บริษัท เนต้า ออโต้ (ไทยแลนด์) จำกัด จับมือพันธมิตร บางชันเยนเนอเรลเอเซมบลี ประกาศพร้อมประกอบรถยนต์พลังงานไฟฟ้ารุ่นพวงมาลัยขวาในประเทศไทย ประเดิมปล่อย NETA V-II เป็นรุ่นแรกออกจากสายพานการผลิตก่อนจะเริ่มผลิตอย่างเป็นทางการเพื่อการจัดจำหน่ายในประเทศไทยในไตรมาสแรกปี 2567

มร.จาง หย่ง (Mr. Zhang Yong) ผู้ร่วมก่อตั้งและประธาน NETA Auto  เปิดเผยว่า เป้าหมายของแบรนด์ NETA คือการทำให้ทุกคนมีสิทธิในการเข้าถึงเทคโนโลยีอย่างเท่าเทียมและได้มีโอกาสใช้งานรถยนต์พลังงานไฟฟ้าที่มาพร้อมเทคโนโลยีอัจฉริยะได้อย่างแพร่หลายมากยิ่งขึ้น NETA เดินหน้าแนะนำรถยนต์พลังงานไฟฟ้าที่มีนวัตกรรมล้ำสมัยที่ทุกคนสามารถเป็นเจ้าของได้อย่างแท้จริงมาอย่างต่อเนื่องทำให้มียอดการส่งมอบรถยนต์พลังงานไฟฟ้าให้กับลูกค้าแล้วกว่า 350,000 คน   ในประเทศไทยถือว่าแบรนด์ NETA เป็นที่รู้จักและได้รับการยอมรับจากผู้บริโภคในประเทศอย่างรวดเร็วและมียอดการส่งมอบรถยนต์พลังงานไฟฟ้า 100% รุ่น NETA V ให้กับลูกค้าคนไทยได้เกินกว่า 10,000 คัน ภายในระยะเวลาเพียง 10 เดือน  ทั้งนี้การปล่อย NETA V คันแรกออกจากสายพานการผลิตจากโรงงานในประเทศไทยวันนี้จึงเป็นอีกหนึ่งก้าวสำคัญของแผนงานระดับสากลของ NETA ที่จะทำให้เราสามารถผลิตและส่งมอบรถยนต์พลังงานไฟฟ้าที่มาพร้อมนวัตกรรมที่ทันสมัยรุ่นต่างๆ เพื่อรองรับกับความต้องการของตลาดรถยนต์พลังงานไฟฟ้าในประเทศไทยและภูมิภาคอาเซียนได้เป็นอย่างดี

NETA  มีรถยนต์พลังงานไฟฟ้าที่ทำตลาด 6 รุ่นได้แก่ รถยนต์พลังงานไฟฟ้าสไตล์ City Car รุ่น NETA V และ  รุ่น NETA VII รถยนต์พลังงานไฟฟ้าสไตล์ SUV  รุ่น NETA U  รุ่น NETA X รวมไปถึงรถยนต์พลังงานไฟฟ้าสไตล์สปอร์ตรุ่น NETA S  รุ่น NETA GT ทั้งนี้ NETA พร้อมร่วมปฏิรูปการใช้พลังงานใหม่รวมไปถึงมีส่วนร่วมในการจัดทำห่วงโซ่คุณค่า (Value Chain) ของอุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้าของโลกเพื่อให้ทุกคนสามารถใช้งานรถยนต์พลังงานไฟฟ้า 100% ที่มาพร้อมเทคโนโลยีที่ทันสมัยได้อย่างแพร่หลายมากยิ่งขึ้น สอดคล้องกับวิสัยทัศน์ของ NETA Popularizer of Smart EV สรรค์สร้างนวัตกรรมยานยนต์ไฟฟ้าที่ทุกคนสามารถเป็นเจ้าของได้    

โรงงานประกอบรถยนต์พลังงานไฟฟ้าของ NETA ในประเทศไทยโดยความร่วมมือกับ บริษัท บางชันเยนเนอเรลเอเซมบลี จำกัด  นับเป็นโรงงานผลิตรถยนต์พลังงานไฟฟ้า100% แห่งแรกของ NETA ที่ตั้งอยู่นอกประเทศจีนซึ่งจะเป็นฐานการผลิตรถยนต์พลังงานไฟฟ้าพวงมาลัยขวาสำหรับตลาดภูมิภาคอาเซียน และช่วยยกระดับความสามารถในการผลิตรถยนต์พลังงานไฟฟ้าของ NETA โดยมีกำลังการผลิตอยู่ที่  20,000 คันต่อปี