จากกรณีที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ (DSI) ภายใต้การกำกับของ พ.ต.ต.ยุทธนา แพรดำ รองอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ และในฐานะรักษาราชการแทนอธิบดีฯ พร้อมด้วย พ.ต.ต.ณฐพล ดิษยธรรม ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้านคดีคุ้มครองผู้บริโภคและสิ่งแวดล้อม ในฐานะหัวหน้าคณะพนักงานสอบสวนและทีมงาน ได้ดำเนินการสืบสวนสอบสวนในคดีพิเศษที่ 127/2566 หรือคดีเนื้อสัตว์เถื่อนกว่า 10,000 ตู้ (ชิ้นส่วนหมูแช่แข็ง ชิ้นส่วนวัวแช่แข็ง และตีนไก่สวมสิทธิ์) ซึ่งถูกลักลอบนำเข้าราชอาณาจักรไทยโดยผิดกฎหมาย เพื่อขยายผลติดตามจับกุมผู้กระทำความผิดหรือมีส่วนร่วมในการกระทำความผิด

กระทั่งรวบรวมพยานหลักฐานขอศาลออกหมายจับผู้ต้องหา 5 ราย ประกอบด้วย นายหลี่ เซิ่งเจียว  นายสมเกียรติ กอไพศาล อดีตเลขานุการนายเฉลิมชัย ศรีอ่อน นายหยาง ยา ซุง และ น.ส.นวพร เชาว์วัย (สองสามีภรรยา) ในฐานความผิดตาม พ.ร.บ.ศุลกากร พ.ศ. 2560 , พ.ร.บ.โรคระบาดสัตว์ พ.ศ. 2558 , ความผิดฐานอั้งยี่ซ่องโจร และข้อหาร่วมกันฟอกเงิน จับกุมแล้ว 4 ราย เหลือเพียงนายกรินทร์ (บุตรชายนายหลี่) ซึ่งอยู่ระหว่างหลบหนีหมายจับที่ต่างประเทศ โดยภายหลังการจับกุม พนักงานสอบสวนได้ทำการสอบปากคำในบางประเด็น เนื่องจากผู้ต้องหาส่วนใหญ่ต้องการส่งหนังสือชี้แจงแก้ข้อกล่าวหาแทน จึงได้มีการนัดหมายให้ผู้ต้องหาแต่ละรายเข้ารายงานตัว ดังนี้ นายสมเกียรติ กอไพศาล วันที่ 8 ก.พ. , นายหยาง ยา ซุง และ น.ส.นวพร เชาว์วัย สองสามีภรรยา วันที่ 9 ก.พ. , นายหลี่ เซิ่งเจียว หรือเฮียเก้า วันที่ 16 ก.พ. ตามที่มีการรายงานข่าวไปอย่างแล้วนั้น

ล่าสุดวันที่ 8 ก.พ.67 เวลา 13.50 น.ผู้สื่อข่าวรายงาน ว่า  นายหยาง ยา ซุง และ น.ส.นวพร เชาว์วัย สองสามีภรรยา เดินทางเข้ารายงานตัวกับพนักงานสอบสวน ห้องพนักงานสอบสวนคดีหมูเถื่อน ศูนย์ราชการฯ อาคารเอ ชั้น 2 ถ.แจ้งวัฒนะ กรุงเทพฯ โดยมีการนำเอกสารจำนวนหนึ่งเข้าแสดงต่อพนักงานสอบสวน ซึ่งการเข้าพบในวันนี้ถือเป็นการเข้าพบก่อนกำหนดนัดหมาย 1 วัน และไม่ได้มีการเปิดเผยรายละเอียดใดแก่สื่อมวลชน ก่อนเดินทางกลับออกไป

จนมาเวลา 13.10 น. นายสมเกียรติ กอไพศาล หรือเฮียเกียรติ พร้อมด้วยทนายความ ได้เดินทางเข้าพบพนักงานสอบสวน โดยใช้เวลาในการสอบปากคำ 40 นาที ก่อนออกมาเปิดเผยว่า วันนี้ตนได้นำเอกสารมาแสดงต่อพนักงานสอบสวนเนื่องจากในครั้งที่แล้ว ดีเอสไอได้สอบถามแต่เรายังไม่ทราบข้อมูล วันนี้จึงไปรวบรวมนำมามอบให้พนักงานสอบสวน ส่วนใหญ่เป็นเอกสารที่แสดงชัดเจนว่าไม่มีชื่อของตนไปเป็นกรรมการผู้มีอำนาจลงนามในบริษัทใดๆ เพื่อชี้แจงตามที่มีการกล่าวหาว่าตนไปร่วมทำกิจการหรือธุรกิจใด ไม่ว่าจะเป็น 9 บริษัท หรือ 20 บริษัท ตนยืนยันว่าไม่มีชื่อไปร่วมเกี่ยวข้องในนั้นเลยแม้แต่บริษัทเดียว โดยเฉพาะในธุรกิจการขายส่งตีนไก่ไปจำหน่ายยังต่างประเทศ ตนไม่ได้ข้องเกี่ยวเลย ส่วนสาเหตุที่มาที่ทำให้ดีเอสไอแจ้งข้อกล่าวหา ขอให้สื่อมวลชนไปสอบถามทางพนักงานสอบสวน อย่างไรก็ตาม การยื่นเอกสารชี้แจงในวันนี้ของตนค่อนข้างมีความสมบูรณ์พอสมควร และหลังจากนี้ก็คงต้องเข้ามาพบพนักงานสอบสวนอีกครั้ง โดยนัดหมายให้ตนเข้าพบในเดือน มี.ค. 

เมื่อถามว่าตั้งแต่ถูกแจ้งข้อกล่าวหาดำเนินคดี ได้มีการพูดคุยกับนายเฉลิมชัย ศรีอ่อน หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ บ้างหรือไม่ ปรากฏว่านายสมเกียรติ ใช้เวลาคิดก่อนตอบว่า ได้มีการพูดคุย แต่ไม่ได้คุยในเรื่องนี้ เพราะว่าท่านมีความเชื่อมั่นในตนว่าตนไม่ได้ทำแบบที่ถูกแจ้งข้อหา ทั้งนี้ ตนไม่มีความกังวลใด ๆ และแน่นอนในพยานหลักฐานที่มี ส่วนกรณีของเฮียเก้า ยอมรับว่ารู้จักกันจริง แต่ไม่เคยทำกิจการเกี่ยวกับการขายส่งตีนไก่ไปจำหน่ายยังต่างประเทศ ไม่เคยแม้แต่เรื่องเดียว และเมื่อถามต่อว่า รู้จักกับเฮียเก้าในแง่ใดนั้น นายสมเกียรติ ระบุว่า คือสไตล์คนจีนน่ะนะ อย่างเฮียเก้ายังมีรูปถ่ายกับนายกรัฐมนตรี (พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา) และมีรูปถ่ายกับผู้ใหญ่ทั่วประเทศ การพบเจอกันก็อาจเนื่องด้วยงานสมาคม หรือเจอกันตามงานต่าง ๆ 

ทั้งนี้ ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า เมื่อนายสมเกียรติ ให้สัมภาษณ์เสร็จสิ้นได้ขึ้นรถยนต์ส่วนบุคคล ยี่ห้อ โตโยต้า รุ่น อัลพาร์ด ทะเบียน กต 8 ประจวบคีรีขันธ์ ก่อนเคลื่อนออกจากอาคารศูนย์ราชการฯ