วันที่ 10 ม.ค.67 เวลา 11.00 น.ผู้สื่อข่าวรายงาน ว่า ที่เพจสายไหมต้องรอด มีผู้เสียหายจากกรณีภรรยาเพิ่งคลอดลูกได้ 2 สัปดาห์ถูกสามีทาสยานรกทำร้ายปางตาย ไปแจ้งความตำรวจบอกเป็นเรื่องในครอบครัวให้กลับไปคุยกัน ภรรยาเห็นข่าวนายโบ้ ทำร้ายแฟนจนตาย จึงกลัวว่าตนเองจะเป็นแบบนั้น จึงตัดสินใจมาร้องขอความช่วยเหลือมจากนายเอกภพ เหลืองประเสริฐ ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ผู้ก่อตั้งเพจสายไหมต้องรอด
โดย นางสาววทันยา อายุ 25 ปี ผู้บาดเจ็บ กล่าวว่าตนคบกับแฟนมา4-5ปี เคยแยกกันอยู่แล้วรอบหนึ่ง เนื่องจากเขาเสพยาและมักจะทำร้ายร่างกาย แต่เขาก็ไปตามกลับมาอีก และก็มาก่อเหตุซ้ำเมื่อวานนี้ ตนโดนสามีทำร้าย เอาจานตีหัว ต่อยหน้า2ครั้ง ที่ตาและตามตัว ซึ่งตนมีลูกกับเขา2คน อายุ2ขวบ และคนเล็กเพิ่งคลอดได้2สัปดาห์ ส่วนสาเหตุคือ เขาเพิ่งตื่นมาหลังจากเสพยาในช่วงกลางคืน และโมโหที่ตนไม่ยอมลุกไปหาข้าวให้กิน
ในตอนนี้ตนก็กลัวมาก ทั้งอ้อนวอน ขอร้อง แต่เขาก็ไม่ฟังโชคดีพี่สาวตนเองเข้ามาช่วยไว้ทันแต่ก็เกือบจะโดนทำร้ายเหมือนกัน ขณะที่สามีเป็นคนโมโหง่าย ทุกครั้งที่คลั่งยาจะโมโหและจะเข้าร้ายลยไม่สนใจใคร เขาเสพยามาตลอด ถ้าวันไหนไม่ได้เสพก็จะทำร้ายร่างกาย คนใกล้ชิดทุกคนโดน แม้กระทั่งแม่ของเขาเองยังเคยโดน ซึ่งหลังจากนั้นตนเองโดนทำร้ายก็ไปแจ้งความตำรวจ แต่ตำรวจก็ไม่สนใจ โทรแจ้งไปก็ไม่มาดูเลย จึงได้รีบขนของพาลูกออกมาเช่าห้องอยู่ข้างนอกเพราะเขายังอยู่บ้านเนื่องจากตำรวจไม่จับ
ด้านน้องสาวของตนเองก็โดนต่อย ทำร้ายร่างกาย และเคยแจ้งความแล้ว แต่ตำรวจบอกว่าไม่ถึงขั้นนอนโรงพยาบาลหรือเข้าไอซียู ก็เลยไม่มีการจับกุมอะไร ในวันนี้ที่มาร้องเพจสายไหมต้องรอด เพราะตนรู้สึกไม่ปลอดภัย อีกทั้งตำรวจไม่สามารถมาช่วยเหลือได้เลย โดยแจ้งความมาแล้ว10กว่าครั้งก็ไม่ได้รับการแก้ไข
ทั้งนี้ นายเอกภพ เหลืองประเสริฐ ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ผู้ก่อตั้งเพจสายไหมต้องรอด กล่าวว่า เคสนี้ได้ไปแจ้งความที่สน. บางยี่เรือ เจ้าหน้าที่ตำรวจก็ทำเรื่อง แต่บอกว่าเป็นเรื่องของครอบครัวให้ไปคุยกันเอง ซึ่งตัวผู้เสียหายคิดว่าถ้าปล่อยไว้แบบนี้ เขาอาจจะตายได้ ถ้าไม่ได้ดำเนินการอะไรเลย จึงอยากให้ช่วยประสานเจ้าหน้าที่ตำรวจ อยากให้ตัวผู้ก่อเหตุ ถึงแม้จะเป็นสามีก็ต้องดำเนินคดีในส่วนที่เกี่ยวข้อง เนื่องจากอาการหลอนยาเกิดขึ้นได้ทุกวัน เมื่อวานนี้หัวแตกวันนี้อาจจะเอามีดปาดคอก็ได้ ดังนั้นจึงอยากฝากผู้กำกับสน. บางยี่เรือ ให้เอาตัวผู้ก่อเหตุมากระทำความผิดหลายครั้งซ้ำๆ ดีกว่ารอให้เขาก่อเหตุสลดถึงแก่ความตาย