จากกรณีที่หญิงสาวรายหนึ่งร้องเพจสายไหมต้องรอดหลังโดนผู้ก่อเหตุอ้างป่วยซึมเศร้าทำร้ายร่างกายตบตีกระชากหัว ทั้งที่อุ้มลูกวัย8 เดือนอยู่ด้วย จนลูกโดนตบไปด้วย เมื่อวันที่7ม.ค.ที่ผ่านมา

วันที่ 10 ม.ค.67 น.ส.วิภาพร  ผู้บาดเจ็บ กล่าวว่า ตนพาลูกไปซื้อของที่ห้างแล้วมีผู้หญิงคนหนึ่งตั้งใจจะเดินมาชนตั้งแต่แรก ตอนนั้นตนพยายามเอี้ยวตัวหลบ เพื่อไม่ให้โดนลูก จากนั้นตนคิดว่าเดินผ่านไปแล้วจะไม่มีเรื่องอะไร แต่เขาเดินกลับมาแล้วกระชาก ตอนนั้นตนก็ร้องไห้พนักงานช่วยพอพนักงานช่วยเขาก็อาศัยช่วงชุลมุนตบลูกของตน ซึ่งวัยเพียง 8 เดือน โดนตบที่หัวและตนก็โดนจิกหัวและโดนตบ  ซึ่งก่อนหน้านี้ไม่เคยมีปัญหากันมาก่อนไม่เคยรู้จักกันมาก่อนเลย

จากนั้นคนก่อเหตุก็ไม่ได้พูดอะไร ตนจึงได้บอกว่าจะขอกล้องวงจรปิดไปแจ้งความเขาก็บอกว่าแจ้งเลย เพราะเขาเป็นโรคซึมเศร้าเขามีใบรับรองแพทย์จะแจ้งความจับเขาก็เอาเลย แล้วก็เดินออกไป

โดยคนก่อเหตุอายุประมาณ 30 กว่าปี เป็นผู้หญิงดูเหมือนคนปกติทั่วไป เพราะจากการแต่งตัวและอีกอย่างคือเขาสามารถโต้ตอบตนได้ถ้าเขาซึมเศร้าหรือมีภาวะทางจิตเขาก็น่าจะไม่โต้ตอบแบบนี้

หลังจากนั้นตนได้ไปแจ้งความ  และทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้จับกุมตัวผู้หญิงคนก่อเหตุได้แล้ว และได้นำตัวไปส่งที่โรงพยาบาลศรีธัญญาเพื่อเช็คว่าป่วยจริงหรือไม่ ในเบื้องตนคุยกับญาติแล้วญาติแจ้งว่าเขาป่วยมานานแล้วประมาณ7ปี กินยามาตลอด แต่เมื่อถามว่าทำไมไม่ให้คนป่วยอยู่ตามโรงพยาบาล ก็ตอบว่าเคยให้ไปแล้วแต่ทางหมอวินิจฉัยว่าสามารถใช้ชีวิตร่วมกับคนอื่นได้จึงได้ปล่อยออกมา  ซึ่งหลังจากนี้ญาติเขาก็จะรับผิดชอบค่าเสียหายอีกรอบ

เมื่อเจอเหตุการณ์แบบนี้ตนมองว่าญาติควรจะดูแลบุตรหลานเขาให้ดีกว่านี้วันนี้ ตนโชคดีที่ว่าเขาไม่มีอาวุธ ตนกับลูกจึงเจ็บเพียงเล็กน้อย แต่ถ้าเขามีอาวุธหรือเขาทำร้ายอาจจะหนักกว่านี้ และไม่สามารถเอาผิดได้ก็ทำให้ตนหวาดระแวงมากตอนนี้ ส่วนทางด้านห้างที่เป็นพื้นที่ก่อเหตุก็ยังไม่ได้ติดต่ออะไรมาหาตนและยังไม่ได้แสดงความรับผิดชอบอะไร

ด้านนายเอกภพ  เหลืองประเสริฐ  ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ผู้ก่อตั้งเพจสายไหมต้องรอด  กล่าวว่า ตนได้ประสานผู้กำกับสน. โชคชัย แล้ว ตนมองว่าถึงแม้เขาจะเคยรักษาตัว และเมื่อคุณหมอวินิจฉัยว่าเขาสามารถกลับมาใช้ชีวิตในสังคมได้ เขาก็ต้องถูกดำเนินคดี และเบื้องต้นพนักงานสอบสวนเตรียมแจ้งข้อหาทำร้ายร่างกายไว้แล้ว แต่ว่าการเอาผิดกับคนที่มีพฤติกรรมแบบนี้ต้องให้คุณหมอยืนยันกลับมาว่าเขามีสภาพจิตปกติถึงจะสามารถยืนยันและดำเนินคดีทางอาญาได้ เพราะถ้าเขาจิตไม่ปกติจะไม่สามารถดำเนินการกับเขาได้ และอยากให้ทางซุปเปอร์มาร์เก็ตเข้ามาเยียวยาผู้เสียหายเพราะเขาเป็นลูกค้าและถูกกระทำในลักษณะแบบนี้ในห้างของท่าน ก็คงจะหนีไม่พ้นเรื่องของการรับผิดชอบ 

ทั้งนี้ ตนมองว่าการปล่อยให้บุคคลมีอาการลักษณะแบบนี้ออกมาใช้ชีวิตทั่วไปปกติ  ต้องมีคนรับผิดชอบถ้าเขาไม่สามารถรับผิดชอบได้ ก็ต้องเอาผิดกับทางญาติที่เกี่ยวข้อง อย่างเคสนี้เกิดคำถามว่าทุกวันนี้เราเดินในสังคมเราเดินร่วมกับคนป่วยแบบนี้หรือไม่ เข้าใจว่าคนป่วยมันควบคุมตัวเองไม่ได้แต่เขาควรจะอยู่ในสถานที่หรือสถานพยาบาล และทางครอบครัว ถ้าท่านมีสมาชิกครอบครัวที่มีลักษณะแบบนี้ และให้ออกคนมาเดียวหรือถ้าเกิดออกมาต้องคนดูแลออกมา  ต้องมีครอบครัวออกมาด้วยเพื่อไม่ให้เกิดอันตราย