เมื่อวันที่ 31 มกราคม 2567 ที่ผ่านมา  ณ กรุงปักกิ่ง เวลา 18.30 น. ตามเวลาท้องถิ่น พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม หัวหน้าคณะผู้แทนไทย ได้เข้าร่วมหารือข้อราชการกับ นายหวัง เสี่ยวหง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงความมั่นคงสาธารณะ พร้อมด้วย พล.ต.ท.ภาณุรัตน์ หลักบุญ เลขาธิการ ป.ป.ส. นายจุลพงษ์ ทวีศรี อธิบดีกรมโรงงานอุตสาหกรรม นางสาวดุษฎี โรจตระการ คณะที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม และคณะผู้แทนไทยจากสำนักงาน ป.ป.ส. ณ กระทรวงความมั่นคงสาธารณะ กรุงปักกิ่ง สาธารณรัฐประชาชนจีน โดยนายหวัง เสี่ยวหง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงความมั่นคงสาธารณะ ได้กล่าวต้อนรับคณะผู้แทนไทย ในโอกาสเดินทางมาเยือนจีน พร้อมทั้งยืนยันความสัมพันธ์อันดีระหว่างจีนกับไทยทุกด้าน เพื่อเสริมสร้างความเจริญรุ่งเรืองและรักษาสันติภาพในภูมิภาค

พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง ได้กล่าวขอบคุณจีน และชื่นชมการดำเนินงานด้านการป้องกันและปราบปรามยาเสพติดอย่างจริงจังของจีน จนส่งผลให้สามารถลดผลกระทบจากยาเสพติดได้ในทุกมิติ นอกจากนี้ ยังได้กล่าวสรุปถึงสถานการณ์ปัญหายาเสพติดในไทยและพื้นที่สามเหลี่ยมทองคำ ซึ่งนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ได้ยกระดับความสำคัญของปัญหายาเสพติดเป็นวาระแห่งชาติ และเร่งรัดในเรื่องการปราบปรามยาเสพติด 

รมว.ยธ. กล่าวว่า “ด้วยเห็นว่าทางการจีนนั้นประสบผลสำเร็จมุ่งเน้นการดำเนินการด้านแก้ไขปัญหายาเสพติด ทั้งการป้องกัน การบำบัดรักษาและฟื้นฟูผู้ติดยาเสพติด และการปราบปรามยาเสพติด โดยมีการบูรณาการความร่วมมือกับประเทศต่าง ๆ ทั่วโลกด้วย เนื่องจากประเทศใดเพียงประเทศเดียวมิอาจแก้ไขปัญหาได้โดยลำพัง อีกทั้งปัญหาปริมาณยาเสพติด สารตั้งต้น และเคมีภัณฑ์เพิ่มขึ้นมากในพื้นที่สามเหลี่ยมทองคำและประเทศสมาชิกอนุภูมิภาคลุ่มน้ำโขง โดยเฉพาะสารตั้งต้นเคมีภัณฑ์ที่ไม่ได้อยู่ภายใต้การควบคุมของอนุสัญญาสหประชาชาติ (non-controlled chemicals) นับเป็นภัยคุกคามที่สำคัญ จึงเห็นว่าเราทั้งสองต้องร่วมมือกันอย่างใกล้ชิดมากยิ่งขึ้น” 
ทั้งสองประเทศได้หารือถึงแนวทางการพัฒนาความร่วมมือด้านการควบคุมยาเสพติดระหว่างกัน 

โดยได้บรรลุข้อตกลงที่จะยกระดับความร่วมมือที่สำคัญ ดังนี้
1. ความร่วมมือในการควบคุมและสกัดกั้นการลักลอบลำเลียงเคมีภัณฑ์ที่ไม่ได้อยู่ภายใต้
การควบคุมของอนุสัญญาสหประชาชาติ (non-controlled chemicals) ไม่ให้เข้าสู่แหล่งผลิตในพื้นที่สามเหลี่ยมทองคำ โดยจีนจะเป็นแกนนำในเรื่องดังกล่าว เนื่องจากเป็นประเทศที่มีการผลิตและส่งออกเคมีภัณฑ์เพื่อการอุตสาหกรรมเป็นจำนวนมากระดับโลก
2. ความร่วมมือด้านการบังคับใช้กฎหมาย โดยมุ่งเน้นความร่วมมือในการปราบปรามอาชญากรรมที่เป็นปัญหาต่อทั้งสองประเทศอย่างเข้มงวด ได้แก่ ยาเสพติด การหลอกลวงทางโทรศัพท์ การพนันออนไลน์ การค้ามนุษย์ และการฟอกเงิน ซึ่งมักเกี่ยวพันกับยาเสพติด
3. ความร่วมมือในการสืบสวนขยายผลและจับกุมเครือข่ายอาชญากรรมข้ามชาติ ผู้ต้องหาที่ถือ 2 สัญชาติ และผู้ต้องหารายสำคัญ โดยฝ่ายจีนได้ขอความร่วมมือไทยส่งตัวผู้ต้องหากลับไปดำเนินคดีที่จีน ซึ่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรมยินดีให้ความร่วมมืออย่างเต็มที่ 
4. ฝ่ายจีนยินดีให้ไทยส่งคณะผู้แทนมาแลกเปลี่ยนเรียนรู้ในความก้าวหน้าและความสำเร็จในการดำเนินงานของฝ่ายจีนในเรื่องทางวิชาการที่สำคัญ เช่น การวิเคราะห์สารเสพติดจากระบบบำบัดน้ำเสียในชุมชน และการบำบัดฟื้นฟูผู้ติดยาเสพติดในชุมชน

โดยในห้วงท้าย ทั้งสองฝ่ายยังได้เน้นย้ำการกระชับความสัมพันธ์ระหว่างไทยและจีนซึ่งมีมาอย่างยาวนาน รวมถึงความร่วมมือระหว่างผู้นำทั้งสองประเทศผ่านทุกๆช่องทาง 

ในวันพรุ่งนี้คณะผู้แทนไทยเดินทางไปยังนครคุณหมิง มณฑลยูนนาน สาธารณรัฐประชาชนจีน เพื่อหารือข้อราชการและเยี่ยมชมการดำเนินงานด้านยาเสพติด ตามกำหนดการเดินทางเพื่อหารือข้อราชการระหว่างไทย-จีนด้านยาเสพติดในช่วงระหว่างวันที่ 31 มกราคม – 2 กุมภาพันธ์ 2567