วันที่ 8 ก.พ. 2567 ที่รัฐสภา นายชูศักดิ์ ศิรินิล สส.บัญชีรายชื่อ  พรรคเพื่อไทย ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการ (กมธ.)วิสามัญพิจารณาศึกษาแนวทางการตราพระราชบัญญัตินิรโทษกรรม สภาผู้แทนราษฎร กล่าวถึงกรอบการทำงานของ กมธ.ภายหลังการประชุมนัดแรก ว่า เพื่อให้การทำงานบรรลุกฎหมาย ซึ่งในการประชุมครั้งหน้าคือวันที่ 15 ก.พ. เวลา 13.00น. ได้เชิญผู้ทรงคุณวุฒิคือ นายคณิต ณ นคร  นายโคทม อารียา ที่เคยมีประสบการณ์ ในการศึกษาเรื่องนิรโทษกรรมและการปรองดอง มาให้ความเห็นต่อกมธ.  

ทั้งนี้ส่วนกรอบการทำงาน  กมธ.ได้วางเป้าหมายจะหารือพูดคุยในรายละเอียดในการประชุมครั้งต่อไป พร้อมกับอ้างอิงความเห็นของสภาผู้แทนราษฎรที่ได้อภิปรายซึ่งสะท้อนถึงความเห็นของทุกพรรคการเมืองเห็นด้วยกับการนิรโทษกรรม เพื่อนำไปสู่ความปรองดองของคนในชาติ ซึ่งบางพรรคการเมืองมีการเสนอร่างกฎหมายออกมาแล้ว 

"แต่ปัญหาใหญ่ของกมธ.ที่ต้องขบคิดคือเราจะนิรโทษกรรมให้ครอบคลุมเพียงใด ซึ่งเป็นประเด็นที่สังคมและพรรคการเมืองถกเถียงกันอยู่ในขณะนี้  กมธ.จะต้องศึกษาตรงนี้ว่าจะครอบคลุมอะไร หรือการกระทำอะไรบ้าง หรือครอบคลุมตั้งแต่ช่วงเวลาใด กับบุคคลใดเป็นต้น อันนี้เป็นงานหนักของกมธ." นายชูศักดิ์ กล่าว 

นายชูศักดิ์  กล่าวต่อว่า  กมธ.จะต้องหารือให้ได้ข้อสรุปว่าในท้ายที่สุด หากเห็นตรงกันว่าควรจะนิรโทษกรรมหรือจะไปถึงขั้นการยกร่างกฏหมายหรือไม่ เนื่องจากเป็นภารกิจตามที่ได้มีมติตั้งกมธ.ชุดนี้ขึ้นมา เพื่อศึกษาการตรากฎหมายนิรโทษกรรม ซึ่งเรื่องนี้เป็นหัวใจสำคัญจะต้องสอบถามให้เกิดความรอบคอบเพื่อจะได้เกิดแรงร่วมใจกันในการทำงานให้สำเร็จ

เมื่อถามว่า จะมีการพิจารณาถึงการจะนิรโทษให้กลุ่มบุคคล ที่ต้องโทษคดีอาญา มาตรา 112 หรือไม่ด้วยนั้น  นายชูศักดิ์ กล่าวว่า จะต้องฟังความเห็นของกรรมาธิการก่อนขออย่าเพิ่งไปด่วนสรุป  ประกอบกับพิจารณาสถานการณ์ทางการเมืองและสังคมในขณะนี้ซึ่งจะต้องดูให้เกิดความรอบด้าน อย่าถึงขั้นฟันธงว่าจะมีหรือไม่มีอะไร ขณะเดียวกัน เชื่อว่าผลการศึกษานิรโทษกรรมจากคณะกรรการต่างๆ นำมาพิจารณาศึกษาในชั้นกรรมาธิการได้เลยโดยไม่จำเป็นต้องตั้งคณะอนุกมธ.ขึ้นมาเพิ่ม