ศาลอาญาอนุมัติหมายจับ "หลี่ เซิ่งเจียว" หรือ"เฮียเก้า" น้องชายต่างมารดานักการเมืองชื่อดัง ปมคดีหมูเถื่อนพร้อมสมุน อ่วม! หลายข้อหา ด้าน"ดีเอสไอ"บุกค้น 5 เป้าหมาย บริษัทชิปปิ้งเอกชนและห้องเย็นโยงขบวนการลักลอบนำเข้าหมูเถื่อน แจ้งข้อหาหนักผิดพ.ร.บ.ศุลกากร-พ.ร.บ.ปศุสัตว์-อั้งยี่ซ่องโจร-ฟอกเงิน

 เมื่อช่วงเช้าของวันที่ 11 ม.ค.67 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พนักงานสอบสวน กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) นำหมายค้นเข้าตรวจค้น 5 เป้าหมาย ทั้งบริษัทชิปปิ้งเอกชน และห้องเย็นในพื้นที่ท่าข้าม เขตบางขุนเทียน กรุงเทพฯ เพื่อตรวจหาหลักฐานสำคัญและบุคคลที่เกี่ยวข้องกับการลักลอบนำเข้าหมูเถื่อน หลังจากก่อนหน้านี้ดีเอสไอได้สอบปากคำพยานที่เกี่ยวข้องจำนวน 4 ปาก ในคดีพิเศษ 127/2566 การลักลอบนำเข้าหมูเถื่อน กว่า 10,000 ตู้คอนเทนเนอร์ มูลค่าเสียหายกว่า 6,000-7,000 ล้านบาท ก่อนหน้านี้ พ.ต.ต.ณฐพล ดิษยธรรม ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้านคดีคุ้มครองผู้บริโภคและสิ่งแวดล้อม ดีเอสไอ เปิดเผยว่า ขบวนการลักลอบนำเข้าหมูเถื่อนมี เฮีย ก น้องชายของนักการเมืองชื่อดัง เป็นผู้มีบทบาทสำคัญในการดำเนินการ โดยนักการเมืองจะเป็นผู้คุมนโยบาย ส่วนข้าราชการประจำที่เข้าไปมีส่วนเกี่ยวข้องในการนำเข้า หมู ไก่ จะเป็นระดับ"บิ๊ก" หรือเป็นระดับผู้ใหญ่ในกระทรวงฯ จะเปิดไฟเขียวให้มีการนำเข้าสินค้าแช่แข็ง ประเภท ตีนไก่ โดยนำเข้ามาจากต่างประเทศเช่น บราซิล รัสเซีย สเปน เนเธอร์แลนด์ แล้วนำมาสวมสิทธิในไทย ก่อนจะส่งออกไปขายที่จีน

 การสอบสวนของพนักงานสอบสวน ระบุว่า เฮีย ก กับพรรคพวก และกลุ่มคนจีน 2 คน ได้ร่วมกันทำธุรกิจนำเข้า-ส่งออกสินค้าการเกษตรประเภท ไก่ เนื้อหมู และเนื้อวัว แต่ช่วงเกิดเหตุการณ์ดังกล่าว พบว่ามีการนำเข้าไก่ ปีกไก่ ตีนไก่ จากบราซิลและอุรุกวัยจำนวนมาก หลังสินค้าดังกล่าวถูกส่งมาถึงท่าเรือแหลมฉบังและท่าเรือคลองเตย ก็จะเข้าสู่ขบวนการ โดยจะมีตัวแทนของบริษัทชิปปิ้งร่วมกับเจ้าหน้าที่รัฐที่ทำหน้าที่ตรวจสอบสำแดงเอกสารเท็จ ประทับตราในเอกสารเพื่อยืนยัน เปลี่ยนจากตีนไก่เป็นปลาแซลมอน หรือเป็นโพลิเมอร์ เพื่อหลีกเลี่ยงภาษี
 
รายงานข่าวจากดีเอสไอ เปิดเผยรายชื่อ 4 บุคคลที่ถูกหมายจับศาลอาญา ประกอบด้วย นายหลี่ เซิ่งเจียว หรือเฮียเก้า น้องชายต่างมารดานักการเมืองชื่อดัง และในฐานะนายกสมาคมการค้าแลกเปลี่ยนเศรษฐกิจไทยเอเชีย, นายหยาง ยา ซุง, นายกรินทร์ ปิยพรไพบูลย์ ลูกชายของนายหลี่ และน.ส.นวพร เชาว์วัย ฝ่ายบริหารจัดการด้านบัญชีของนายหลี่ ในข้อหาผิดพ.ร.บ.ศุลกากร พ.ร.บ.ปศุสัตว์ อั้งยี่ซ่องโจร และฟอกเงิน