ถือเป็นสถานการณ์โจมตีต่อเนื่อง จากสงครามการสู้รบระหว่างกองทัพอิสราเอลกับกลุ่มติดอาวุธฮามาส ในฉนวนกาซา ซึ่งปะทุขึ้นมาตั้งแต่ปลายปีที่แล้ว จนถึง ณ ชั่วโมงนี้ก็ยังมีปฏิบัติการโจมตีกันอยู่

สำหรับ “กลุ่มกบฏฮูตีในเยเมน” ที่มีทางการ “อิหร่าน” ให้การหนุนหลังสนับสนุน โจมตี “เรือสินค้า” ในน่านน้ำทะเลแดง

โดยเป็นการโจมตีที่ทางกลุ่มกบฏฮูตี อ้างว่า จ้องที่ถล่มเรือสินค้า เรือพาณิชย์ต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับอิสราเอล เป็นเป้าหมายสำคัญ เพื่อตอบโต้ที่กองทัพอิสราเอลโจมตีกลุ่มฮามาส ซึ่งทางกลุ่มฮูตีให้การสนับสนุนอยู่ และเพื่อสางแค้นที่อิสราเอลกระทำต่อชาวปาเลสไตน์ในฉนวนกาซา ด้วยปฏิบัติการทางทหารสารพัด ไม่ว่าจะเป็นปฏิบัติการโจมตีทางอากาศ และการรุกรบภาคพื้นดิน จนชาวปาเลสไตน์ในฉนวนกาซาได้รับความเดือดร้อนด้านมนุษยธรรมอย่างหนัก

อย่างไรก็ดี เมื่อกล่าวถึงกลุ่มกบฏฮูตีในเยเมนแล้ว ก็นับเป็นหนึ่งในภัยคุกคามด้านการเดินเรือ การขนส่งสินค้าทางทะเล โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ทะเลแดง บริเวณช่องแคบบับเอล-มันเดบ อันเป็นน่านน้ำนอกชายฝั่งของเยเมนที่กลุ่มกบฏพวกนี้มีอิทธิพล มีอิทธิพลเสียยิ่งกว่ากองทัพของทางการประเทศเยเมนด้วยซ้ำ ณ ชั่วโมงนี้ ซึ่งก่อนหน้าก็มีข่าวคราวถึงการโจมตีเรือสินค้า เรือพาณิชย์ ในน่านน้ำแห่งนี้โดยฝีมือของกลุ่มกบฏฮูตีกันอยู่เป็นระยะๆ

กลุ่มกบฏฮูตีในเยเมน กับเรือสินค้า ในทะเลแดง (Photo : AFP)

ทว่า การโจมตีเรือสินค้า เรือพาณิชย์ ในทะเลแดงโดยกลุ่มกบฏฮูตีข้างต้น ก็เริ่มถี่ขึ้น นับตั้งแต่หลังเกิดเหตุสงครามอิสราเอลกับกลุ่มติดอาวุธฮามาส เมื่อวันที่ 7 ตุลาคมปีที่แล้ว เป็นต้นมา

โดยกลุ่มกบฏฮูตี ได้โจมตีเรือสินค้า เรือพาณิชย์ ในทะเลแดงถี่ขึ้นในเดือนพฤศจิกายน และเดือนธันวาคม ปีที่แล้ว ซึ่งมีรายงานเป็นตัวเลขสถิติว่า กลุ่มกบฏฮูตีในเยเมนโจมตีเรือสินค้า เรือพาณิชย์ ในทะเลแดง ในช่วงเดือนพฤศจิกายน และเดือนธันวาคม เมื่อปีที่แล้ว จำนวนพุ่งสูงขึ้นกว่าในช่วงที่ผ่านๆ มา ถึง 500 % หรือ 5 เท่าเลยทีเดียว

นอกจากเรือสินค้า เรือพาณิชย์ แม้กระทั่ง “เรือรบ” ของกองทัพเรือชาติมหาอำนาจตะวันตก อย่างสหรัฐอเมริกา และอังกฤษ ซึ่งเป็นพันธมิตรที่สำคัญของอิสราเอล ก็ยังตกเป็นเป้าการโจมตีของกลุ่มกบฏฮูตีในเยเมนด้วยเช่นกัน

