บอร์ดค่าจ้าง มีมติยืนยันใช้ค่าแรงขั้นต่ำอัตราเดิม 2-16 บาท ไปก่อน จ่อตั้ง คณะอนุกรรมการ ปรับสูตรคำนวณ รอลุ้นขึ้นอีกรอบปีหน้า

     
เมื่อวันที่ 20 ธ.ค.66 นายไพโรจน์ โชติกเสถียร ปลัดแรงงานกระทรวงแรงงาน เปิดเผยว่า คณะกรรมการค่าจ้างมีมติเห็นชอบปรับค่าจ้างขั้นต่ำปี 67 ตามมติเดิมเมื่อวันที่ 8 ธ.ค.ไปก่อน เนื่องจากสูตรคำนวณที่คณะกรรมการใช้เป็นสูตรที่เห็นชอบให้อนุกรรมการทุกจังหวัดใช้เป็นเกณฑ์ ซึ่งเป็นการพิจารณาด้วยเหตุผล และอยู่บนข้อมูลเศรษฐกิจปัจจุบัน จึงเห็นควรปรับอัตราค่าจ้างตามความเหมาะสมและเป็นความจริง อยู่บนพื้นฐานความเสมอภาค เป็นธรรมและน่าเชื่อถือ แต่หลังจากนี้จะมีการตั้งคณะอนุกรรมการปรับสูตรคำนวณต่ำใหม่ ซึ่งจะมีตัวแทนนักวิชาการเศรษฐศาสตร์ นายจ้าง ลูกจ้าง เข้าร่วม โดยอาจจะมีการพิจารณาตามประเภทกิจการเข้ามาด้วย
     
  ตอนนี้ใช้ตามมติเดิมไปก่อนคือ ใช้มติตามวันที่ 8 ธ.ค. เมื่อคำนวณสูตรใหม่แล้วจะเรียกประชุมบอร์ดเพื่อพิจารณาค่าจ้างใหม่ ซึ่งอาจจะมีเพิ่มขยักสองในปีหน้า แต่จะทำให้เร็วที่สุด นายไพโรจน์ กล่าว
    
 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับมติคณะกรรมการค่าจ้างขั้นต่ำเมื่อวันที่ 8 ธ.ค.ที่ผ่านมา ให้ปรับเพิ่มค่าจ้างขั้นต่ำทั้ง 77 จังหวัด ในอัตราเพิ่มขึ้น 2-16 บาท ซึ่งค่าจ้างค่าขั้นที่เพิ่มมากที่สุดคือ จ.ภูเก็ต คือ 370 เพิ่มขึ้นจาก 354 บาท หรือเพิ่มขึ้น 16 บาท และต่ำที่สุดคือ 330 บาท ใน 3 จังหวัด คือ นราธิวาส ปัตตานี และยะลา จากเดิม 328 บาท ทั้งนี้ จะมีผลบังคับใช้วันที่ 1 ม.ค.67
    
 ส่วนรายละเอียดการปรับเพิ่มค่าจ้างขั้นต่ำ ปี 67 แบ่งออกเป็น 17 อัตรา ดังนี้ 1.กลุ่มที่เพิ่มเป็น 370 บาทต่อวัน มี 1 จังหวัดคือ ภูเก็ต 2.ปรับเพิ่มเป็น 363 บาท มี 6 จังหวัด ประกอบด้วย กรุงเทพมหานคร, นครปฐม ,นนทบุรี ,ปทุมธานี ,สมุทรปราการ และสมุทรสาคร 3.ปรับเพิ่มเป็น 361 บาท มี 2 จังหวัดคือ ชลบุรี และระยอง 4. ปรับเพิ่มเป็น 352 บาท มี 1 จังหวัดคือ นครราชสีมา 5.ปรับเพิ่มเป็น 351 บาท มี 1 จังหวัด คือ สมุทรสงคราม 6.ปรับเพิ่มเป็น 350 บาท มี 6 จังหวัด ได้แก่ พระนครศรีอยุธยา สระบุรี ฉะเชิงเทรา ปราจีนบุรี ขอนแก่น และเชียงใหม่ 7.ปรับเพิ่มเป็น 349 บาท มี 1 จังหวัดคือ ลพบุรี 8.ปรับเพิ่มเป็น 348 บาท มี 3 จังหวัด คือ สุพรรณบุรี นครนายก และหนองคาย
     
9.ปรับเพิ่มเป็น 347 บาท มี 2 จังหวัดคือ กระบี่ และตราด 10.ปรับเพิ่มเป็น 345 บาทมี 15 จังหวัด ประกอบด้วย กาญจนบุรี, ประจวบคีรีขันธ์, สุราษฎร์ธานี, สงขลา ,พังงา ,จันทบุรี ,สระแก้ว, นครพนม ,มุกดาหาร ,สกลนคร ,บุรีรัมย์ ,อุบลราชธานี, เชียงราย, ตาก และพิษณุโลก 11.ปรับเพิ่มเป็น 344 บาท มี 3 จังหวัด คือ เพชรบุรี ,ชุมพร และสุรินทร์ 12.ปรับเพิ่มเป็น 343 บาท มี 3 จังหวัด ได้แก่ ยโสธร ,ลำพูน และนครสวรรค์ 13. ปรับเพิ่มเป็น 342 บาท มี 5 จังหวัดคือ นครศรีธรรมราช ,บึงกาฬ ,กาฬสินธุ์ ,ร้อยเอ็ด และ เพชรบูรณ์ 14. ปรับเพิ่มเป็น 341 บาท มี 5 จังหวัด ได้แก่ ชัยนาท ,สิงห์บุรี, พัทลุง, ชัยภูมิ และอ่างทอง 15. ปรับเพิ่มเป็น 340 บาท มี 16 จังหวัด ประกอบด้วย ระนอง, สตูล, เลย ,หนองบัวลำภู ,อุดรธานี, มหาสารคาม ,ศรีสะเกษ ,อำนาจเจริญ ,แม่ฮ่องสอน, ลำปาง, สุโขทัย ,อุตรดิตถ์ ,กำแพงเพชร ,พิจิตร, อุทัยธานี และราชบุรี 16.ปรับเพิ่มเป็น 338 บาท มี 4 จังหวัด ประกอบด้วย ตรัง ,น่าน , พะเยา และแพร่ 17. ปรับเพิ่มเป็น 330 บาท มี 3 จังหวัด คือ นราธิวาส ,ปัตตานี และยะลา