เมื่อเวลา 14.15 น. วันที่ 24 ม.ค.67 พล.ต.ท.สำราญ นวลมา ผู้ช่วย ผบ.ตร. พร้อมด้วย พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผบช.น. พล.ต.ต.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รองผบช.น. พล.ต.ต.ประสาธน์ เขมะประสิทธิ์ ผบก.ตม.1 พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.บช.น.ร่วมกันสนธิกำลังเจ้าหน้าที่ บก.น. 6 ชุดสืบสวนนครบาล และ ตำรวจตรวจคนเข้าเมือง ระดมปล่อยแถวตรวจค้นกลุ่มแรงงานต่างด้าวผิดกฎหมาย ย่านสีลม กทม. จากกรณีชายชาวอินเดีย ก่อเหตุฆาตกรรมหั่นศพชาวเมียนมาร์ยัดตู้แช่แข็ง ย่านสะแกงาม เมื่อวันที่ (21 ม.ค.)

ที่เกิดเหตุเป็นอพาร์ทเม้นแห่งหนึ่ง ปลูกติดกัน 2 หลัง ความสูง 5 ชั้น โดยมีกลุ่มแรงงานชาวเมียนมาอาศัยอยู่ในจำนวนมาก โดยทางเจ้าหน้าที่ร่วมกันตรวจสอบหาแรงงานผิดกฎหมาย ซึ่งจากการตรวจสอบไม่พบว่า มีการเข้ามาโดยผิดกฎหมายแต่อย่างใด นอกจากนี้พบมีจำนวน 1 คนทราบชื่อคือ นายเทน อายุ 32 ปี สัญชาติเมียนมา เป็นผู้เกี่ยวข้องในกับนายอะซีจี อายุ 45 ปี ชาวเมียนมา ผู้เสียชีวิตจากคดีถูกชายชาวอินเดีย ฆ่าหั่นศพยัดตู้แช่ ย่านสะแกงาม โดยนายเทน มีการพาผู้ตาย และเพื่อนแรงงานเมียนมา อีก 2 คนมาพักอาศัยอยู่อพาร์ทเม้นแห่งนี้ จึงถูกเจ้าหน้าที่ควบคุมตัวไปดำเนินคดี

พล.ต.ท.สำราญ กล่าวว่า วันนี้ได้ร่วมบูรณาการระหว่าง บก.น.9,บก.น.6 และ บก.สตม. ตรวจบุคคลต่างด้าวหลบหนีเข้ามาในประเทศ และตรวจสอบผู้ให้ที่พักพิงเเก่ บุคคลต่างด้าวที่หลบหนีเข้ามาในประเทศอย่างผิดกฎหมาย หรือการแจ้งแหล่งที่อยู่ของ บุคคลต่างชาติ ตาม พรบ.ตรวจคนเข้าเมืองมาตรา 38 ซึ่งเจ้าของธุรกิจและเจ้าของที่พักที่มีชาวต่างชาติพักอาศัยอยู่จะต้องเเจ้งให้เจ้าหน้าที่ทราบเช่นเดียวกัน แต่เนื่องจากที่ผ่านมานั้นมีชาวต่างชาติเข้ามาพักอาศัยอยู่ในประเทศไทยเป็นจำนวนมากจึงต้องจำเป็นที่จะต้องมีการดูแลความปลอดภัยในการอยู่อาศัยของชาวต่างชาติเหล่านั้นตามนโยบายของรัฐบาล และสืบเนื่องจากกรณีแรงงานชาวเมียนมา ที่ถูกฆาตกรรมหั่นศพทาง พล.ต.ต.นพศิลป์ ก็ได้มาสืบสวนในคดีดังกล่าวด้วยเช่นกัน โดยเบื้องต้นได้ตัวผู้ต้องหาที่เกี่ยวข้อง 1 ราย 

