วันที่ 5 มกราคม 2567 ผู้สื่อข่าวรายงาน ว่า คณะพนักงานสอบสวนในคดีที่เจ้าหน้าที่รัฐมีส่วนเกี่ยวข้องกับการเรียกรับทรัพย์จากเครือข่ายเว็บไซต์พนันออนไลน์ 140 ล้านบาท นำโดยนายวัชรินทร์ ภาณุรัตน์ รองอธิบดีอัยการ สำนักงานการสอบสวน หัวหน้าชุดคณะทำงานตรวจสอบหรือกำกับการสอบสวน พร้อมด้วยพลตำรวจโท อัคราเดช พิมลศรี ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ในฐานะหัวหน้าคณะพนักงานสอบสวนชุดใหม่ แทน พลตำรวจเอกสุรเชษฐ์ หักพาล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติที่เปลี่ยนไปรับ ผิดชอบงานด้านความมั่นคงแทนด้านการสืบสวน ที่ห้องประชุม สำนักงานอัยการสูงสุด สำนักงานการสอบสวน ถนนบรมราชชนนนี 

พร้อมด้วยรองหัวหน้าพนักงานสอบสวนประกอบด้วย พลตำรวจโทจิรสันต์ แก้วแสงเอก ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 1, พลตำรวจโทกิติศักดิ์ ดุรงควิบูลย์ ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 6, พลตำรวจโทสุรพล เปรมบุตร ผู้บัญชาการ ประจำสำนักงานผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ, พลตำรวจตรีสุวัฒน์ แสงนุ่ม รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง  พล.ต.ต.นราเดช ทิพย์รักษ์ เป็นรองหัวหน้าพนักงานสืบสวนสอบสวน รองผู้บัญชาการ ตำรวจภูธรภาค 1, พล.ต.ต.ชยานนท์ มีสติ รองผู้บัญชาการ ตำรวจภูธรภาค 1, พล.ต.ต.ฉัตรชัย สุรเชษฐ์พงษ์ รองผู้บัญชาการ ตำรวจภูธรภาค 2, พล.ต.ต.มานะ อินพิทักษ์ รองผู้บัญชาการ ตำรวจภูธรภาค 2, พล.ต.ต.สุเมฆ บวรเศวตฉัตร รองจเรตำรวจ, พล.ต.ต.ยุทธนา จอนขุน ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดปทุมธานี, พล.ต.ต.วรชาติ แสนคำ ผู้บังคับการสืบสวนสอบสวน ตำรวจภูธรภาค 1, พล.ต.ต.ธีระชัย ชำนาญหมอ ผู้บังคับการสืบสวนสอบสวน ตำรวจภูธรภาค 2 โดยมี ผกก.เเละรอง ผกก.สภ.อ.คูคต เป็นเลขานุการ เเละรองเลขานุการ พร้อมด้วยทีมงานพนักงานสอบสวนที่มาจากกองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 1 จำนวน 19 คน กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลางจำนวน 20 คน เเละพนักงานสอบสวนในพื้นที่อีก 14 คน

โดยพลตำรวจตรีอัคราเดช พิมลศรี ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยภายหลังการประชุมว่า คดีมีความคืบหน้าไปมากและมีการสอบปากคำพยานเพิ่มเติมอีกหลายราย ซึ่งเป็นพยานชุดเดิมที่ก่อนหน้านี้ได้มีการเข้ามาร้องขอความเป็นธรรม และต้องจะสรุปสำนวนส่งอัยการ สำนักงานคดีปราบปรามการทุจริตภายในไม่เกิน 60 หรือ 90 วันหลังจากนี้  พร้อมยืนยันว่าไม่ได้ดำเนินการล่าช้า ซึ่งคณะพนักงานสอบสวนชุดนี้ถือว่าทำงานเร็วที่สุดแล้ว

ด้านนายภาณุรัตน์ รองอธิบดีอัยการ สำนักงานการสอบสวน กล่าวว่า อัยการมีหน้าที่เข้ามากำกับและตรวจสอบสำนวนการสอบสวนของเจ้าหน้าที่ตำรวจ เนื่องจากคดีดังกล่าวเข้าข่ายพระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการทรมานและทำให้บุคคลสูญหายฯ (พ.ร.บ.อุ้มหาย) เพื่อให้สำนวนมีความเป็นธรรมกับทั้งสองฝ่าย โดยจากการหารือในวันนี้ที่ประชุมได้ข้อสรุปว่า ในวันที่ 25 มกราคมนี้ คณะพนักงานสอบสวนในคดีจะมีการประชุมที่กองบัญชาการตำรวจภูธรภาคหนึ่งเวลา 09.00 น. เพื่อพิจารณาการแจ้งข้อกล่าวหาตาม  พ.ร.บ.อุ้มหายฯ และดำเนินคดีกับเจ้าหน้าที่และพลเรือนเพิ่มเติม  

จากนั้นพนักงานสอบสวนจะออกหมายเรียกให้เข้ามารับทราบข้อกล่าวหาในภายหลัง แต่ยังไม่ขอเปิดเผยว่า มีผู้ที่ถูกแจ้งข้อกล่าวหา เพิ่มอีกกี่รายและจะเป็นกลุ่มใดบ้าง เมื่อมีความชัดเจนในการแจ้งข้อกล่าวหาแล้วทางพนักงานสอบสวนก็จะสรุปสำนวนเพื่อส่งสำนักงานคดีปราบปรามการทุจริตต่อไป  
 
ทั้งนี้ ยืนยันว่า การสรุปสำนวนคดีในครั้งนี้ไม่ได้ล่าช้าเนื่องจากที่ผ่านมาติดเงื่อนไขหลายอย่าง และคณะพนักงานสอบสวนชุดใหม่ที่มีพลตำรวจโทอัคราเดชเป็นหัวหน้าชุดก็มีการตั้งคณะกรรมการสอบสวนชุดใหญ่ก็มาดูแลอย่างรอบคอบและให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย ขณะที่สำนวนการสอบสวนจากพนักงานสอบสวนชุดแรกที่มีพลตำรวจเอกสุรเชษฐ์ หักพาล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เป็นหัวหน้าคณะฯก็ได้มีการสอบปากคำ ทุกฝ่ายทั้งผู้เสียหายและผู้ที่มาร้องขอความเป็นธรรมอย่างรอบด้าน   ซึ่งการดำเนินการของคณะพนักงานสอบสวนไม่ได้มุ่งเอาผิดใคร แต่ต้องดำเนินการอย่างรอบคอบเป็นธรรมเนื่องจากผู้ถูกกล่าวหาเป็นนายตำรวจระดับสูงระดับนายพล