เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 25 ม.ค.67 ที่ ศูนย์รับแจ้งความกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง พหลโยธิน จอมพล จตุจักร กทม.จ่าคิงส์ แตงทิม สะพานใหม่ อดีต สห.ทอ. พร้อมนายณัฐปกรณ์ สุดชา หรือ ทนายเจส พานางหนูพลอย (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 67 ปี  และนายบุญมา (ขอสงวนนามสกุล) บุตรชาย ซึ่งเป็นผู้เสียหาย เดินทางมาจา อําเภอเดชอุดม จังหวัดอุบลราชธานี เดินทางเข้าพบ พนักงานสอบสวนกองปราบปราม หลังถูกนายทุนโกงที่ดิน จำนวน 19 ไร่ นอกจากนี้ยังถูกฟ้องขับไล่ และคดีข้อหาบุกรุก ถูกจับไปขังที่เรือนจำกว่า 1 เดือน เมื่อปลายเดือนมกราคม 2566 

ผู้เสียหาย เล่าว่า ได้ที่ดิน 19 ไร่ มาจากแม่ตั้งแต่อายุ 12 ปี  ซึ่งเป็นที่นาและปลูกบ้านอยู่ในจุดดังกล่าว ต่อมาถูกเจ้าของที่ดินใหม่แปลงข้างเคียงมาขอซื้อที่ แต่เมื่อไม่ขาย กลับเข้ามาบุกรุก นำรถไถ่มาไถ่ที่ดิน จนหมุดหลักโฉนดหายไป รวมถึงตัดต้นไม้ขนาดใหญ่ที่ตนปลูกไว้จนหมด จนไม่เหลือสภาพที่ดินเดิม ปัจจุบันได้มีการนำรั้วมาล้อมและติดกล้องวงจรปิด จนไม่สามารถเข้าไปทำกินในพื้นที่ตนเองได้เลย จึงอยากเรียกร้องขอความเป็นธรรมให้ตำรวจกองปราบปราม ช่วยตรวจสอบกรณีที่ถูกกันแกล้ง จนตอนนี้ต้องไปอาศัยหลานอยู่ชั่วคราว

ด้านทนายเจส เปิดเผยว่า จากการลงไปตรวจสอบที่สำนักงานที่ดิน จ.อุบลราชธานี พบว่า โฉนดที่ดินของคุณยาย ยังมีข้อมูลในระบบกรมที่ดิน 19 ไร่เต็ม ซึ่งต่างสภาพกับที่ดินปัจจุบัน ไม่เหมือนเดิมไม่สามารถหาแนวเขตได้ เนื่องจากถูกรถไถทำลายจนหมด และก่อนหน้านี้เจ้าของที่ดินข้างเคียงได้นำเจ้าพนักงานบังคับคดี มาปิดหมายขับไล่  และนำเจ้าหน้าที่ตำรวจมาจับป้าหนูพลอยไปดำเนินคดีข้อหาบุกรุกที่ดินของตัวเองฝากขังที่เรือนจำจังหวัดอุบลราชธานีรวม 30 วัน ทำให้คุณป้าหนูพลอย สูญเสียอิสรภาพ และรู้สึกไม่ได้รับความเป็นธรรมที่ถูกกลั่นแกล้ง เพราะฝั่งเจ้าของที่ดินข้างจะอ้างตลอดว่ารู้จักตำรวจและข้าราชการใหญาในพื้นที่จังหวัดอุบลราชธานี

จ่าคิงส์ กล่าวว่า ตนและทนายเจส จึงต้องช่วยเหลือคุณยายพามาแจ้งความในคดีอาญาความผิดฐานบุกรุก และทำให้เสียทรัพย์ ฝากไปถึงท่านอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีมหาดไทย ด้วย ได้โปรดให้ความเป็นธรรมกับป้าหนูพลอย ที่ถูกโกงที่ดินที่อยู่อาศัยทำมาหากิน แม้เอกสารสิทธิ์เป็น นส.3 ก. ไม่ใช่โฉนดที่ดิน แต่ผู้มีกรรมสิทธื์ยังอาศัยใช้ประโยชน์อยู่กลับถูกฟ้องขับไล่และดำเนินคดีในที่ดินของตัวเอง ซ้ำติดคุกฟรีไปอีกเป็นเวลา 1 เดือน ปัจจุบันต้องไปอาศัยอยู่บ้านพี่น้องแทน ขอความกรุณาช่วยเหลือประชาชนตาดำๆ ด้วยครับ

เบื้องต้นพนักงานสอบสวน กก.3 บก.ป.สอบปากคำและตรวจสอบหลักฐานที่ผู้เสียหายนำมา ก่อนจะประสาน สภ.ท้องที่เพื่อให้ความช่วยเหลือตามกฎหมายต่อไป