วันที่ 26 ธ.ค.66 ที่ศูนย์รับแจ้งความ บช.ก. นายกฤษฎา อินทามระ ทนายปราบโกง เข้าพบแจ้งความต่อพนักงานสอบสวน บก.ปปป.เพื่อดำเนินคดีกับเจ้าหน้าที่เทศบาลตำบลแห่งหนึ่ง จ.ภูเก็ต กับพวกร่วมกันออกเลขบ้านและทะเบียนบ้าน ที่บริเวณริมชายหาดเกาะแห่งหนึ่ง จ.ภูเก็ต

ทนายปราบโกง กล่าวว่าเมื่อประมาณกลางปี พ.ศ.2565 เศรษฐีนีรายหนึ่งสร้างกระต๊อบด้วยสังกะสี ทั้งหลังลงบนที่ดินบริเวณชายหาด โดยไม่มีห้องน้ำ-ห้องสุขา ที่ถูกสุขลักษณะ จึงไม่สามารถออกเลขบ้านและทะเบียนบ้านได้ แต่ไปยื่นคำขอออกเลขบ้านและทะเบียนบ้าน จากสำนักทะเบียนท้องถิ่นเทศบาลฯ จนกระทั่งได้อนุมัติเลขรหัสประจำบ้านและทะเบียนบ้าน ทำให้เข้าไปเป็นเจ้าบ้าน เมื่อต้นเดือนกรกฎาคม 2565  การกระทำของเจ้าหน้าที่เทศบาลและผู้มีส่วนเกี่ยวข้องถือเป็นการปฎิบัติหรือละเว้นการปฎิบัติหน้าที่โดยมิชอบหรือโดยทุจริต แต่มีมูลเหตุจูงใจหรือเจตนาพิเศษ ต้องการเอื้อประโยชน์ให้เข้าไปยึดถือครอบครองที่ดินบริเวณชายหาด

ทนายปราบโกง  กล่าวอีกว่า เมื่อประมาณ ปี พ.ศ.2564-2565 เศรษฐีนีรายนี้ขายบ้าน ซึ่งเป็นภูมิลำเนาเดิมไปและใช้วิธีไปเช่าบ้านอาศัยอยู่ใน ต.ท่าทราย จ.นนทบุรี  เมื่อวันที่ 20 ธันวาคม ที่ผ่านมาตนเดินทางไปที่เกาะดังกล่าว เพื่อตรวจสอบข้อเท็จจริง จึงพบว่ามีสภาพเป็นเพียงกระต๊อบ ไม่มีไฟฟ้า ไม่มีน้ำประปา ดังนั้นจึงเป็นไปไม่ได้เลยที่คนอาศัยอยู่ จากการสอบถามชาวบ้านบอกว่าหลายปีที่ผ่านมา ได้มีนายทุนต่างถิ่นรวมทั้งชาวต่างชาติ เข้ามากว้านซื้อที่ดินบริเวณชายหาดเกาะ ซึ่งเจ้าหน้าที่สำนักอนามัย  บอกว่ามีหน้าที่ดูแลเรื่องสุขภาพอนามัยและแจกยาเวชภัณฑ์ให้ชาวบ้าน โดยใช้วิธีไปเช้า-เย็นกลับ เนื่องจากเกาะห่างจากท่าฉลอง จ.ภูเก็ต เพียง 5 กิโลเมตร มีชาวบ้านจริงๆไม่เกิน 50 คนเท่านั้น 

ตามข้อมูลของเทศบาลแจ้งว่ามีชาวบ้านเกือบ 200 คน มีบ้านกว่า 100 หลัง ตนจึงตรวจสอบย้อนหลังพบว่า เมื่อวันที่ 2 ตุลาคม 2566 เว็ปไซด์สื่อออนไลน์แห่งหนึ่งออกข่าว ชาวบ้านเฮจะมีไฟฟ้าใช้แล้ว หลังรอคอยมานานนับ 10 ปี โดยเทศบาลกล่าวว่า เมื่อเร็วๆ นี้ได้ร่วมกับการไฟฟ้าส่วนภูมิภาคและการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค ต.ฉลอง ลงสำรวจพื้นที่เพื่อสำรวจสภาพพื้นที่กำหนดแผนงานติดตั้งระบบไฟฟ้าใต้น้ำมาที่เกาะ แต่ปัจจุบันที่เกาะยังไม่มีไฟฟ้า 

วันนี้ตนต้องมาทำหน้าที่ปราบโกง จึงมาร้องทุกข์กล่าวโทษและแจ้งความดำเนินคดีกับผู้กระทำความผิดและผู้มีส่วนเกี่ยวข้องให้ถึงที่สุด เบื่องต้นพนักงานสอบสวน บก.ปปป.รับเรื่องไว้เสนอผู้บังคับบัญชาพิจารณาดำเนินการตามกฎหมายต่อไป