วันนี้ (9 ก.พ.) เมื่อเสลา 1100 น. ที่ สน.สุทธิสารนาย ชัย (นามสมมติ) อายุ 36 ปี คนขับแท็กซี่ ที่ถูกชายฉกรรจ์รุมทำร้ายร่างกาย ได้เดินทางเข้ามาแจ้งความดำเนินคดีกับผู้ก่อเหตุ 

โดยนายชัย เปิดเผยว่า ตนเองรับลูกค้าชาวจีนมาจากวัดอรุณ ย่านฝั่งธนฯ ให้มาส่งที่โดมคาบาเร่ ย่านถนนรัชดา พอมาถึงก็ไม่รู้ว่าจะไปจอดรถตรงไหน เลยขับรถเข้าไปข้างใน พอส่งลูกค้าแล้วก็ขับรถออกมาด้านหน้า ขณะที่หักหัวเลี้ยวรถกำลังจะออกถนนรัชดา ก็มีลูกค้าชาวจีนมาโบกเรียกแล้วยื่นเอกสารให้ดูคุยกันอยู่ประมาณ 3 วินาที ขณะเดียวกันก็มีชายฉกรรจ์ประมาณ 2 คนได้ เดินมาที่รถของตนและพูดจาต่อว่าประมาณว่า ตรงนี้เป็นพื้นที่ส่วนบุคคล ไม่สามารถรับผู้โดยสารได้ ตนก็เลยบอกว่า ตอนนี้รถของตนออกมาจากพื้นที่ส่วนบุคคลอยู่ตรงถนนสาธารณะแล้ว จะให้ไปรับที่ปากซอยก็ได้ แต่ทางฝั่งชายฉกรรจ์ไม่ยอม อ้างว่าพื้นที่ตรงนี้นั้นมีวินแท็กซี่ประจำอยู่ ตนก็เลยตอบกลับไปว่า ตนเป็นรถแท็กซี่ป้ายเหลืองมีใบอนุญาตถูกต้อง ทำไมจะรับผู้โดยสารพื้นที่ตรงนี้ไม่ได้เพราะสามารถรับได้ทั่วกรุงเทพฯ ทางฝั่งชายฉกรรจ์กันก็ยังไม่ยอมแล้วพูดต่อว่าตน ตนจึงตัดสินใจที่จะขับออกไปจากบริเวณพื้นที่ดังกล่าวและไม่รับผู้โดยสารชาวจีนคนนั้น 

ทว่า ชายฉกรรจ์กลุ่มดังกล่าวก็ได้วิ่งมาที่รถพร้อมถอดเสื้อ ได้ใช้มือปัดที่กระจกรถด้านข้าง และพยายามที่จะเปิดประตูเบาะหลังผู้โดยสารเพื่อทำร้ายตน ซึ่งตอนนั้น ตนยังไม่ทันได้ล็อครถ จึงได้รีบหยิบโทรศัพท์มาถ่ายคลิป ฝั่งชายฉกรรจ์ก็ถอยออกไปแต่ก็ยังมีการชี้หน้าด่าหาเรื่องเรื่อย ๆ โดยเฉพาะชายที่ถอดเสื้อตามที่ปรากฏในคลิป ตนจึงขับออกมา แต่พอถึงบริเวณปากซอยรัชดา 18 ก็เห็นว่ามีแท็กซี่สีเหลือง ชายคนถอดเสื้อเป็นคนขับได้ขับตามมา คล้ายว่าสะกดรอยตาม ตนจึงรีบขับกลับไปยังบ้านพักซึ่งอยู่ไม่ไกลจากซอยดังกล่าว ก็ยังพบว่าแท็กซี่คันนี้ได้ขับมาสอดแนมบริเวณบ้านของตนก่อนจะขับออกไป 

หลังจากนั้นตนได้แจ้งเรื่องไปยังกลุ่มเพื่อนแท็กซี่ในไลน์ แต่ปรากฏว่าดันมีชายที่อ้างว่าเป็นหัวหน้าคิววินแท็กซี่นซอยรัชดาภิเษก 18 โทรไลน์มาเพื่อขอเจรจาประนีประนอมและขอโทษกับสิ่งที่เกิดขึ้น เพื่อไม่ให้เอาความ แต่ตนมองว่าเรื่องนี้มันไม่สามารถยอมความได้เพราะหากเกิดอันตรายใด ๆ ขึ้นมา ตนก็คงไม่ได้กลับมาเจอหน้าลูก แล้วอยากให้เรื่องนี้เป็นอุทาหรณ์เตือนภัยไปยังคนขับแท็กซี่ว่า ยังมีกลุ่มผู้มีอิทธิพลแบบนี้ในกรุงเทพฯ และอาจจะเป็นอันตรายกับประชาชน จึงตัดสินใจเข้าแจ้งความกับพนักงานสอบสวน สน.สุทธิสาร และร้องเรียนผ่านสื่อมวลชน เพื่อให้เกิดการแก้ไขปัญหา ขจัดกลุ่มมาเฟียแบบนี้ให้หมดไปพร้อมทั้งยืนยันว่าจะเอาความให้ถึงที่สุด โดยในวันนี้จะเดินทางเข้าให้ปากคำกับตำรวจ สน.สุทธิสารอีกครั้ง 

คุณเอ ยอมรับว่า ตอนนี้รู้สึกกลัวอย่างมาก ไม่กล้าที่จะรับผู้โดยสารบริเวณรัชดาภิเษกและพระราม 9 เพราะเกรงว่าจะมีกลุ่มวินแท็กซี่ที่เกี่ยวข้องจะมาทำร้ายร่างกาย หากเมื่อคืนนี้ตนได้รับอันตรายก็อาจจะไม่ได้เจอหน้าลูกอีกก็เป็นได้