นแอปสำหรับควบคุมอุปกรณ์ทางไกล และแจ้งให้ผู้เสียหายกดยอมรับเงื่อนไขเรื่อยๆ พร้อมทั้งให้ใส่รหัสผ่านและสแกนใบหน้าจำนวนหลายครั้ง จนกระทั่งมิจฉาชีพแจ้งว่าดำเนินการสำเร็จและตัดสายทิ้งในทันที 

หลังจากวางสาย ผู้เสียหายได้เข้าไปดูบัญชีไลน์ที่เคยพูดคุยกับมิจฉาชีพ ปรากฎว่าข้อมูลและบทสนทนาทั้งหมดได้หายไปจนเกลี้ยง จึงเข้าไปตรวจสอบยอดเงินในแอปธนาคาร ปรากฏว่ายอดเงินได้หายจากธนาคารทั้ง 3 บัญชี รวมจำนวน 2,070,000 บาท จึงได้เข้าแจ้งความผ่านระบบรับแจ้งออนไลน์ www.thaipoliceonline.go.th ในเวลาต่อมา

พล.ต.ท.วรวัฒน์ วัฒน์นครบัญชา ผบช.สอท. จึงมอบหมายให้ บก.สอท.5 เร่งสืบสวนสอบสวนเพื่อหาตัวผู้กระทำผิดกรณีดังกล่าว พ.ต.อ.อุกกฤช ศรีนิติวรวงศ์ ผกก.วิเคราะห์ข่าวและเครื่องมือพิเศษ บก.สอท.5 จึงจัดเจ้าหน้าที่ลงพื้นที่พร้อมให้รวบรวมพยานหลักฐานจนสามารถขออำนาจศาลออกหมายจับผู้กระทำผิดที่เกี่ยวข้องได้หลายราย

จากข้อมูลการสืบสวน พบว่ามี 1 ในผู้ต้องหาของขบวนการดังกล่าว ทำหน้าที่เปิดบัญชีเพื่อรับโอนเงินต่อจากบัญชีม้าแถวที่ 1 เพื่อใช้ในการอำพรางเส้นทางการเงิน โดยได้หลบหนีมาอยู่ในพื้นที่ อ.กาญจนดิษฐ์ จ.สุราษฎร์ธานี  เจ้าหน้าที่ตำรวจไซเบอร์จึงนำกำลังเข้าจับกุม นายจิระศักดิ์ (ขอสงวนนามสกุล ) อายุ 22 ปี  ตามหมายจับของศาลจังหวัดภูเก็ต โดยแจ้งข้อหา “ร่วมกันฉ้อโกงประชาชนโดยการแสดงตนเป็นคนอื่นและโดยทุจริตหรือโดยหลอกลวง นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ประชาชน ลักทรัพย์โดยลวงว่าเป็นเจ้าพนักงาน และหรือฐานผู้ใดเปิดหรือยินยอมให้บุคคลอื่นใช้บัญชีเงินฝากของตนโดยมิได้มีเจตนาใช้เพื่อตนหรือเพื่อกิจการที่ ตนเกี่ยวข้องหรือยินยอมให้บุคคลอื่นใช้ทั้งนี้โดยประการที่รู้หรือควรรู้ว่าจะนำไปใช้ในการกรทำผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี หรือความผิดทางอาญาอื่นใด” โดยควบคุมตัวได้บริเวณริมถนนสาย ทล.44 หลักกิโลเมตรที่ 125 ต.ช้างซ้าย อ.กาญจนดิษฐ์ จ.สุราษฎร์ธานี 

เบื้องต้น ผู้ต้องหารับสารภาพว่าเคยมีเพื่อนแนะนำให้ติดต่อผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่ง เพื่อเสนอรับจ้างเปิดบัญชีธนาคารในราคา 500 บาท จึงนำตัวส่งพนักงานสอบสวนดำเนินคดีต่อไป