วันที่ 31 มกราคม 2567 นางสาวสุดาวรรณ หวังศุภกิจโกศล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงท่องเที่ยวและกีฬา กล่าวว่า ที่ประชุมคณะกรรมการนโยบายการท่องเที่ยวแห่งชาติ (ท.ท.ช.) ที่มี นายปานปรีย์ พหิทธานุกร รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ เป็นประธาน ได้พิจารณาแนวทางการสร้างรายได้จากการท่องเที่ยวปี 2567 เพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวคุณภาพสูง โดย ส่งเสริมธุรกิจการจัดประชุมสัมมนาและการจัดนิทรรศการโดยมอบหมาย หน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการเร่งด่วน 2 กิจกรรม ได้แก่ 1.การจัดกิจกรรมประชุมสัมมนา อีเวนต์ขนาดใหญ่ 2.การอำนวยความสะดวกให้แก่นักท่องเที่ยวกลุ่ม MICE และมอบหมายกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาเสนอแนวทางการเสนอตัวเป็นเจ้าภาพการประชุมนานาชาติผ่านนโยบาย “One Ministry One Convention” หรือ 1 กระทรวง 1 งานสัมมนา ต่อคณะรัฐมนตรีเพื่อพิจารณาให้ความเห็นชอบต่อไป

ขณะเดียวกัน ได้เห็นชอบการส่งเสริมการท่องเที่ยวสำราญทางน้ำ โดยมอบหมายกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาประสานหน่วยบริหารและจัดการทุนด้านการเพิ่มความสามารถในการแข่งขันของประเทศ (บพข.) เพื่อสนับสนุนการจัดทำแผนแม่บทการท่องเที่ยวเรือสำราญ(Thailand Cruise Master Plan) และ และแผนแม่บทการท่องเที่ยวเรือสำราญแรกกีฬา(ยอร์ช) (Thailand Yacht Master Plan) และมอบหมายกระทรวงการต่างประเทศสำนักงานตำรวจตรวจคนเข้าเมืองพิจารณาปรับปรุงพิธีการตรวจคนเข้าเมืองและกฎหมายระเบียบที่เกี่ยวข้องสำหรับการเดินทางเข้าประเทศทางน้ำรวมทั้งมอบหมายการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยส่งเสริมเส้นทางการท่องเที่ยวในแม่น้ำและลำคลอง

พร้อมกันนี้ ได้เห็นชอบการส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพในแหล่งท่องเที่ยวน้ำพุร้อน โดยมอบหมายหน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการตามแนวทางการพัฒนาเส้นทางน้ำพุร้อนเชื่อมโยงกับแหล่งท่องเที่ยวประเภทอื่นๆ การพัฒนาและยกระดับแหล่งท่องเที่ยวน้ำพุร้อนที่มีศักยภาพให้เป็นเมืองท่องเที่ยวเชิงสุขภาพน้ำพุร้อน และการส่งเสริมการตลาดและการบูรณาการความร่วมมือระหว่างหน่วยงานและระหว่างประเทศ ตลอดจนมอบหมายกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องศึกษาออกแบบเพื่อยกระดับ โครงสร้างและระบบบริการแหล่งน้ำพุร้อนสู่จุดหมายปลายทางของการท่องเที่ยวน้ำพุร้อน(Hot Spring Destination)และเมืองสปา (Spa Town)

ทั้งนี้ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงท่องเที่ยวและกีฬา กล่าวต่อไป ว่า ท.ท.ช.ยัง ได้เห็นชอบการส่งเสริมการถ่ายทำภาพยนตร์ต่างประเทศในประเทศไทย โดยมอบหมายกรมการท่องเที่ยวดำเนินการขอรับงบกลางรายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น เพื่อเป็นค่าใช้จ่ายในการส่งเสริมการถ่ายทำภาพยนตร์ต่างประเทศในประเทศไทย เพื่อชำระเงินคืนให้กับผู้สร้างภาพยนตร์ต่างประเทศที่ได้ถ่ายทำเสร็จแล้วต่อคณะรัฐมนตรี เพื่อพิจารณาให้ความเห็นชอบต่อไป และให้กรมการท่องเที่ยวเป็นหน่วยงานเจ้าภาพที่ประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการตามแนวทางการส่งเสริมให้ผู้สร้างภาพยนตร์ต่างประเทศจากทั่วโลกเลือกประเทศไทยเป็นจุดหมายปลายทาง ของการถ่ายทำภาพยนตร์ ตลอดจนมอบหมายกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาศึกษายุทธศาสตร์โดยครอบคลุมการจัดตั้งกองทุนภาพยนตร์ต่างประเทศและการพัฒนาทักษะแรงงานในอุตสาหกรรมภาพยนตร์

นอกจากนั้น ได้เห็นชอบการส่งเสริมการจัดงานมหกรรมระดับนานาชาติ (World Events/ Festival) โดยให้กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้การสนับสนุนผู้จัดงานมหกรรมเทศกาลในประเทศไทยในทุกมิติทั้งในรูปแบบเงินสนับสนุนและการอำนวยความสะดวกต่างๆโดยให้สำนักงบประมาณพิจารณาสนับสนุนงบประมาณเพื่อส่งเสริมการจัดงานมหกรรมระดับนานาชาติในด้านต่างๆและมอบหมายกระทรวงการต่างประเทศ สำนักงานตำรวจตรวจคนเข้าเมือง หน่วยงานที่เกี่ยวข้องอำนวยความสะดวก โดยปรับปรุงขั้นตอนการขอวีซ่าและการยกเว้นการเก็บค่าธรรมเนียมวีซ่าสำหรับผู้ประกอบการผู้จัดงานมหกรรมในระดับนานาชาติ และกลุ่มนักเดินทางเพื่อเข้าร่วมมหกรรมระดับนานาชาติในประเทศไทย ตลอดจนให้สำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ(องค์การมหาชน) และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการเสนอประเทศไทยเป็นเจ้าภาพการจัดงานมหกรรมระดับนานาชาติ

สำหรับเป้าหมายการท่องเที่ยวในปี 2567 มีเป้าหมายรายได้ที่ 3.5 ล้านล้านบาทมาจากนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติจำนวน 35 ล้านคนสร้างรายได้ 2.3 ล้านล้านบาทและนักท่องเที่ยวไทยเที่ยวไทยจำนวน 205 ล้านคน-ครั้ง สร้างรายได้ 1.2 ล้านล้านบาท