กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) โดย กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (บก.ปอท.) ภายใต้การอำนวยการของ พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก., พล.ต.ต.ไพบูลย์ น้อยหุ่น รอง ผบช.ก., พล.ต.ต.อธิป พงษ์ศิวาภัย ผบก.ปอท., พ.ต.อ.วัชรพันธ์ ศิริพากย์ รอง ผบก.ปอท., พ.ต.อ.เนติ วงษ์กุหลาบ รอง ผบก.ปอท., ว่าที่ พ.ต.อ.ภานุภัทร กิตติพันธ์ ผกก.1 บก.ปอท., พ.ต.ท.ภัททสักก์ ธนสุกาญจน์ รอง ผกก.1 บก.ปอท., พ.ต.ท.เอกพล แสงอรุณ รอง ผกก.1 บก.ปอท.เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุม กก.1 บก.ปอท. นำโดย พ.ต.ท.ปิยเดช แก้วแฝก, พ.ต.ท.อารัติ พายทอง, พ.ต.ท.เอกคณิต เนตรทอง, ว่าที่ พ.ต.ท.พรเสกข์ เชาวสันต์, พ.ต.ต.เริงศักดิ์ อุปลา สว.กก.1 บก.ปอท. พร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.1 บก.ปอท.ร่วมกับจับกุม นายไตรรัตน์ฯ อายุ 28 ปี ตามหมายจับศาลอาญาที่ 9/2567 ลงวันที่ 3 มกราคม 2567 ความผิดฐานฉ้อโกงประชาชน และนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ปลอมไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน หรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ผู้อื่นหรือประชาชนสถานที่จับกุม บริเวณอาคารแห่งหนึ่งในพื้นที่ เขตจอมทอง กรุงเทพมหานคร
พฤติการณ์ เมื่อวันที่ 28 พฤศจิกายน 2566 ผู้เสียหายรายหนึ่งได้แจ้งความผ่านระบบแจ้งความออนไลน์ จากนั้นได้นัดหมายเข้าพบพนักงานสอบสวน กก.1 บก.ปอท. เพื่อแจ้งว่า เมื่อวันที่ 24 สิงหาคม 2566 ผู้เสียหาย พบบัญชีเฟซบุ๊กชื่อบัญชี “Thithut ...” โพสต์ขายโช้ครถจักรยานยนต์ ในราคา 7,500 บาท ผู้เสียหายจึงสนใจซื้อโช้คดังกล่าว โดยได้เงินไปยังบัญชีพร้อมเพย์ของนายไตรรัตน์ฯ ซึ่งผู้ใช้บัญชีเฟซบุ๊กดังกล่าว แจ้งว่าจะจัดส่งสินค้าภายใน 2 วัน ต่อมาเมื่อวันที่ 26 สิงหาคม 2566 ผู้เสียหายจึงติดต่อไปยังผู้ใช้บัญชีเฟซบุ๊กดังกล่าว แต่ปรากฏว่าได้มีการบายเบี่ยงเรื่อยมาจนกระทั่ง ในวันเดียวกัน เวลาประมาณ 19.33 น. ผู้ใช้บัญชีเฟซบุ๊กดังกล่าว ได้มีการบล็อกผู้เสียหาย ผู้เสียหายจึงเชื่อว่าถูกผู้ใช้บัญชีเฟสบุ๊คดังกล่าวหลอกลวง จึงมาพบพนักงานสอบสวน กก.1 บก.ปอท. เพื่อดำเนินคดีกับคนร้ายที่หลอกลวงผู้เสียหายจนกว่าคดีจะถึงที่สุด ตรวจสอบเพิ่มเติมพบว่า ผู้ต้องหามีพฤติการณ์ copy รูป จาก ผู้ขายรายอื่นแล้วนำมา โพสขายในออนไลน์
ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.1 บก.ปอท. ได้สืบสวนรวบรวมพยานหลักฐานจนนำไปสู่การขอศาลอาญาอนุมัติหมายจับ และดำเนินการจับกุม นายไตรรัตน์ฯ จากการตรวจสอบพบผู้เสียหายในระบบแจ้งความออนไลน์ THAIPOLICEONLINE.COM กว่า 10 ราย และพบผู้เสียหายแจ้งเบาะแสในเว็บไซต์ blacklistseller.com 19 ราย โดยมีลักษณะแผนประทุษกรรมเดียวกัน พบเงินหมุนเวียนในบัญชีหลายแสนบาท
สอบถามคำให้การผู้ต้องหาเบื้องต้น รับสารภาพ โดยก่อคดีลักษณะดังกล่าวมากว่า 2 ปี และได้นำเงินที่ได้จากการโกงไปใช้ในชีวิตประจำวัน และคืนให้ผู้เสียหายหลายคนที่ได้แจ้งความเพื่อให้ถอนแจ้งความ
ข้อสังเกต รู้เท่าทันมิจฉาชีพ
1. ซื้อสินค้าจากแหล่งซื้อขายที่มีความน่าเชื่อถือ
2. เช็คเครดิต ตรวจสอบรีวิว จากลูกค้าคนอื่นๆ
3. ตรวจสอบผู้ขายกับเว็บไซต์ตรวจสอบข้อมูลมิจฉาชีพ เช่น blacklistseller.com