ในปฏิบัติการโจมตีของกลุ่มกบฏฮูตีในเยเมน ก็มีทั้งการยิงด้วยขีปนาวุธ หรือไม่ก็อากาศยานไร้คนขับ หรือโดรนติดอาวุธ ซึ่งบรรดาอาวุธมหาประลัยพวกนี้ ก็มีรายงานว่า ไม่ได้มาจากประเทศใดที่ไหนอื่น แต่มาจาก “อิหร่าน” ในฐานะชาติผู้สนับสนุนหลักของกลุ่มกบฏฮูตีในเยเมน นั่นเอง

กลุ่มกบฏฮูตีในเยเมน พร้อมอาวุธสงคราม บุกขึ้นเรือพาณิชย์ลำหนึ่งในทะเลแดง (Photo : AFP)

นอกจากการใช้ขีปนาวุธและโดรนติดอาวุธโจมตีแล้ว ก็ยังมีรายงานว่า บางครั้งกลุ่มกบฏฮูตี ก็ยกพลจากฝั่งบนบกของเยเมน พร้อมอาวุธสงครามครบมือ บุกจู่โจมขึ้นไปยังบนเรือสินค้า เรือพาณิชย์ ที่กำลังแล่นอยู่ในทะเลแดงเลยก็มี ไม่ผิดอะไรกับกองโจรที่บุกปล้นเรือสินค้า เรือพาณิชย์ จนสร้างความอกสั่นขวัญแขวนให้แก่เหล่าบรรดาบริษัทเดินเรือสินค้า เรือพาณิชย์ ของเหล่าชาติตะวันตกกันถ้วนหน้า

ถึงขนาดบริษัทเดินเรือสินค้าชื่อดังระดับท็อปไฟว์ของโลก ต้องประกาศระงับการเดินเรือสินค้าในทะเลแดงเป็นการชั่วคราว เพื่อความปลอดภัย และชีวิตของลูกเรือ แบบไม่กล้าที่จะส่งมาเสี่ยงภัยกันด้วย อาทิเช่น บริษัทเมอร์สก์ ธุรกิจยักษ์ใหญ่ด้านการเดินเรือสินค้าจากประเทศเดนมาร์ก เป็นต้น อย่างไรก็ตาม เมื่อขึ้นชื่อว่า เป็นธุรกิจ ก็ไม่สามารถหยุดนิ่งได้ บรรดาบริษัทเดินเรือสินค้าเหล่านี้ ก็ได้เปลี่ยนเส้นทางจากเดิมใช้เส้นทางลัดของทะเลแดง ที่ปัจจุบันสุ่มเสี่ยงภยันตรายที่จะแล่นผ่าน ก็หันไปแล่นอ้อมทวีปแอฟริกา ผ่านแหลมกู๊ดโฮป ที่ไกลกว่ากันมากกว่าครึ่งหมื่นกิโลเมตรแทนที่ สิ้นเปลืองทั้งเวลา และพลังงานเชื้องเพลิง ที่เติมเป็นค่าใชจ่ายการลำเลียงของบริษัทเดินเรือต่างๆ พุ่งสูงขึ้นด้วยเหตุปัจจัยจากภัยคุกคามของกลุ่มกบฏฮูตีแท้ๆ

ตามการเปิดเผยของ “เอสแอนด์พี โกลบอล” ซึ่งเป็นบริษัทมหาชนสัญชาติอเมริกัน ที่ดำเนินธุรกิจหลักเกี่ยวกับการเก็บข้อมูล ศึกษาวิจัย วิเคราะห์ข้อมูลต่างๆ ทั้งทางการเงินและการตลาด อันมีที่ตั้งสำนักงานใหญ่อยู่ในย่านแมนฮัตตัน มหานครนิวยอร์ก รัฐนิวยอร์ก ประเทศสหรัฐอเมริกา ก็ระบุว่า หลายประเทศในภูมิภาคยุโรป กำลังได้รับผกระทบอย่างหนักจากภัยคุกคามการเดินเรือสินค้า เรือพาณิชย์ ในทะเลแดงโดยกลุ่มกบฏฮูตีในเยเมน นับตั้งแต่กลุ่มกบฏฮูตีในเยเมน โจมตีเรือสินค้า เรือพาณิชย์ ในทะเลแดงอย่างรุนแรงขึ้น เมื่อเดือนพฤศจิกายนปีที่แล้วเป็นต้นมา