พล.ต.ต.นพศิลป์ กล่าวว่า ในส่วนของที่พักแห่งนี้นั้น วันที่ 13 มกราคม ที่ผ่านมา ชาวเมียนมา 3 รายเดินทางมายังประเทศไทย ปรากฏว่ามีนายหน้าชาวอินเดียที่พักอาศัยอยู่ที่แห่งนี้ ได้เดินทางออกไปรับชาวเมียนมา ทั้ง 3 ราย ซึ่งในนั้นมีผู้ตายมาพักอาศัยอยู่ด้วยกัน ซึ่งนายหน้าคนดังกล่าวได้ให้พักพิงกับแรงงานชาวต่างด้าวที่เข้ามาแบบผิดกฎหมาย อยู่ในห้องของตนเองอีก จำนวน 3 ราย รวมเป็น 6 ราย จึงเป็นการให้ที่พักพิงแก่บุคคลต่างด้าวที่หลบหนีเข้ามายังในประเทศแบบผิดกฎหมาย ซึ่งวันนี้ตัวนายหน้าให้การรับสารภาพว่า เป็นผู้รับรายงานทั้ง 3 คนเข้าพักอาศัยอย่างผิดกฎหมาย โดยบอกว่าเป็นญาติหรือเพื่อนจึงพามาพักที่แห่งนี้

พล.ต.ต.นพศิลป์ กล่าวต่อว่า ในวันที่ 15 ม.ค. นายหน้าเป็นผู้ประสานงานให้กับผู้ต้องหาทั้งสองรายที่เป็นนายหน้าคือนาย GUNALAN DEIVASIGAMANI (ซีกา) อายุ 23 ปี และ นาย SUNDARAVEL PRAGADEESH KUMAR (กูมา) อายุ 26 ปี สองพี่น้องสัญชาติอินเดีย เพื่อของานทำ โดยปรากฏว่า แรงงานทั้ง 6 คนรวมถึงผู้ตายนั้นได้จ่ายค่านายหน้าให้กับผู้ต้องหาทั้ง 2 ราย คนละ 7,000 บาทรวมเป็นเงินทั้งหมด 42,000 บาท และซีกา เป็นคนมารับแรงงานจากที่นี่ไปพักที่เกิดเหตุ และเกิดเหตุฆาตรกรรมขึ้นวันที่ 19 ม.ค. ตามที่มีการรายงานข่าว ซึ่งตอนนี้กำลังประสานตำรวจต่างประเทศเพื่อออกหมายแดง เพื่อประสานงานกับสถานทูตอินเดีย ในการดำเนินการจับกุมต่อไป 

ขณะเดียวกันได้มีการให้ทางตำรวจตรวจคนเข้าเมืองคอยตรวจสอบทั้งหมดในวันนี้ว่ามีการกระทำ ผิดตาม ม.38 หรือไม่ รวมถึงเจ้าของที่พักมีการทำถูกกฎหมายหรือไม่ ให้มีการระดมกวาดล้างแรงงานผิดกฎหมาย รวมถึงนายหน้าที่เรียกรับผลประโยชน์แบบนี้ด้วย ถ้าพยานหลักฐานไปถึงใคร จะมีการดำเนินการทั้งหมด ส่วนเรื่องเหตุจูงใจ อาจจะเกิดจากการมีปากเสียงกัน เพราะผู้ตายจ่ายเงินแล้วยังไม่มีงานทำ ตรงนี้อาจะทำให้เกิดปากเสียงกันได้ พล.ต.ต.นพศิลป์ กล่าว.

เบื้องต้นทางเจ้าหน้าที่นำตัวนายเทน แจ้งข้อหา ให้ที่พักพิงบุคคลต่างด้าว โดยไม่ได้ขออนุญาตฯ ส่งพนักงานสอบสวน สน.ยานนาวา ส่วนเจ้าของอพาร์ทเม้นท์ดังกล่าว จะเข้าข่ายความผิดตามมาตรา 38 เรื่องไม่แจ้งแหล่งพักพิงแรงงานต่างด้าวให้เจ้าหน้าที่ทราบ ตาม พรบ.คนเข้าเมือง พ.ศ.2522 ก่อนประสานให้มารับทราบข้อกล่าวหาเพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป