เมื่อวันที่ 23 ธ.ค.66 พ.ต.ท.ประยูร ยูวะนิยม รอง ผกก.(สอบสวน) สน.ห้วยขวาง  รับแจ้งเหตุเพลิงไหม้บ้านเรือนประชาชน ที่บ้านเลขที่ 103/1 ซอยประชาสงเคราะห์ 14 แยก 16 (ซอยกรุณา ) แขวงและเขตดินแดง กทม. จึงพร้อมด้วย เจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวนและป้องกันปราบปราม สน.ห้วยขวาง และสถานีดับเพลิงและกู้ภัยห้วยขวาง เจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน  ตร. และอาสามูลนิธิป่อเต็กตึ๊งไปตรวจสอบ

ที่เกิดเหตุเป็นบ้านไม้ 2 ชั้น ปลูกติดกัน รวม 2 หลัง อยู่ในรั้วรอบขอบชิด พบแสงเพลิงและกลุ่มควันพวยพุ่ง จำนวนมาก ก่อนจะลุกลามไปยังบ้านข้างเคียงซึ่ง เลขที่ 115 ซึ่งเป็นบ้านไม้กึ่ง 2 ชั้น ซึ่งอยู่ซอยติดกัน เจ้าหน้าที่ดับเพลิง จึงต้องใช้รถดับเพลิง ขนาดเล็กเพื่อเข้าไปยังบ้านต้นเพลิง และวางหัวฉีดน้ำอย่างทุลักทุเล เนื่องจากซอยดังกล่าว ค่อนข้างมีความคับแคบ โดยใช้เวลากว่า 40 นาที จนสามารถควบคุมเพลิงไว้ได้ จากการตรวจสอบความเสียหายเบื้องต้นพบว่า บ้านเลขที่ 103/1 เสียหาย ทั้งหลัง และบ้านเลขที่  115 เสียหายทั้งหลัง รวม 2 หลัง และมีอีก 2 หลังถูกเปลวไฟได้รับความเสียหายเล็กน้อย

 นอกจากนี้เจ้าหน้าที่พบว่ามีรพระบรมฉายาลักษณ์กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯตกอยู่ในกองเพลิง แต่ปรากฎว่าไม่ถูกไฟไหม้แต่อย่างใด และพบมีเงินสด เป็นแบงค์ยี่สิบ และแบงค์ร้อยจำนวนมาก ถูกเพลิงไหม้ ได้รับความเสียหาย ส่วนผู้ได้รับบาดเจ็บ มีจำนวน 2 ราย ถูกไฟลวกบริเวณขาเล็กน้อย เจ้าหน้าที่กู้ชีพของศูนย์เอราวัณจึงทำการปฐมพยาบาลเบื้องต้น 

จากการสอบถามนจ้าของบ้านต้นเพลิง เล่าว่า ตนเองกับครอบครัวอาศัยอยู่บ้านหลังนี้อยู่รวมกัน 4 คน ซึ่งบ้านหลังนี้อายุนานกว่า 50 ปีตั้งแต่รุ่นคุณตา โดยช่วงบ่ายก่อนเกิดเหตุ ทุกคนกำลังนั่งทานข้าวอยู่ชั้น 1 ของบ้าน จากนั้นได้ยินเสียงระเบิดอยู่บริเวณชั้นสองของบ้าน แต่ตอนนั้นคิดว่าเป็นเสียงจากข้างบ้านจึงไม่ได้สังเกตอะไรและไม่ได้ขึ้นไปดู 

จากนั้นผ่านไปประมาณ 10 นาทีเพื่อนบ้านได้วิ่งมาบอกว่าบริเวณชั้น 2 ของบ้านมีเพลิงไหม้เกิดขึ้น ซึ่งสิ่งแรกที่ทำได้ตอนนั้นคือพาคุณแม่ที่สูงอายุวิ่งออกมาจากบ้านทันที ก่อนจะรีบนำถังดับเพลิงขึ้นไปดับไฟที่กำลังลุกไหม้บนบ้าน แต่ตอนนั้นไฟลุกลามไปค่อนข้างเยอะทำให้ไม่สามารถควบคุมเพลิงไว้ได้ ตนจึงตัดสินใจลงมาจากบ้าน ซึ่งจังหวัดนั้นตนเองเหยียบพื้นไม้ที่ถูกไฟไหม้จนได้รับบาดเจ็บเป็นแผลผุพองเล็กน้อยบริเวณเท้าข้างขวา

ส่วนสาเหตุเสียงระเบิดตนเองคิดว่าน่าจะเกิดจากไฟฟ้าลัดวงจร แต่ตนยืนยันว่าที่ผ่านมามีการรีเช็คปรับปรุงระบบไฟในบ้านอยู่เสมอ อีกทั้งที่บ้านมีระบบตัดไฟจึงไม่คาดคิดว่าจะเกิดเหตุการณ์เช่นนี้ ส่วนความเสียหายของบ้าน ก็ได้รับความเสียหายทั้งหลัง ซึ่งทรัพย์สินสามารถนำออกมาได้แค่รถจักรยานยนต์ 2 คัน ส่วนทรัพย์สินอื่นๆก็ถูกไฟไหม้ทั้งหมด รวมถึงสุนัขที่เลี้ยงไว้ในบ้าน 3 ตัวก็นำออกมาไม่ทัน ส่วนวันนี้ก็คงต้องขออาศัยอยู่กับเพื่อนบ้านก่อน

ด้าน พ.ต.ท.ประยูร พนักงานสอบสวน รักษาราชการแทน ผกก.สน.ห้วยขวาง เปิดเผยว่า เหตุเพลิงไหม้ดังกล่าวบ้านต้นเพลิงอยู่บ้านเลขที่ 103/1 ส่วนสาเหตุเบื้องต้นจากการสอบถาม ผู้ที่อาศัยอยู่ที่บ้านหลังดังกล่าว คาดว่าเกิดจากไฟฟ้าลัดวงจร และมีผู้ได้รับบาดเจ็บเล็กน้อย 2 ราย ส่วนความเสียหายอื่นๆต้องรอเจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐานมาตรวจสอบ เบื้องต้นจึงได้มีการนัดหมายให้เจ้าของบ้านและผู้ที่อาศัยอยู่ในบ้านรวมถึงผู้ที่เห็นเหตุการณ์ กับผู้เสียหายบ้านอีก 1 หลังที่ถูกไฟไหม้ เข้าไปให้ปากคำกับพนักงานสอบสวน สน.ห้วยขวาง ส่วนมูลค่าความเสียหายยังไม่สามารถประเมินได้ และจะเร่งดำเนินการสอบปากคำให้เสร็จสิ้นต่อไป


ด้านนาย สุริยชัย รวิวรรณ รองผู้อำนวยการสำนักป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย กล่าวว่า สำหรับความเสียหาย ทาง ปภ.จะมีเจ้าหน้าที่มาประเมิน และจะมอบเงินช่วยเหลือค่าซ่อมแซมบ้านตามระเบียบของทาง ปภ. โดยกระทรวงมหาดไทย หากเสียหายหลังเดียวจะมีเงินช่วยเหลือจากทางกรุงเทพมหานคร ส่วนสาเหตุที่แท้จริงยังไม่สามารถตรวจสอบได้ เนื่องจากบ้านต้นเพลิงถูกไฟไหม้เสียหายทั้งหลัง รวมถึงขณะเกิดเหตุไฟลุกบ้านต้นเพลิงลุกท่วม ประกอบกับมีกระแสลม ทำให้ความร้อนแผ่ไปฝั่งตรงข้าม ส่งผลให้มีเสียหายทั้งหลังรวม 2 หลัง ส่วนบ้านข้างเคียง 3 หลังเสียหายเล็กน้อย

 

 เบื้องต้นได้มอบถุงยังชีพให้ผู้เสียหายแล้ว หลังจากนี้ผู้เสียหายจะต้องไปดำเนินการแจ้งความกับพนักงานสอบสวน เพื่อยื่นขอเงินช่วยเหลือค่าซ่อมแซมบ้าน แต่ระหว่างที่ผู้เสียหายทั้ง 2 หลังยังซ่อมแซมบ้านไม่เสร็จ ทางกรุงเทพมหานครจะช่วยเหลือเงินค่าเช่าที่อยู่อาศัย 2 เดือน ซึ่งขณะนี้เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างขั้นตอนการดับถ่านเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดเพลิงไหม้ขึ้นอีก