กรณีนายสมฤกษ์ อิศรางกูร ณ อยุธยา หรือ “ปูเป้ ฟุตบอล 108” ผู้สื่อข่าวกีฬารุ่นใหญ่ โพสต์เฟซบุ๊กว่า ด.ช.ลมหนาว อิศรางกูร ณ อยุธยา ลูกชาย เป็นตัวแทนไปแข่งกีฬาสนุกเกอร์เยาวชนแห่งชาติ รอบคัดเลือก ก่อนจะคว้ามา 2 เหรียญทอง สร้างชื่อให้กับโรงเรียนอัสสัมชัญ แต่กลับติด 0 ในวิชาพลศึกษาและสุขศึกษาในการสอบกลางภาค

ล่าสุดเมื่อวันที่ 15 ม.ค.2567 เวลา 12.00น.ที่ รร.อัสสัมชัญ นายสมฤกษ์ อิศรางกูร ณ อยุธยา พร้อมภรรยา ผู้ปกครองน้องลมหนาว เข้าพบ ภารดา ดร.อาวุธ ศิลาเกษ ผอ.รร.อัสสัมชัญ เพื่อพูดคุยและทำความเข้าใจกับเรื่องที่เกิดขึ้น ก่อนชี้แจงกับสื่อมวลชน

นายสมฤกษ์ เผยว่า ลูกชายมีวิชาเรียนทั้งหมด 15 วิชา ช่วงสอบกลางภาคได้เข้าสอบไปแล้วทั้งหมด 13 วิชา แต่ยังเหลือวิชาพลศึกษากับสุขศึกษาที่ยังไม่ได้สอบเพราะลูกต้องไปแข่งกีฬา และได้ทำหนังสือขอตัวไปแข่งขัน ส่งไปขออนุญาตกับโรงเรียนอย่างชัดเจนแล้ว ปรากฎว่าเมื่อวันที่ 13 ม.ค.ที่ผ่านมา ได้รับผลการสอบและทราบว่าผลการสอบติดศูนย์ น้องลมหนาวกับครอบครัวก็รู้สึกงง วันนี้จึงมาพบกับผู้อำนวยการโรงเรียนและได้รับการชี้แจงที่ชัดเจนแล้ว จึงไม่ติดใจอะไรอีก

มาสเตอร์โสภณ สกุลเรือง หัวหน้างานประชาสัมพันธ์ของโรงเรียน ชี้แจงว่า โรงเรียนขอแสดงความเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น จึงหารือกับผู้ปกครองกระทั่งได้ข้อสรุปว่า คะแนนที่ผู้ปกครองได้รับ เป็นคะแนนสอบกลางภาค ไม่ใช่เกรด และโรงเรียนพบข้อผิดพลาดของระบบการลงคะแนนผ่านคอมพิวเตอร์ว่า แท้จริงแล้วการลงข้อมูลในคอมพิวเตอร์ดังกล่าว ไม่จำเป็นต้องระบุเป็นเพียงตัวเลขเท่านั้น แต่สามารถระบุสาเหตุอื่นได้เช่น ยังไม่ได้สอบหรือเหตุผลอื่นๆ ทั้งนี้ การลงคะแนนดังกล่าวมีระยะเวลาที่กำหยดไว้ ทำให้ครูต้องรีบกรอกข้อมูลจึงอาจเกิดข้อบกพร่องขึ้นได้ จึงมอบหมายให้ครูประจำชั้น ดูแลนักเรียนเป็นรายบุคคลไม่เพียงแต่ให้ครูประจำวิชาคอยดูแลเท่านั้น แต่ขณะนี้โรงเรียนยังไม่ได้พูดคุยกับครูประจำวิชาดังกล่าว เนื่องจากมีภารกิจส่งนักเรียนไปแข่งขันวอลเลย์บอลที่ต่างจังหวัด และหลังจากนี้จะนัดหมายน้องลมหนาวเข้ามาแก้ไขคะแนนต่อ

มาสเตอร์โสภณ กล่าวอีกว่า โรงเรียนมีแนวทางการส่งเสริมนักเรียนในด้านกีฬา ดนตรีและอื่นๆ ไม่ว่าจะเป็นในระดับใด จะมีคะแนนให้เพิ่มเติมตามเกณฑ์ของโรงเรียนที่สนับสนุนนักเรียนที่สร้างชื่อเสียงในด้านต่างๆ