วันที่ 9 ก.พ. 2567 ที่รัฐสภา นายแทนคุณ จิตต์อิสระ ประธานคณะกรรมการส่งเสริมสิทธิมนุษยชนและความเท่าเทียมระหว่างเพศ พรรคประชาธิปัตย์ นายนิยม นพรัตน์ หรือเค สามถุยส์ นางกัลยาณี จูปรางค์ หรือป้าอยุธยา กลุ่มสีดาจะไม่ทน นายทันกวินท์ รัฐวัฒก์อังกูร ในฐานะแนวร่วมเพจ ‘วันนี้ก้าวไกลโกหกอะไร‘ เดินทางมายื่นหนังสือร้องเรียนนายพิเชษฐ์ เชื้อเมืองพาน รองประธานสภาผู้แทนราษฎรคนที่ 2 เพื่อสอบจริยธรรมที่มีความร้ายแรงของนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ สส.บัญชีรายชื่อ และประธานที่ปรึกษาหัวหน้าพรรคก้าวไกล กรณีละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ในฐานะนายประกัน และผู้กำกับดูแล นางสาวทานตะวัน ตัวตุลานนท์ หรือตะวัน แกนนำกลุ่มทะลุวัง ในการกระทำอันเป็นการแสดงพฤติกรรมมิบังควรต่อขบวนเสด็จ 504 การให้สัมภาษณ์ให้ร้ายประเทศไทย และการพูดโกหก

โดยนายแทนคุณ กล่าวว่า เนื่องจากนายพิธา ละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ ในฐานะนายประกัน และผู้กำกับดูแลนางสาวทานตะวัน ผู้ต้องหาตามความผิดประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 และมีพฤติกรรมเซาะกร่อนบ่อนทำลายสถาบันพระมหากษัตริย์อย่างต่อเนื่อง จนมีคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ ที่เชื่อมโยงให้เห็นถึงการกระทำที่ต่อเนื่อง มีส่วนสนับสนุนและสัมพันธ์กันและกัน ของนายพิธา พรรคก้าวไกลและผู้ที่เคลื่อนไหว ซึ่งนายพิธา ได้แถลงต่อศาลอาญาในการรับเป็นนายประกันให้นางสาวทานตะวัน ว่าจะทำหน้าที่เป็นผู้กำกับดูแล เพื่อให้ปฏิบัติตนตามเงื่อนไขของศาล และจะรับผิดชอบอย่างเต็มที่ตามที่กฎหมายรับรองไว้

บัดนี้ พบว่านางสาวทานตะวัน หนึ่งในการกระทำอันเป็นการแสดงพฤติกรรมมิบังควรต่อขบวนเสด็จ 504 โดยการพยายามขับรถยนต์ด้วยความเร็ว เพื่อไปให้ทันขบวนเสด็จ จนตำรวจต้องสกัดกั้น มิให้แทรกเบียดเข้าไปในขบวน อันอาจก่อให้เกิดอันตรายได้ รวมทั้งการแสดงกิริยาก้าวร้าว มีพฤติการณ์ไม่สมควร ในการบีบแตรรถเสียงดังยาวนาน การตำหนิมีปากเสียง และต่อว่าเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติหน้าที่ ซึ่งล้วนแต่เป็นพฤติการณ์ที่สร้างความสะเทือนใจให้คนไทยทุกหมู่เหล่า 

รวมทั้ง กรณีที่นายพิธา ได้เคยอภิปรายในสภา ในลักษณะยกข่องนางสาวทานตะวัน ว่า 'มองตาแล้วเห็นพิพิมลูกสาวผมอยู่ในนั้น" ย่อมเป็นการแสวงหาผลประโยชน์ทางการเมืองโดยมิชอบกับเด็ก ไม่เว้นแม้แต่บุตรสาวของนายพิธาเอง ยังทำร้ายลูกสาวได้ลงคอ เพราะรอยพิมพ์ดิจิทัลจะเป็นสิ่งที่สร้างตราบาปให้กับเด็กที่ถูกอ้างอิงตลอดไป ถือเป็นพฤติการณ์ที่เลวร้ายที่สุด

ดังนั้น การกระทำดังกล่าวข้างต้น เป็นการกระทำที่ผิดต่อกฎหมาย และจริยธรรม รวมทั้งพฤติการณ์ที่ชอบพูดโกหกซ้ำซาก และการสัมภาษณ์ในลักษณะให้ร้ายประเทศของนายพิธาหลายเรื่อง ที่กระทบต่อศีลธรรม และภาพลักษณ์อันดีของสภาผู้แทนราษฎร เช่น การให้สัมภาษณ์หลังศาลรัฐธรรมบูญมีคำวินิจฉัยต่อสื่อต่างประเทศ การกลับมางานศพพ่อไม่ทัน การติดสติกเกอร์ช่องยกเลิก ม.112 การวาดภาพลอกเลียนแบบงานของโมเนต์ เป็นต้น รวมทั้งการนำเด็กเยาวชนขึ้นเวทีปราศรัย ในลักษณะมีข้อความเกลียดชังอีกด้วย ซึ่งล้วนแล้วแต่เป็นแบบอย่างที่ไม่เหมาะสมกับเยาวชน และประชาชนทั่วไป

ทั้งนี้ นายพิเชษฐ์ ไม่ได้ลงมารับ แนวร่วมเพจ ‘วันนี้ก้าวไกลโกหกอะไร‘ จึงต้องไปยื่นหนังสือผ่านระบบสารบรรณสำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร