วันที่ 25 ธ.ค.66 ที่ ตม.สนามบิน พล.ต.ต.เชิงรณ ริมผดี ผบก.ตม.2 และโฆษก สตม. ได้เปิดเผยภาพในทวิตเตอร์ของคนต่างชาติ เป็นคลิปเคลื่อนไหวผู้โดยสารแถวยาวรอรับการตรวจหนังสือเดินทางโดยตรวจสอบแล้ว เป็นภาพที่โพสเมื่อ เวลาประมาณ 01.44 น.ของ วันที่ 25 ธ.ค.66 ซึ่งเป็นภาพการเข้าคิวรอรับการตรวจเข้าประเทศ แถวยาวล้นออกมาจากโถง ผู้โดยสารขาเข้า ณ ด่าน ตม.ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ 

ซึ่งช่วงดังกล่าว มีเที่ยวบินขาเข้า ลงพร้อมกันในห้วงเวลา00.00 -02.00 น ราว  22 เที่ยวบิน มีคลื่นคนโดยสาร เทลงพร้อมกัน ประมาณ 5,563 คน สูงขึ้นกว่า ปกติราว 33% เหตุเนื่องจากมีเที่ยวบิน ดีเลย์สะสม  และเกิดปริมาณผู้โดยสารสะสมเพิ่มจากเดิมราว 1,000 คนทันทีที่เกิดคลื่นผู้โดยสารเทลงพร้อมกัน ทาง ตม.ได้เร่งระดมกำลังพล เข้าตรวจหนังสือเดินทางเต็มกำลัง  จนสามารถตรวจระบายผู้โดยสาร กลุ่มดังกล่าว จากจุดที่มีการบันทึกภาพ เคลื่อนตัวจนถึงช่องตรวจหนังสือเดินทางใช้เวลาตั้งแต่ 01.44 ถึง 02.14 น.ประมาณ 30 นาที จึงระบายหมด พร้อมแสดงภาพโถงตรวจขาเข้ายืนยัน

พล.ต.ต.เชิงรณ  กล่าวอีกว่าได้เปิดเผยภาพ ปัญหาความหนาแน่น บริเวณทางเชื่อมระหว่างอาคารเทียบเครื่อง กับโถง ตม.ว่า จุดดังกล่าว จะเกิดภาพการสะสมของผู้โดยสารล้นออกมาที่ทางเข้าโถงดังกล่าว เนื่องจากลักษณะทางกายภาพของอาคารที่เป็นคอขวด ซึ่งจะเกิดภาพดังกล่าวเมื่อเครื่องลงพร้อมกันในช่วงเที่ยวบินลงหนาแน่น โดยเฉพาะ 13.00-20.00 น. ซึ่งทาง ตม.ถือว่าเป็นช่วงวิกฤติ และจะมีการระดมกำลังพลเร่งระบายผู้โดยสารให้เร็วที่สุด 

จากการจับเวลา คนที่อยู่จุดทางเข้าโถง ถึงจุดตรวจหนังสือเดินทาง พบว่าใช้เวลาอย่างช้าไม่เกิน 40 นาที บวกลบนิดหน่อย โดยได้แสดงภาพตัวอย่างการจับเวลาแสดงให้เห็นด้วย พร้อมขอประชาสัมพันธ์คนเดินทางเข้าว่า อย่าทิ้ง Boarding pass หรือบัตรที่นั่ง เพราะเจ้าหน้าที่ ตม.ต้องบันทึกลงระบบ เพื่อจะได้ไม่เสียเวลา และขอยันยันว่า ตม.ประเทศไทย ให้ความสำคัญกับการอำนวยความสะดวกภายใต้หลักความมั่นคง โดยเฉพาะในช่วงปีใหม่ มีข่าวดีที่พบว่า มีคนเดินทางเข้าประเทศเฉลี่ยถึงวันละ 70,000 คน สูงกว่าช่วงก่อนโควิด ซึ่งจะช่วยกรดตุ้นการท่องเที่ยวตามนโยบายรัฐบาล