วันที่ 23 ม.ค.2567 เมื่อเวลา 09.00 น. ที่ศูนย์ราชการจังหวัดระนอง นายสุทิน คลังแสง รมว.กลาโหม ให้สัมภาษณ์ถึงการตั้งคณะกรรมการศึกษา เรื่องการจัดซื้อเรือดำน้ำ หลังจากสำนักงานอัยการสูงสุด (อสส.) ได้ส่งคำตอบถึงกองทัพเรือแล้ว ว่า เมื่อสำนักงานอัยการสูงสุดส่งตอบกลับมา ทำให้เราพอทราบแนวทางและได้ข้อสรุปที่เป็นประโยชน์กับกองทัพ ประเทศ และประชาชน จึงคิดว่าการตั้งคณะกรรมการศึกษาฯจะเป็นเรื่องที่ดีที่มีหลายคนมาช่วยกันคิด โดยคณะกรรมการชุดนี้มีกรรมการ 13-15 คน จากหลายฝ่าย ซึ่งจะมาจากหลายฝ่ายโดยมี พล.อ.สมศักดิ์ รุ่งสิตา ที่ปรึกษารมว.กลาโหม เป็นประธาน นอกจากนี้ จะมีนายยุทธพงศ์ จรัสเสถียร ที่ปรึกษานายกรัฐมนตรีและเป็นผู้ที่สนใจเรื่องนี้มานาน สามารถนำข้อมูลไปรายงานให้นายกรัฐมนตรีทราบได้ และยังมีตัวแทนจากสถาบันวิชาการป้องกันประเทศ อัยการสูงสุด (อสส.) กองทัพเรือ คาดว่าจะเป็นผู้บัญชาการทหารเรือ ตัวแทนจากกระทรวงการคลัง ที่จะมาช่วยดูเรื่องการเงินและงบประมาณ เพื่อให้เกิดความคุ้มค่าและเกิดประโยชน์ นอกจากนี้เราได้เชิญตัวแทนจากฝ่ายค้านคือนายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร หรือนายรังสิมันต์ โรม สส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล คนใดคนหนึ่งมาร่วมด้วย ตนจะลงนามคำสั่งแต่งตั้งคณะกรรมการชุดดังกล่าวในวันที่ 24 ม.ค.นี้ 

ผู้สื่อข่าวถามว่า อสส.ได้ตอบคำถามมาของกองทัพอย่างไรบ้าง นายสุทิน กล่าวว่า จะมีการเปลี่ยนแปลงก็ได้ โดยให้ออกเป็นมติคณะรัฐมนตรี จึงจะใช้เป็นเรือดำน้ำจากประเทศจีน หรือจะใช้เรือยี่ห้ออื่น หรือจะข้ามไปเป็นใช้เรือฟริเกตก็ได้ โดยต้องออกเป็นมติครม. ดังนั้น คณะกรรมการที่ศึกษาเสร็จแล้ว จะต้องเสนอรายงานต่อรมว.กลาโหม ก่อนที่รมว.กลาโหม จะเสนอครม.พิจารณา โดยคณะกรรมการชุดนี้จะมีเวลาศึกษา 30 วัน

เมื่อถามว่า เมื่อมีการศึกษาแล้ว และผ่านที่ประชุมครม.จะสามารถดำเนินการให้จบและเห็นความชัดเจนได้ภายใน 2 เดือน หรือไม่นายสุทิน กล่าวว่า ถ้าศึกษาเสร็จภายใน 1 เดือน จากนั้นคงใช้เวลาไม่นาน ภายใน 2 เดือนก็น่าจะเห็นแนวทาง

เมื่อถามว่า นอกจากพรรคก้าวไกลแล้ว จะเปิดโอกาสให้ตัวแทนพรรคร่วมฝ่ายค้านอื่น ส่งตัวแทนมาร่วมได้หรือไม่ นายสุทิน กล่าวว่าก็ให้ส่งมา แต่คิดว่าตัวแทนจากพรรคก้าวไกลก็น่าจะเพียงพอ เพราะเขามีความสนใจเรื่องนี้อยู่

เมื่อถามอีกว่า นายวิโรจน์ ได้ตอบรับที่จะเข้าร่วมคณะกรรมการชุดนี้แล้วหรือไม่ นายสุทิน กล่าวว่า เชื่อว่า ไม่น่าจะมีปัญหา