ทั้งนี้ เหล่าประเทศในยุโรปที่กำลังได้รับผลกระทบเรื่องการเดินเรือสินค้า เรือพาณิชย์ โดยกลุ่มกบฏฮูตี ก็มีทั้งอังกฤษ กรีซ ฝรั่งเศส และเยอรมนี ซึ่งเมื่อพวกเขาเดินเรือขนส่งสินค้าออกไปทางทะเลแดงไม่ได้ ต้องแล่นออกทางมหาสมุทรแอตแลนติก อ้อมทวีปแอฟริกา ทำให้การส่งสินค้าต้องยืดไกลออกไป ก็พลอยทำให้ส่งผลกระทบไปถึงภาคการผลิตสินค้าในประเทศข้างต้นเหล่านั้นไปด้วย

โดยตามตัวเลขของ “เอสแอนด์พี โกลบอล” ระบุว่า อังกฤษ ถือเป็นประเทศที่ได้รับผลกระทบหนักที่สุด โดยมีตัวเลขถึงร้อยละ 12 ตามมาด้วย “กรีซ” ที่ได้รับผลกระทบคิดเป็นตัวเลขที่ร้อยละ 9 ส่วน “ฝรั่งเศส” และ “เยอรมนี” มีตัวเลขที่ได้รับผลกระทบที่ร้อยละ 8 เท่ากัน

ทั้งนี้ เมื่อกล่าวถึงทะเลแดงแล้ว ก็ถือเป็นหนึ่งในเส้นทางน้ำที่เรือสินค้า เรือพาณิชย์ ใช้เส้นทางนี้กันอย่างหนาแน่นเส้นทางหนึ่ง โดยมีตัวเลขมากถึงว่า ร้อยละ 15 เลยทีเดียว ที่บรรดาเรือสินค้า เรือพาณิชย์ ใช้เส้นทางทะเลแดงดังกล่าว

พร้อมกันนี้ ทาง “เอสแอนด์พี โกลบอล” ก็ยังประเมินด้วยว่า เหตุโจมตีเรือสินค้า เรือพาณิชย์ ในทะเลแดงโดยกลุ่มกบฏฮูตีในเยเมน อาจจะกลายเป็นอุปสรรคด้านการเดินเรือ ลำเลียงสินค้า ไปจนถึงไตรมาสของปีนี้ หรือครึ่งปีแรกของปี 2024 (พ.ศ. 2567)

นอกจากการโจมตีเรือสินค้า เรือพาณิชย์ โดยกลุ่มกบฏฮูตีในเยเมน จะสร้างความเดือดร้อนต่อการการเดินเรือ และเศรษฐกิจ ภาคการผลิตต่างๆ ของประเทศทั้งหลายในยุโรปแล้ว บรรดานักวิเคราะห์ ก็ยังแสดงทรรศนะว่า เหตุโจมตีข้างต้น ก็ยังจะส่งผลกระทบโดยอาจทำให้ปัญหาภาวะอัตราเงินเฟ้อทวีความรุนแรงเพิ่มขึ้นกว่าที่เป็นอยู่ก็ได้ จากการที่เมื่อเรือสินค้า เรือพาณิชย์ ต้องใช้เวลามากขึ้น ใช้พลังงานเชื้อเพลิงมากขึ้น เพราะต้องแล่นอ้อมทวีปแอฟริกาที่มีระยะทางยาวไกล ก็จะพลอยทำให้สินค้าต่างๆ ต้องมีราคาพุ่งสูงขึ้น ตามค่าใช้จ่ายดังกล่าว ที่พุ่งขึ้นสูง