วันที่ 18 ม.ค.2567 เวลา 10.00 น. ที่ ศูนย์รับแจ้งความกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง พหลโยธิน จตุจักร กทม นายพิสุทธิ์ กับเพื่อนอีก 1 คน เป็นตัวแทนผู้เสียหายจำนวน 13 คน กรณีถูกขบวนการหลอกรับจำนำรถติดไฟแนนซ์ รวมมุลค่าความเสียหายกว่า 15 ล้านบาท จะเดินทางไปยื่นหนังสือร้องทุกข์ต่อ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เพื่อให้ช่วยเหลือเร่งรัดคดี
นายพิสุทธิ์ กล่าวว่า ต้นเดือน ธ.ค. ที่ผ่านมา คุณแม่ป่วย จำเป็นต้องใช้เงินรักษา ตัดสินใจนำรถยนต์โตโยต้า รีโว่ ทะเบียน 2 ฒท 145 กทม. ที่เช่าซื้อผ่อนชำระอยู่ ใช้งานมาแล้ว 5 ปี ไปวางกู้เงินจาก“ศรีสวัสดิ์เงินสดทันใจ”แต่จะต้องรออนุมัติ 3 วัน ถึงจะได้เงินจึงไปค้นหาดูในเฟซบุ๊ก พบว่าบัญชี“บริษัททรัพย์มั่งมี รับจำนำ”(รถยนต์แบบจอด) ซึ่งระบุว่าอยู่ในพื้นที่จังหวัดนครปฐมที่ตนอาศัยอยู่ จึงติดต่อขอกู้เงินตามที่เขาโฆษณารับจำนำรถ ดอกเบี้ยต่ำ จำนำง่าย ,ไม่มีค่าเอกสาร ค่าดำเนินการ ,รถไม่ใช่ชื่อตนเอง ,ค้างค่างวด ติดไฟแนนซ์ ,ที่จอดปลอดภัย ไถ่ถอนได้
โดยตกลงทำสัญญาจำนำรถยนต์ ในราคา 6 หมื่นบาท นัดส่งมอบรถกันที่ปั๊ม ปตท. ข้างฟาร์มจระเข้ จ.นครปฐม ในวันที่ 6 ธ.ค.66 โดยแจ้งว่าบุคคลที่มารับรถจะปกปิดใบหน้า เมื่อถึงวันเวลานัดหมายก็มีคนเอาเงินจำนวน 6 หมื่นบาทมาให้แล้วรับรถและเอกสารต่างๆ รวมทั้งสำเนาบัตรประชาชนตนไปด้วย
ต่อมาตนพยายามจะไถ่ถอนรถคืนแต่กลับติดต่อบริษัทฯ ดังกล่าวไม่ได้เลย เริ่มหาข้อมูลจนวันที่ 26 ธ.ค.66 จึงทราบว่าบริษัทดังกล่าวและบุคคลที่มารับรถไม่มีอยู่จริง เชื่อว่าน่าจะเป็นมิจฉาชีพ เพราะจากการตรวจสอบพบว่าบุคคลที่มารับรถยนต์ของตนไปได้ใช้บัตรประชาชนของลูกค้าคนอื่นมาทำสัญญา จึงเกรงว่าเอกสารข้อมูลส่วนตัวของข้าพเจ้าจะถูกมิจฉาชีพกลุ่มนี้นำไปใช้ในการกระทำผิดหรือนำไปใช้หลอกลวงผู้อื่นต่อไปอีก
ก่อนจะติดต่อรวบรวมผู้เสียหายที่จำนำรถกับบริษัทฯ นี้ได้อีก 13 คน ในหลายพื้นที่ เช่น จ.สมุทรปราการ จ.ชลบุรี จ.อ่างทอง จ.เพชรบูรณ์ จ.นครปฐม จ.พระนครศรีอยุธยา เชื่อว่าคนร้ายทำกันเป็นขบวนการ แบ่งหน้าที่กันทำ ตั้งแต่การโฆษณา ให้ประชาชนโดยทั่วไปนำรถในครอบครองมาจำนำในอัตราดอกเบี้ยตั้งแต่ 5 -10 เปอร์เซ็นต์ แม้จะติดสัญญาการเช่าซื้อจากผู้อื่น โดยอ้างว่าจะเก็บรักษารถไว้เป็นอย่างดี เมื่อผู้เสียหายหลงเชื่อ ก็จะนัดรับรถในสถานที่ต่างๆไม่ซ้ำกัน และนำเงินค่าจำนำรถมอบให้กับผู้เสียหายคันละ 20,000- 150,000 บาท พอครบกำหนดไถ่ถอนจะบ่ายเบี่ยง สุดท้ายเชิดรถหนีไป ปัจจุบันเพจดังกล่าวมีผู้ติดตามกว่า 1 หมื่นคนและยังมีการเปิดบริการรับจำนำรถยนต์อยู่ เกรงว่าจะมีผู้เสียหายเพิ่มขึ้นอีก
เบื้องต้นพนักงานสอบสวนสอบปากคำผู้เสียหายเพื่อดำเนินการหาทางช่วยเหลือติดตามรถคืนต่อไป