เมื่อเวลา 13.30 น. วันที่ 9 ก.พ. ที่กองบัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (บช.สอท.) เมืองทองธานี พล.ต.ต.อรรถสิทธิ์ สุดสงวนรอง ผบช.สอท. พล.ต.ต.ภูมิพัฒน์ ภัทรศรีวงษ์ชัย ผบก.สอท.5  พล.ต.ต.สถิตย์ พรมอุทัย ผบก.สอท.3 พ.ต.อ.นรวัตน์ คำภิโล รอง ผบก.สอท.4  และ นายสมบัติ ลีลาพตะ รรท.รองเลขาธิการ กสทช. ร่วมกันแถลงข่าวผลการปฎิบัติการตามยุทธการ Stop Scam Network ตัดวงจรแก๊งโจรออนไลน์ โดยจับกุมคดีอาชญากรรมทางออนไลน์ 3 คดี 

คดีแรกนำหมายค้นศาลจังหวัดสตูล เข้าตรวจค้นร้าน ในพื้นที่ หมู่ที่ 6 ตำบลคลองขุด อำเภอเมือง จังหวัดสตูลจับกุมตัว น.ส.กุสุมา อายุ 41 ปี หลังสืบทราบว่ามีการโฆษณาในช่องทางสื่อออนไลน์จำหน่ายเครื่องวิทยุคมนาคม ประเภทเครื่องรับ เครื่องมือ  หรืออุปกรณ์ เพื่อนำไปใช้รับหรือแปลงสัญญาณในการรับรายการของกิจการกระจายเสียงหรือกิจการโทรทัศน์ อีกทั้งลักลอบผลิต นำเข้า จำหน่าย กล้องวงจรปิดไร้สายที่มีการใช้งานคลื่นความถี่ไม่เป็นไปตามมาตรฐานของ กสทช. โดยไม่ผ่านการอนุญาตและตรวจสอบรับรองมาตรฐานตามที่ กสทช. กำหนด โดยตรวจยึดของกลาง อาทิ กล่องรับสัญญาณ ,กล่องรับสัญญาณทีวีดาวเทียม ,จานรับสัญญาณดาวเทียมและหัวรับสัญญาณ  เป็นต้น 

ขณะเดียวกันได้ตรวจค้นห้างหุ้นส่วนจำกัดแห่งหนึ่ง ตั้งอยู่หมู่บ้านสินทวีสวนธน 2 (14 แยก 2) ซอยประชาอุทิศ 76 แขวงทุ่งครุ เขตทุ่งครุ  ซึ่งมีพฤติกรรมลักษณะเดียวกัน โดยจากการตรวจสอบไม่พบใบอนุญาตให้ค้าจึงแจ้งข้อหา จำหน่าย หรือมีไว้เพื่อจำหน่ายหรือรับติดตั้งกล่องรับสัญญาณดังกล่าวโดยไม่ได้รับ อนุญาตตามกฎหมาย การประกอบกิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทัศน์ และ ค้าเครื่องวิทยุ คมนาคมโดยไม่ได้รับอนุญาตจากเจ้าพนักงานผู้ออกใบอนุญาต จึงควบคุมตัวส่งพนักงานสอบสวน สภ.เมืองสตูล และสน.ทุ่งครุเพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

คดีที่สองจับกุมเครือข่ายโทรหลอกติดตั้งแอปดูดเงิน โดยจับกุม 4 ใน 7 ผู้ต้องหา ซึ่งขบวนการนี้ จะอ้างตัวเป็นเจ้าหน้าที่ของทางผู้ให้บริการเครือข่ายแจ้งว่ามีบัญชีหมายเลขโทรศัพท์ของผู้เสียหายถูกระงับการใช้งาน ช่วยหาผู้เสียหายหลงเชื่อก็จะให้ติดต่อผ่านช่องทางแอพพลิเคชั่นไลน์ และ แจ้งว่าผู้เสียหายกระทำความผิดเกี่ยวกับการฟอกเงินแนะนำให้แจ้งความ โดยคนร้ายจะส่งลิ้งค์เข้าไปให้ผู้เสียหายดาวน์โหลด ก่อนที่ผู้เสียหายจะติดตั้งแอพฯ ก็จะทำการดูดเงินไปซึ่งคดีนี้มีผู้เสียหายสูญเงินกว่าสองล้านบาท ทั้งนี้จากการตรวจสอบพบว่าขบวนการนี้ เมื่อได้เงินจากผู้เสียหายไปก็จะโอนเข้าไปไปยังบัญชีที่การตลาดเตรียมไว้จากนั้นก็จะกดโดยใช้ระบบโพยก๊วนซึ่งตั้งอยู่ประเทศเพื่อนบ้านซึ่งจากนี้เจ้าหน้าที่จะทำการประสานงานประสานงานเพื่อขยายผลกับกลุ่มผู้กระทำความผิดต่อไป

นอกจากนี้ยังจับกุมนายนันทวุฒิ หรือเต้ อายุ 42 ปี ชาว จ.นครศรีธรรมราช หลังสืบทราบว่าเป็นแอดมินเพจ ป้ายทะเบียนปลอมส่งขายออนไลน์  มีพฤติกรรมรับทำป้ายทะเบียนรถทุกชนิด โดยตรวจยึดป้ายทะเบียนปลอม 109 แผ่น สอบสวนให้การรับว่าก่อนหน้านี้ ได้เปิดร้านทำกรอบป้ายกันน้ำให้แก่ลูกค้าในพื้นที่ จ.นครศรีธรรมราช ต่อมาปี 2564 ได้เริ่มเห็นช่องทางการสร้างรายได้ทางออนไลน์ จึงได้สร้างเฟซบุ๊กแฟนเพจและกลุ่มลับเพื่อรับทำป้ายปลอม โดยคิดค่าจัดทำแผ่นป้ายทะเบียนปลอมจากลูกค้าที่สนใจ ในราคาแผ่นละ 600 - 1,000 บาท โดยในแต่ละเดือนมีลูกค้าจากทั่วประเทศติดต่อเข้ามาสั่งซื้อเป็นจำนวนมาก ทำให้มีรายได้ ประมาณ 30,000 - 50,000 บาท ต่อเดือน เบื้องต้นแจ้งข้อหา "ปลอมเอกสารสิทธิ หรือเอกสารราชการฯ โดยทุจริต หรือโดยหลอกลวงนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่บิดเบือนหรือปลอมไม่ว่าทั้งหมดหรือบางสวน หรือ ข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จโดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ประชาชนฯ" นำตัวส่ง พนักงานสอบสวน กก.3 บก.สอท. 5 ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป