วันที่ 14 ม.ค.67 ที่ วัดบางกระเจ็ด ตำบลบางกระเจ็ด อ.บางคล้า จ.ฉะเชิงเทรา นางนวลศรี   อายุ 67 ปี ครูบำนาญ อาจารย์ 2 ระดับ 7 โรงเรียนใน  ตำบลหัวไทร  อำเภอบางคล้า  จังหวัดฉะเชิงเทรา พร้อมด้วยนายนิติภูมิ  อายุ 34 ปี(บุตรชาย) น.ส.สุพรรณี อายุ 29 ปี(บุตรสาว) และ นายสมโภช อายุ  70  ปี (พี่ชาย)ร้องขอความเป็นธรรมผ่าน จ่าคิงส์ แตงทิม สะพานใหม่ อดีต สห.ทอ. วิงวอนขอความเมตตาฝากไปถึง ป้าแจ๋ว  พี่สาวแท้ๆ อายุ 76 ปี ขอคืนที่ดิน 7 ไร่ที่แม่แบ่งให้ลูกๆ แต่ละคน ตั้งแต่สมัยที่ยังมีชีวิตอยู่ ก่อนนำไปโอนเปลี่ยนเป็นชื่อของพี่สาวเพียงคนเดียว หลังงานศพแม่เสร็จทวงถามที่ดินดังกล่าว พี่สาวบอกอยากได้ให้ไปฟ้องเอาเอง

โดย ครูนวลศรี กล่าวถึงกรรมสิทธิ์ที่ดินที่คุณแม่แบ่งให้ลูกๆ แต่ละคน ซึ่งทุกคนไม่มีปัญหา ยกเว้นส่วนที่ตนควรได้รับแต่กลับไปเป็นของพี่สาว ว่า ตนมีคุณพ่อชื่อนายละมูล   คุณแม่ชื่อนางจำนงค์  เสียชีวิตไปหมดแล้ว มีพี่น้องทั้งหมด 7 คน เสียชีวิตไปหนึ่งคน วันนี้ได้พาลูกทั้งสองและชวนพี่ชาย มากราบไหว้อัฐิ ท่านทั้งสอง ที่เก็บบรรจุไว้ที่กำแพงหน้าโบสถ์วัดบางกระเจ็ด แห่งนี้ 

ทั้งนี้เมื่อประมาณปี พ.ศ 2542 คุณแม่จำนงค์ คุณพ่อละมูลได้แบ่งทรัพย์ซึ่งเป็นที่ดินให้ลูกๆ แต่ละคน โดยให้ลูก 3 คนแรก และน้องอีก 2 คน ได้เป็นที่เรียบร้อยแล้วจำนวนคนละ 20 ไร่  น้องๆ อีก 2 คน ที่เรียนหนังสือ ได้คนละ 7 ไร่ ซึ่งพี่น้อง 5 คนนี้ ได้แบ่งที่เป็นที่เรียบร้อยแล้ว ส่วนป้าแจ๋ว  พี่สาวได้ที่สวน จำนวน 14 ไร่ ที่แม่แบ่งให้พี่ๆ มากกว่าเพราะพี่ๆ เขาไม่มีโอกาสได้เรียนหนังสือเหมือนน้อง จะต้องช่วยทางบ้านทำไร่ทำสวน โดยแม่แบ่งทรัพย์ที่ดิน 2 คนนี้ ด้วยวาจา ไม่ได้ทำเป็นลายลักษณ์อักษรแต่อย่างใด พี่น้องคนอื่นได้ที่ดินก็ไปโอนกรรมสิทธิ์เปลี่ยนเป็นชื่อของแต่ละคนเรียบร้อยแล้ว

ส่วนของตนเป็นที่ดินโฉนดเลขที่ 4878 ต.บางกระดาน อ.บางคล้า ฉะเชิงเทรา ซึ่งเป็นแปลงเดียวกันกับป้าแจ๋ว โดยคุณแม่สั่งให้แบ่งที่ดินแปลงนี้จำนวน 7 ไร่ ให้ตน ส่วนพี่แจ๋วได้ 14 ไร่

ต่อมาปี 2521 ป้าแจ๋ว ได้บอกว่าจะขอเอาโฉนดที่ดินแปลงนี้ไปจำนองกับธนาคารเพื่อเอาเงินจำนวน 1 แสนบาท มาซื้อรถ 6 ล้อ เพื่อทำการค้าขาย และปี 2535ได้ไถ่โฉนด และนำไปจำนอง กับ ธ.ก.ส ถึง พ.ศ 2551 เป็นเวลา 15 ปีวันไถ่โฉนด 22 ส.ค.2551 ป้าแจ๋วได้มารับแม่จำนงค์ไปธนาคาร ธ.ก.ส. เพื่อไถ่ถอนคืน ก่อนบอกแม่ว่าจะขอเพิ่มชื่อในโฉนด จะได้สะดวกในการทำนิติกรรม แต่กลับเป็นการโอนโฉนดที่ดินทั้งหมดเป็นชื่อของป้าแจ๋ว เพียงคนเดียว โดยแม่เองที่ไปด้วยก็ไม่ทราบในวันนั้น มารู้เอาภายหลัง

ต่อมาแม่เสียชีวิตเมื่อปี พ.ศ.2553 เมื่อญาติพี่น้องช่วยกันจัดงานฌาปนกิจศพคุณแม่เสร็จ รุ่งขึ้นวันเก็บอัฐิบรรจุโกฏิ ตนได้สอบถามถึงที่ดิน 7 ไร่ ถึงรู้ว่าพี่แจ๋ว โอนเป็นชื่อเขาคนเดียวเมื่อสองปีก่อนไปแล้ว คุณพ่อซึ่งอยู่ในเหตุการณ์ได้ขอร้องตามสิทธิฐานะสามีคุณแม่ ขอให้พี่แจ๋วคืนที่ 7 ไร่ให้แก่ตน แต่พี่แจ๋วบอกว่า “ถ้าอยากได้ก็ไปฟ้องร้องเอาเอง”

ตนคิดอยู่นานก่อนตัดสินใจไปปรึกษาทนายความขอเจรจาเกี่ยวกับกรรมสิทธิที่ดินในส่วนที่เป็นของตน จนสุดท้ายต้องนำเรื่องขึ้นศาล  ฟ้องศาลแพ่ง จังหวัดฉะเชิงเทรา เมื่อปี พ.ศ.2556 ศาลชั้นต้น พิพากษายกฟ้อง พ.ศ.2557 ศาลอุทธรณ์ยืนตามศาลชั้นต้น แต่ไม่ตัดสิทธิที่จะฎีกา แม้ตนจะไม่เห็นด้วยกับคำพิพากษาแต่ก็น้อมรับคำตัดสินของศาลเพราะไม่รู้ว่าจะทำอย่างไรอีกแล้ว โดย ไม่คิดที่จะฎีกาอีก

จนถึงวันนี้ชีวิตครอบครัวของตนเดือดร้อนลำบากมาก ถ้าดวงวิญญาณคุณพ่อละมูลคุณแม่จำนงค์รับรู้ก็อยากให้ท่านช่วยดลจิตดลใจพี่แจ๋ว มีจิตใจที่เมตตาให้ความรักสงสารลูกและหลานด้วยอัตคัตขัดสน ต้องกู้หนียืมสินมาทำกินเพราะเงินบำนาญครูไม่เพียงพอค่าใช้จ่ายอยากจะร้องและวิงวอนขอความเมตตาจากพี่แจ๋ว ให้เห็นใจน้องของพี่คนนี้ และสงสารหลานๆ ด้วย 

ด้าน นายนิติภูมิ และ น.ส.สุพรรณี ขอวิงวอนฝากไปถึงป้าแจ๋ว ขอคุณป๋าโปรดเมตตาคืนที่ดิน 7 ไร่ให่แก่แม่นวลศรีด้วย ทั้งคุณแม่และหลานๆ จะได้นำที่ดินตรงนี้ไปเป็นทุนต่อยอดทำมาหากิน ชีวิตครอบครัวเราจะได้ไม่ลำบากเหมือนที่เป็นอยู่ทุกวันนี้ ขอให้ดวงวิญญาณคุณตาคุณยายโปรดช่วยดลจิตดลใจให้ส่งไปถึงป๋าแจ๋วได้รับทราบด้วย

ด้าน จ่าคิงส์ กล่าวทิ้งท้ายหลังรับฟังความทุกข์ของครอบครัวนี้ ว่า ตนอยากจะฝากไปถึง“ป๋าแจ๋ว “ พี่สาวครูนวลศรี ที่ตนลงมาพื้นที่จังหวัดฉะเชิงเทราวันนี้เพราะได้รับการร้องทุกข์จากครูนวลศรี มาครั้งนี้ตนขอเป็นกลางทั้งสองฝ่าย ไม่สามารถจะบังคับใครได้ แต่ด้วยความเมตตา กรุณา จริยธรรมในสายเลือดเดียวกันที่เคยวิ่งเล่นกันมา ถ้าป้าแจ๋วได้เห็นข่าวนี้แล้วตนอยากจะสื่อสารไปถึงแจ้งให้ทราบว่า

ปัจจุบันทราบว่าป้าแจ๋วมีฐานะร่ำรวยอยู่สุขสบายดีแล้ว ส่วนน้องสาวที่เคยช่วยเหลือป้ามาก่อน เป็นครูสอนเด็กๆ ในจังหวัดฉะเชิงเทราให้มีความรู้นับเป็นคนดีของสังคม ชีวิตความเป็นอยู่ในวันนี้ก็ยากลำบากต้องกู้หนี้ยืมสินมาลงทุน จนมีความเครียดไม่สบายร้องไห้ทุกคืน ถ้าป้าแจ๋วมีความเมตตากรุณาน้องสาวในสายเลือดก็วิงวอนขอที่ดินส่วนของเขาที่ควรได้รับเถอะ เพราะแม้เขาจะพึ่งกระบวนการยุติธรรมก็แพ้คดีความในศาล แต่ข้อเท็จจริงนั้นญาติพี่น้องทุกคนรู้ดีแม้ตัวคุณป้าแจ๋วเองก็รู้อยู่แก่ใจตัวเอง ถ้าครูนวลศรีเขาได้ส่วนของเขาคืนก็จะได้นำมาใช้เป็นทุนในการทำมาหากินต่อชีวิตลูกๆ หลานของคุณป้าซึ่งชาวบ้านแถวนี้บอกว่าท่านเป็นคนดีใจบุญสุนทานมาตลอด 
 

 

#ครูบำนาญ #จ่าคิงส์ #ร้องทุกข์