ททท. คาดหยุด 4 วันช่วงส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ คนไทยออกเดินทาง 3.7 ล้านคน-ครั้ง โดยเพิ่มขึ้น 10% มีเงินสะพัดกว่า 12,700 ล้านบาท 

     เมื่อวันที่ 31 ธ.ค.66 นางสาวฐาปนีย์ เกียรติไพบูลย์ ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เปิดเผยว่า ททท.คาดว่าช่วงเทศกาลส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ 2567 (ระหว่างวันที่ 29 ธันวาคม 2566-1 มกราคม 2567) การเดินทางภายในประเทศจะคึกคักมาก โดยจะมีจำนวนผู้เยี่ยมเยือนชาวไทยประมาณ 3.76 ล้านคน-ครั้ง และสร้างรายได้หมุนเวียน 12,700 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 10% และ 11% ตามลำดับ เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีที่ผ่านมา โดยประเมินว่าภาคตะวันออกเฉียงเหนือ (อีสาน) มีจำนวนผู้เยี่ยมเยือนมากที่สุด จำนวน 820,330 คน-ครั้ง รองลงมาคือ ภาคตะวันออก จำนวน 794,830 คน-ครั้ง และภาคเหนือ จำนวน 726,350 คน-ครั้ง ส่วนภูมิภาคที่สร้างรายได้มากที่สุดคือ ภาคตะวันออก มูลค่า 3,380 ล้านบาท รองลงมาคือ ภาคเหนือ มูลค่า 2,660 ล้านบาท และกรุงเทพฯ มูลค่า 1,910 ล้านบาท
    
 นางสาวฐาปนีย์ กล่าวต่อว่า ขณะที่ 10 จังหวัด ที่มีกิจกรรมกระตุ้นการเดินทางท่องเที่ยวในประเทศของ ททท. ที่ดำเนินการเองและร่วมกับภาคเอกชนจัดกิจกรรมแห่งการเฉลิมฉลองเทศกาลส่งท้ายปีเก่า ต้อนรับปีใหม่ 2567 หรือ "Amazing Thailand Countdown 2024" คาดว่าจะมีจำนวนผู้เยี่ยมเยือนชาวไทยเดินทางเข้าพื้นที่ 1,114,990 คน-ครั้ง และสร้างรายได้ 4,740 ล้านบาท
   
  ด้าน นายสัตวแพทย์ชัย วัชรงค์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เป็นห่วงประชาชนคนไทยที่ออกมาเฉลิมฉลองเคาท์ดาวน์เทศกาลปีใหม่ 2567 พร้อมเตือนให้หลีกเลี่ยงสถานที่แออัด โดยเฉพาะในคืนวันนี้ (31 ธ.ค. 66) เป็นวันส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ ที่สถานที่ต่าง ๆ และสถานบันเทิงทั่วประเทศต่างจัดงานเฉลิมฉลองเคาท์ดาวน์ปีใหม่ 2567 ซึ่งหน่วยงานฝ่ายปกครอง ตำรวจ และทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง ได้เตรียมพร้อมมาตรการรักษาความปลอดภัยให้กับประชาชนและนักท่องเที่ยว เพื่อให้การเฉลิมฉลองเป็นไปอย่างเรียบร้อยและปลอดภัย 
    
 โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรีกล่าวว่า ค่ำวันนี้เป็นคืนเคาท์ดาวน์ที่ประชาชนจำนวนมากจะออกมาเฉลิมฉลองตามสถานที่ต่าง ๆ ทั่วประเทศ จึงย้ำขอความร่วมมือมายังสถานประกอบการ สถานบันเทิง ผู้จัดงานและเจ้าของพื้นที่จัดงาน ได้ตรวจสอบความปลอดภัยทางกายภาพ หากพบจุดเสี่ยงอันตรายหรืออุปกรณ์ที่ชำรุดเสียหายให้ดำเนินการแก้ไขให้มีความปลอดภัย ทั้งระบบป้องกันอัคคีภัยให้อยู่ในสภาพพร้อมใช้งาน ประตูทางเข้า-ออก ถังดับเพลิง ระบบสัญญาณเตือนภัย ระบบไฟฟ้าสำรอง ป้ายบอกเส้นทางหนีไฟต้องติดตั้งอยู่ในตำแหน่งที่มองเห็นได้ชัดเจน ไม่มีสิ่งกีดขวางตลอดเส้นทาง และสามารถเปิดออกสู่ภายนอกได้อย่างทันที กำหนดเส้นทางเข้า-ออกที่ชัดเจน จำกัดจำนวนคนภายในงานให้สอดคล้องกับขนาดและสภาพพื้นที่จัดงาน เพื่อป้องกันความหนาแน่นแออัด และต้องประชาสัมพันธ์ให้ผู้ใช้บริการทราบขั้นตอนการปฏิบัติเมื่อต้องอพยพผู้ใช้บริการกรณีเกิดสถานการณ์ฉุกเฉินด้วย 
      
 ในส่วนของประชาชนที่ออกมาเฉลิมฉลองเคาท์ดาวน์ ขอให้วางแผนการเดินทางล่วงหน้า เพื่อให้รู้ว่าจะเดินทางไปอยู่ตรงไหน หากเป็นสถานที่ปิด ควรดูทางออกฉุกเฉิน และควรมีเพื่อนไปด้วย หลีกเลี่ยงสถานที่แออัด เพื่อป้องกันเรื่องการถูกล้วงกระเป๋าจากมิจฉาชีพ และการไปเบียดเสียดกับคนอื่น รวมทั้งขอให้ดื่มอย่างมีสติ ดื่มไม่ขับ และปฏิบัติตามคำแนะนำของเจ้าหน้าที่ หรือมาตรการรักษาความปลอดภัยของสถานที่นั้น ๆ เพื่อให้การออกมาเฉลิมฉลองเทศกาลปีใหม่ของทุกคนเป็นไปอย่างปลอดภัยและมีความสุข ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรีให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานทุกคนที่ได้สละเวลาที่ต้องอยู่กับครอบครัวมาดูแลพี่น้องประชาชนในช่วงเทศกาลปีใหม่ ที่เป็นเวลาแห่งความสุขของทุกคน ซึ่งเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง ตำรวจ ทุกภาคส่วนได้ปฏิบัติหน้าที่อย่างเต็มที่ เพื่อดูแลความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน อำนวยความสะดวกให้พี่น้องประชาชนเที่ยวงานวันขึ้นปีใหม่ 2567 อย่างมีความสุข นายสัตวแพทย์ชัย กล่าว