วันที่ 2 กุมภาพันธ์ 2567 ณ นครคุนหมิง มณฑลยูนนาน สาธารณรัฐประชาชนจีน เวลา 08.30 น. ตามเวลาท้องถิ่น พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม หัวหน้าคณะผู้แทนไทยในการเยือนจีนอย่างเป็นทางการระหว่างวันที่ 31 มกราคม – 2 กุมภาพันธ์ 2567 พร้อมด้วย พล.ต.ท.ภาณุรัตน์ หลักบุญ เลขาธิการ ป.ป.ส. นายจุลพงษ์ ทวีศรี อธิบดีกรมโรงงานอุตสาหกรรม นางสาวดุษฎี โรจตระการ คณะที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม และคณะผู้แทนไทยจากสำนักงาน ป.ป.ส. เดินทางเข้าเยี่ยมชมและศึกษาดูงานวิทยาลัยตำรวจมณฑลยูนนาน และศูนย์ชุมชนบำบัดยาเสพติด 

ในช่วงแรกได้เดินทางไปวิทยาลัยตำรวจมณฑลยูนนาน โดยมีนาย Liu Gonghua คณบดีมหาวิทยาลัยตำรวจยูนนาน และนาย Du Tao รองคณบดี ให้การต้อนรับ  โดยวิทยาลัยแห่งนี้เป็นวิทยาลัยที่มีหลักสูตรการเรียนการสอนด้านการปราบปรามยาเสพติดโดยเฉพาะ และมีชื่อเสียงได้รับการยอมรับในจีนว่าเป็นผู้นำด้านหลักสูตรปราบปรามยาเสพติด อีกทั้งเคยจัดการฝึกอบรมให้แก่ประเทศในภูมิภาคลุ่มแม่น้ำโขงรวมทั้งไทย ซึ่งทางวิทยาลัยตำรวจมณฑลยูนนานพาเยี่ยมชมพิพิธภัณฑ์ประวัติการต่อสู้กับยาเสพติด พิพิธภัณฑ์วิทยาการอากาศยานไร้คนขับ (DRONE) และพิพิธภัณฑ์ตำรวจนานาชาติ

พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ได้กล่าวขอบคุณในการต้อนรับและแสดงความสนใจใน drone รูปแบบต่างๆ ที่ทางจีนได้นำมาจัดแสดงและให้รับชมในวันนี้ และหวังว่าทางวิทยาลัยจะช่วยเหลือในการพัฒนาบุคลากรด้านการปราบปรามยาเสพติดแก่ไทย

ด้าน พล.ต.ท.ภาณุรัตน์ หลักบุญ เลขาธิการ ป.ป.ส. กล่าวว่า ด้วยศักยภาพและหลักสูตรของวิทยาลัยมีความเป็นสากล ทางสำนักงาน ป.ป.ส. จึงต้องการแลกเปลี่ยนเจ้าหน้าที่เข้ามาเรียนรู้หลักสูตรด้านการปราบปรามยาเสพติดกับที่นี้ด้วย 
 นาย Liu Gonghua คณบดีมหาวิทยาลัยตำรวจยูนนานมีความยินดีและพร้อมต้อนรับเจ้าหน้าที่แลกเปลี่ยนเพื่อสร้างความแข็งแกร่งในการปราบปรามยาเสพติดร่วมกัน

 จากนั้นได้เดินทางไปยังศูนย์ชุมชนบำบัด ของหมู่บ้านผู่จี๋ เขต Wuhua ที่ถือว่าเป็นต้นแบบของศูนย์บำบัดฟื้นฟูที่ถูกจัดตั้งอยู่ทั่วมณฑลยูนนาน เนื่องจากคนในชุมชนมีความรู้ถึงพิษภัยโทษของยาเสพติดกว่า 90% โดยศูนย์นี้มีรูปแบบเริ่มจาก 1.เผยแพร่ความรู้ด้วยการจัดกิจกรรมด้านยาเสพติดในหมู่บ้าน/ชุมชน สถานบันเทิง พื้นที่ก่อสร้าง และพื้นที่เสี่ยงอื่นๆ นำวิทยากรไปให้ความรู้และนำตัวอย่างยาเสพติดชนิดต่างๆ ไปให้รู้จัก เพื่อให้เรียนรู้ถึงโทษพิษภัยของยาเสพติดดังกล่าว 2. เสริมการป้องกันยาเสพติดตั้งแต่เด็กเล็ก (เริ่มอายุ 5-6 ปี) เน้นกิจกรรมสันทนาการร่วมกับสถานศึกษาทุกปี เพื่อให้เด็กรู้ถึงอันตรายและสามารถป้องกันและรู้จักปฏิเสธยาเสพติด จนทำให้ปีที่แล้วในพื้นที่หมู่บ้านไม่พบผู้เสพรายใหม่  และ 3. การบำบัดยาเสพติดช่วยให้ผู้เสพเข้าสู่สังคมได้ มีกลไกในการจับคู่ตำรวจกับอาสาสมัครไปเยี่ยมบ้านผู้เข้ารับการบำบัดเป็นประจำ รวมทั้งมีนักจิตวิทยาให้คำปรึกษา และที่สำคัญผู้เข้ารับการบำบัดในศูนย์แห่งนี้จะได้รับการช่วยเหลือในการหาอาชีพที่เหมาะสมกับความสามารถของผู้บำบัด จนทำให้ผู้บำบัดมีความมั่นใจมากขึ้น ชุมชน สภาพแวดล้อม พร้อมให้โอกาส

พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ประทับใจในระบบการทำงานของศูนย์แห่งนี้มาก ที่พัฒนาจนชุมชนเข็มแข็ง ให้ความรู้เรื่องยาเสพติดกับเด็กและเยาวชน ทุกคนในชุมชน ไม่เฉพาะผู้เข้ารับการบำบัด ทำอย่างต่อเนื่องสม่ำเสมอ ใช้สื่อและกิจกรรมสัมพันธ์ ช่วยสร้างความสัมพันธ์ที่ดีระหว่างครอบครัว เมื่อครอบครัวอบอุ่น ชุมชนเข็มแข็ง ยาเสพติดก็ไม่สามารถเข้ามาได้ ซึ่งเป็นสิ่งที่ตนอยากเห็นในไทยเช่นเดียวกัน