วันที่ 24 ธ.ค.66 ที่ บช.สอท.พล.ต.ต.สถิต พรมอุทัย ผบก.สอท.3 ว่าที่ พ.ต.อ.อดิชาต อมรประดิษฐ ผกก.วิเคราะห์ข่าวและเครื่องมือพิเศษ บก.สอท.3 สั่งการให้ชุดจับกุมนำโดย พ.ต.ท.วีระศักดิ์ แก้วเนียม รอง ผกก.วิเคราะห์ข่าวฯ บก.สอท.3, พ.ต.ท.เลอศักดิ์ พิเชษฐไพบูลย์, พ.ต.ต.ขจร แย้มชม และ พ.ต.ต.ธวัช ทุเครือ สว.กก.วิเคราะห์ข่าวฯ บก.สอท.3 ร่วมกันสืบสวนจับกุมเครือข่ายหลอกทำภารกิจกดซื้อสินค้าเหยื่อย่ามใจว่ารายได้ดี โอนไวหมดบัญชีกว่า 6 หมื่น

สืบเนื่องจาก เมื่อวันที่ 9 กันยายน 2565 ผู้เสียหาย พบโพสต์ข้อความรับสมัครงานพาร์ทไทม์ในเฟซบุ๊ก โดยได้ประกาศในลักษณะ “รับสมัครผู้ทำหน้าที่ในการตรวจสอบ รับสินค้า รับคำสั่งซื้อสินค้า สามารถทำงานอยู่บ้านได้ ไม่ต้องเข้าออฟฟิศ เพียงกดรับคำสั่งซื้อผ่านมือถือ อยู่ที่ไหนก็สามารถทำได้ เพียงอายุ 20 ปีขึ้นไปไม่จำกัดวุฒิการศึกษา มีเจ้าหน้าที่สอนงานให้ฟรี ไม่มีประสบการณ์ก็ทำได้ รับประกันรายได้มั่นคง ตั้งแต่ 300 - 2000 บาทต่อวัน หากสมัครวันนี้จะได้รับโบนัสฟรี” ผู้เสียหายหลงเชื่อจึงได้กดเข้าไปในลิงก์ที่โพสต์ไว้

ต่อมาผู้เสียหายได้แอด LINE เพื่อพูดคุยกันถึงรายละเอียดของงาน โดยมิจฉาชีพจะให้ผู้เสียหายกดรับออเดอร์โดยมีผลตอบแทนเป็นค่าคอมมิชชั่น 20-30% ต่อหนึ่งงาน ผู้เสียหายหลงเชื่อตามนั้นจึงลงทะเบียนตามขั้นตอนที่คนร้ายแจ้ง โดยมิจฉาชีพให้ผู้เสียหายทดลองโอนเงินก่อน 100 บาท เพื่อทดลองงาน จากนั้นผู้เสียหายเข้าไปในลิงก์ที่คนร้ายส่งให้ เมื่อพบว่ามียอดเงินที่ผู้เสียหายโอนเข้าไปเป็นเงิน 100 บาท จากนั้นจะพบรายการสินค้าที่คนร้ายแจ้งพร้อมราคา โดยมีเงื่อนไขว่า หากสินค้าราคาสูงแต่ยอดเงินในบัญชีไม่เพียงพอทางร้านจะแจ้งให้ผู้เสียหายโอนเงินเพิ่ม โดยค่าคอมมิชชั่นในแต่ละงาน จะถูกโอนเข้าบัญชีของผู้เสียหายทันทีเมื่อจบงาน โดยครั้งที่ 1 ผู้เสียหายโอนเงินทดลองงานไปจำนวน 100 บาท พบว่าได้รับเงินกลับมาจำนวน 20 บาทจริง และครั้งที่ 2 จำนวน 500 บาท พบว่าได้รับกลับมาจำนวน 170 บาท เมื่อเห็นว่ามีรายได้ดีจึงหลงเชื่อ จึงโอนเงินเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ ตั้งแต่ 90 บาท - 38,530 บาท โดยผู้เสียหายโอนไปทั้งสิ้น 12 ครั้ง รวมเป็นเงินทั้งสิ้น 60,755 บาท ต่อมา เมื่อผู้เสียหายต้องการถอนเงินออกจากระบบปรากฏว่าถอนไม่ได้ โดยคนร้ายแจ้งว่าผู้เสียหายต้องโอนเงินเพิ่มเข้าไปในระบบอีกจำนวน 38,530 บาท เพื่อให้ถึงจำนวนขั้นต่ำที่สามารถถอนได้ ผู้เสียหายจึงรู้ตัวแล้วว่าโดนหลอกลวง จึงได้เข้าแจ้งความร้องทุกข์ดำเนินคดีต่อพนักงานสอบสวน บก.สอท.3

พล.ต.ท.วรวัฒน์ วัฒน์นครบัญชา ผบช.สอท. จึงได้สั่งการให้ พล.ต.ต.สถิตย์  พรมอุทัย ผบก.สอท.3 รีบส่งเจ้าหน้าที่ตำรวจสืบสวนกรณีดังกล่าว เพื่อนำผู้กระทำผิดมาดำเนินคดีตามกฎหมายจนสามารถรวบรวมพยานหลักฐานขออำนาจศาลออกหมายจับผู้เกี่ยวข้องได้หลายราย  ต่อมา ช่วงค่ำขอวันที่ 23 ธ.ค.66 ว่าที่ พ.ต.อ.อดิชาต อมรประดิษฐ ผกก.วิเคระห์ข่าวและเครื่องมือพิเศษ  บก.สอท.3 จึงได้มอบหมายให้ พ.ต.ท.วีระศักดิ์ แก้วเนียม รอง ผกก.วิเคราะห์ข่าวฯ บก.สอท.3 นำกำลังเข้าจับกุม 1 ในผู้ต้องหาที่หลบหนี จนสามารถเข้าจับกุมตัว น.ส.สุกัญญา (ขอสงวนนามสกุล ) อายุ 38 ปี ชาวฉะเชิงเทรา ในข้อหา “ร่วมกันฉ้อโกงประชาชนโดยการแสดงตนเป็นคนอื่น, ร่วมกันนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่บิดเบือนหรือปลอม ไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน หรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ผู้อื่นหรือประชาชน” โดยควบคุมตัวได้ที่บริเวณริมถนนหน้าบ้านเลขหลังหนึ่ง ในพื้นที่ หมู่ 5 ต.ท่าทองหลาง อ.บางคล้า จว.ฉะเชิงเทรา เบื้องต้นผู้ต้องหายังคงให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหาว่าไม่มีส่วนรู้เห็น เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงนำตัวส่งดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป