เมื่อเวลา 09.25 น. วันที่ 30 ม.ค. 2567 ที่ทำเนียบรัฐบาล นายสุทิน คลังแสง รมว.กลาโหม ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีใบสำคัญทางการทหาร (ใบ สด.43) ไม่พบชื่อของนายจิรัฏฐ์ ทองสุวรรณ์ สส. ฉะเชิงเทรา พรรคก้าวไกล แต่เป็นชื่อนายนวรินทร์ว่า กองทัพบกตรวจสอบคาดว่าวันนี้กองทัพบกจะรายงานมาที่ตน ซึ่งเป็นเรื่องของเอกสารไม่มีใครบิดเบือนได้ สุดท้ายจะจบที่ความจริง 

ผู้สื่อข่าวถามว่า เคยมีลักษณะนี้หรือไม่ ที่มีการเปลี่ยนชื่อแล้วไม่แจ้ง นายสุทิน กล่าวว่า ถ้ามีการเปลี่ยนชื่อจะต้องแจ้งทะเบียนทุกทะเบียนที่เกี่ยวข้องกับราชการ เช่น ใบวุฒิบัตร ส่วนจะมีโอกาสเป็นเอกสารปลอมหรือไม่นั้น จะต้องให้ความเป็นธรรม และขอเวลาตรวจสอบสักระยะ 

นายสุทิน กล่าวถึงกรณีนายจิรัฏฐ์ระบุการตรวจสอบเรื่องนี้สังคมได้อะไรว่า คนเป็นนักการเมืองหรือไม่ใช่นักการเมือง ถ้าสังคมคลางแคลงใจ มันต้องเคลียร์ให้หมด ไม่ใช่พอเกิดประเด็นขึ้นมาแล้วเราไม่ต้องทำอะไรต่อ มันไม่ใช่ ต้องมีคำตอบกับสังคม โดยเฉพาะคนที่เป็นนักการเมือง และเป็นคนที่ไปตรวจสอบคนอื่นในเรื่องนี้ด้วย ตนมองว่าเรื่องนี้ ใช้เวลาไม่นานเพียงแค่สัปดาห์เดียวก็น่าจะหาข้อสรุปได้ 

เมื่อถามถึงกรณีนายจิรัฏฐ์ มองว่าถูกกองทัพปิดปากในเรื่องนี้ เพราะออกมาพูดเรื่องทุจริตในกองทัพ นายสุทิน กล่าวว่า ไม่ปิดหรอกจะกลัวทำไม เป็นการตรวจสอบกันไปมา เราต้องมั่นใจในตัวเรา ถ้าเขามั่นใจก็ปิดไม่ได้ และยืนยันว่าไม่ใช่การกลั่นแกล้ง เรื่องนี้สมมุติว่ามีคนไปยื่นร้องเรียน แล้วกองทัพไม่ทำอะไร กองทัพก็จะโดนตั้งคำถามจากสังคม 

เมื่อถามถึง กรณีนายจิรัฏฐ์ ที่ออกมาให้สัมภาษณ์ว่า จะไปตรวจสอบบ้านพักพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา องคมนตรี นายสุทิน กล่าวว่าแม้จะเป็นองคมนตรีก็สามารถตรวจสอบได้ ทุกคนตรวจสอบได้หมด แต่ขึ้นอยู่กับความเหมาะสม คนไทยทุกคนทำอะไร ถ้าไม่ถูกต้องไม่ชัดเจนตรวจสอบกันได้หมด การตรวจสอบบ้านพักพล.อ.ประยุทธ์ ในฐานะองคมนตรีทำได้ แต่คนไทยจะมีระดับความเคารพซึ่งกันและกันในเรื่องของผู้หลักผู้ใหญ่ มันเป็นเรื่องของความเหมาะสม ถ้าเป็นเรื่องของกฎหมายทำได้หมด 

เมื่อถามว่า ถ้านายจิรัฏฐ์ จะเข้าตรวจสอบ บ้านพักพล.อ.ประยุทธ์จริง กองทัพจะอนุญาตหรือไม่ นายสุทิน กล่าวว่า มันไม่เกี่ยวกับกองทัพ แต่ก็พร้อมอนุญาต แต่บางครั้งบ้านเมืองเราก็มีผู้หลักผู้ใหญ่ที่เป็นที่เคารพนับถือกัน อะไรที่เหมาะสมก็ควรทำตรงนั้น